เทคนิคการทำธุรกิจสำหรับคนที่ไม่ได้เป็นเซลล์มาก่อน

โลกแห่งการเป็นเจ้าของธุรกิจ (Entreprenuership World) ถือว่าเป็นความใฝ่ฝันสำหรับคนที่อยู่ในโลกของการทำงานแบบมืออาชีพแทบทุกคน ในยุคนี้คงไม่มีใครกล้าเถียงว่าการสร้างความมั่งคั่งและความสำเร็จในเรื่องของ “เงินตรา” คงหนีไม่พ้นการสร้างธุรกิจอะไรซักอย่างที่เป็นของตนเอง

และตัวอย่างของบุคคลที่ประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจเป็นของตัวเองก็ไม่จำเป็นว่าจะต้องมาจาก “สายงานขาย” เพียงอย่างเดียว ตัวอย่างเช่น มาร์ค ซักเคอร์เบิร์กแห่งเฟซบุ้คที่เป็นโปรแกรมเมอร์มือฉมังมาก่อน แถมไม่ได้ทำงานเป็นนักขายอีกด้วย หรือบรรดาเชฟชื่อดังที่มีร้านอาหารอันลื่อชื่อเป็นของตนเอง พวกเขาคงไม่ได้มีเวลาออกมาขายของหน้าร้านขนาดนั้น ถูกไหมครับ (ฮา)

ดังนั้นนี่คือข่าวดีสำหรับคนที่ไม่ได้มีทักษะด้านการขายหรือผ่านงานเกี่ยวกับสายงานขายแล้วจะต้องล้มเหลวในการทำธุรกิจเสมอไป ขึ้นชื่อว่าธุรกิจ ความไม่แน่นอนย่อมเป็นอะไรที่แน่นอนเสมอครับ

เพียงแต่ทักษะการขายยังเป็นหนึ่งในสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งยวดสำหรับการทำธุรกิจที่จะช่วยให้เงินไหลมาเทมาง่ายกว่าคนที่ไม่มีทักษะนี้ ดังนั้น คุณจะมองข้ามเรื่องของการขายไม่ได้เป็นอันขาด และนี่คือคำแนะนำกับเทคนิคการทำธูรกิจสำหรับคนที่ไม่ได้มีทักษะการขายหรือผ่านงานขายมาก่อนจากผมครับ

1. เปิดใจกับการฝึกฝนทักษะด้านการขาย

ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร ทำอาชีพอะไรที่ไม่เกี่ยวกับการขายมาก่อนก็ช่าง การเรียนรู้และฝึกฝนด้านงานขายจะเป็นสิ่งที่คุณมองข้ามไปไม่ได้เป็นอันขาด คุณจะต้องเต็มใจเปิดรับการเรียนรู้และมุ่งเน้นไปในเรื่องการมีทักษะด้านงานขาย เพราะงานขายเป็นหนึ่งในไม่กี่วิธีที่จะทำให้คุณได้เงิน (อีกวิธีหนึ่งคือการตลาด) ธุรกิจที่ทำแล้วไม่ได้เงินนั้นช่างไร้ความหมาย เสียเวลาและเสียเงินเปล่าๆ ครับถ้าคุณไม่เน้นเรื่องนี้ การฝึกฝนที่ดีที่สุดคือการขายต่อหน้าลูกค้าของคุณเอง จงวัดผลการขายและปรับปรุงทักษะของคุณในทุกๆ ครั้ง เพราะโอกาสคงไม่ได้มีบ่อยๆ ข่าวดีของการขายที่เฉียบคมขึ้นจะทำให้คุณได้เงินในการรักษาธุรกิจของคุณให้อยู่รอด ต่อให้ไม่เคยขายมาก่อนยังไงก็ต้องขายอยู่ดี

2. โฟกัสไปที่คุณค่าของสิ่งที่ลูกค้าได้รับจากคุณก่อน

คนที่ไม่เคยขายของมาก่อนมักจะเชื่อว่าสินค้าที่ดี มีคุณสมบัติขั้นเทพ มีแพคเกจหรือภาชนะบรรจุที่สวยงาม มีราคาที่สามารถจับต้องได้ มีการตลาดขั้นเทพจ้างดารา ลงโฆษณาเต็มพิกัด อะไรทำนองนั้น ถ้าคุณคิดว่าการทำธุรกิจมีแต่เรื่องพวกนี้เพียงอย่างเดียวก็ “รอเจ๊ง” ได้เลยครับ เพราะคุณกำลังโฟกัสเฉพาะ “ตัวคุณเอง” มากเกินไปโดยไม่ได้นึกถึงลูกค้าเลย เพราะสินค้าที่ผลิตออกมาแล้ว ถ้ามันไม่ได้ตอบโจทย์หรือลูกค้าไม่เข้าใจว่าซื้อไปแล้วพวกเขาจะได้ประโยชน์ทั้งชีวิตหรือธุรกิจของพวกเขาอย่างไร ลูกค้าก็ไม่ซื้อคุณอยู่ดีครับ แสดงว่าการโฟกัสไปที่ประโยชน์ที่ลูกค้าจะได้รับเป็นสิ่งที่สำคัญกว่า ทำความเข้าใจและออกแบบสินค้าให้ตรงความต้องการพวกเขาให้ได้ก่อนครับ

3. แนวทางการออกแบบสินค้าและบริการจะขึ้นอยู่กับความต้องการของลูกค้า

สืบเนื่องจากการโฟกัสไปที่ลูกค้าก่อน คุณจะได้รับรู้ความต้องการที่แท้จริงของพวกเขา ยิ่งถ้าได้ข้อมูลจากลูกค้าหลายราย หลายแบบก็ยิ่งดีมากๆ คุณจะได้ข้อมูลสำคัญในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตรงความต้องการของพวกเขาจริงๆ หรือต่อให้คุณเปลี่ยนสินค้าไม่ได้เพราะรับของคนอื่นมาขาย คุณก็ยังพัฒนางานด้าน “การบริการ” ให้ตอบโจทย์ของพวกเขาได้มากขึ้น เช่น มีบริการส่งสินค้าถึงที่ ติดตั้งฟรี มีระบบออนไลน์ ดูแลลูกค้าตลอดอายุการใช้งาน มีประกันที่ยาวนาน เป็นต้น ซึ่งสิ่งที่สำคัญก็คือข้อมูลของลูกค้าที่ตอบโจทย์ความต้องการของพวกเขาที่สุดครับ

4. เรียนรู้ทักษะการขายและการทำธุรกิจจากคนที่ประสบความสำเร็จ

ไม่มีวิธีไหนที่จะทำให้คุณเก่งได้อย่างรวดเร็วเท่าวิธีนี้อีกแล้วครับ คนที่ประสบความสำเร็จ โดยเฉพาะคนที่ทำธุรกิจคล้ายกับคุณหรือมีประสบการณ์เช่นเดียวกับคุณมาก่อนย่อมเป็นเรื่องที่เยี่ยมมากๆ พวกเขาจะรู้ตื้นลึกหนาบางเกี่ยวกับธุรกิจเป็นอย่างดี สามารถบอกคุณได้อย่างชัดเจนว่า “อะไรควรทำ อะไรไม่ควรทำ” คุณต้องเข้าหาพวกเขาได้ทั้งการใช้มนุษยสัมพันธ์ที่ดีในการทำความรู้จัก หรือถ้าไม่เก่งเรื่องการเข้าหาคน การลงทุนด้วยเงินเพื่อซื้อโอกาสในการเข้าสังคมแห่งนักธุรกิจก็เป็นทางเลือกที่ดี เช่น การเรียนปริญญาโทด้านธุรกิจ เข้าสัมมนาเชิงธุรกิจ เป็นต้น

5. เรียนรู้ทักษะด้านการตลาดออนไลน์

ยุคนี้คงหนีไม่พ้นการทำธุรกิจออนไลน์ที่แทบจะกลืนกินธุรกิจออฟไลน์แบบ 100% ใครจะเชื่อว่าทุกวันนี้คุณไม่ต้องไปยืนโบกรถแท็กซี่ข้างถนนอีกต่อไปแล้ว การตลาดออนไลน์จึงเป็นสิ่งที่จำเป็น เพราะแก่นแท้หลักๆ ของงานด้านการตลาดก็คือการสร้างความต้องการจนผู้คนรู้สึกว่ามันตอบโจทย์อะไรซักอย่างนึง จนเกิดเป็นการเปรียบเทียบและตัดสินใจซื้อ ซึ่งงานด้านการตลาดจะต้องสร้างการจดจำและทำให้ลูกค้าเห็นซ้ำๆ สมัยก่อนคงลงโฆษณาตามป้ายแห้งๆ หรือทุ่มเงินลงโฆษณาในทีวี แต่เดี๋ยวนี้คงต้องพึ่งเครื่องมือออนไลน์เช่น เฟซบุ้ค ไอจี ไลน์ ยูทุป แทนสมัยก่อนแล้วล่ะครับ ดังนั้นคุณจะต้องไปเรียนรู้และเริ่มสร้างงานโฆษณาบนโลกออนไลน์ให้ตรงกลุ่มเดี๋ยวนี้เลยครับ

ถ้าคุณคิดจะเริ่มทำธุรกิจเป็นของตัวเอง ขอบอกเลยครับว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับคำว่าพรสวรรค์เป็นอันขาด ทุกอย่างสามารถฝึกฝนได้ วินัยต่างหากที่เป็นสิ่งที่สำคัญกว่าสำหรับการทำธุรกิจ จงคิดว่าการเผชิญหน้ากับอุปสรรคและก้าวข้ามผ่านมันไปให้ได้ก็จะทำให้ธุรกิจของคุณประสบความสำเร็จครับ

Leave your vote

Comments

0 comments

Similar Posts

ใส่ความเห็น