ฉากแห่งความประทับใจ จากหนังเรื่อง 'The Pursuit of Happyness'

ฉากแห่งความประทับใจ จากหนังเรื่อง
‘The Pursuit of Happyness’
.
ผมมักจะหยิบเรื่องจากหนัง
เอามาเล่า เอามาแชร์
ให้เพื่อนๆ อยู่เสมอ
.
ฉากที่ผมได้หยิบมาในวันนี้
เป็นฉากแห่งความประทับใจ
จากหนึ่งในภาพยนตร์เกี่ยวกับการขาย
“ที่ยอดเยี่ยมที่สุดในโลกภาพยนตร์”
.
เป็นเรื่องราวจากชีวิตจริง
ของ ‘คริสโตเฟอร์ การ์ดเนอร์’
นักลงทุนและนักสร้างแรงบันดาลใจ
“ชื่อก้องโลก!”
.
จากเซลล์แมนขายเครื่องมือแพทย์
ผู้ล้มเหลว ไม่มีต้นทุนทางสังคมใดๆ
ล้มเหลวทั้งครอบครัว
ล้มเหลวทั้งการเงิน
แถมการงานยังเข้าขั้นวิกฤต
.
“ขายไม่ได้เลย”
.
คริส การ์ดเนอร์ ได้ถามเจ้าของรถ
‘เฟอรารี่’ ที่ดูดี มีแต่ความสุขคนหนึ่งว่า..
“ทำยังไง ผมถึงจะมีความสุขแบบคุณบ้าง?”
โบรกเกอร์คนนั้นตอบว่า
“ก็ทำงานเป็นโบรกเกอร์ไงเพื่อน (พร้อมกับชี้นิ้ว)”
ไปที่บริษัท Dean Witter Reynolds
บริษัทนายหน้าค้าหุ้นชื่อดัง
.
คริสเข้าร่วมโปรแกรมฝึกอบรมการเป็นนายหน้าค้าหุ้น
เป็นเวลา 6 เดือน ที่ต้องผ่านด่านทดสอบ
“โดยไม่ได้รับเงินแม้แต่แดงเดียว”
ระหว่างนั้น โดนเรียกเก็บภาษี…
มีปัญหากับเมีย…เมียทิ้ง
ต้องเลี้ยงลูกชายคนเดียว
“เพียงลำพัง”
.
ชีวิตในช่วงนั้นต้องฝ่าฟัน
ขายของไปด้วย เรียนไปด้วย ทำงานไปด้วย
เริ่มไม่มีเงิน โดนไล่ออกจากห้องเช่า
ต้องระเหเร่ร่อน
“ไปนอนตามสถานสงเคราะห์”
.
บางวันไปจองไม่ทัน
ต้องหาที่ซุกหัวนอนชั่วคราว
“เป็นสถานีรถไฟใต้ดิน ก็ต้องเอา”
.
ถึงแม้ว่าจะย่ำแย่ขนาดไหน
คริส ก็ไม่ลืมที่จะสอนลูกชายของเขาว่า..
“อย่าให้ใครมาบอกลูกว่า…”
“ลูกทำนั่นทำนี่ไม่ได้…”
“แม้แต่พ่อ…เข้าใจมั้ย?”
“เมื่อลูกมีความฝัน…ลูกต้องปกป้องมัน”
“คนที่ทำไม่สำเร็จ เขาจะบอกว่า…”
“ลูกก็ทำไม่ได้หรอก”
“แล้วถ้าลูกต้องการอะไรล่ะก็…”
“จงไปคว้ามันมาให้ได้…”
.
ฉากนี้เป็นอีกหนึ่งฉากที่ยอดเยี่ยม
“แห่งโลกภาพยนตร์”
ในการสร้างแรงบันดาลใจ
(จำเอาไว้นะครับ ทุกคน)
.
ชีวิตถึงจุดบีบคั้นถึงขีดสุด
คริส พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า
เขาไม่เคยยอมแพ้
พัฒนาตัวเองอยู่เสมอ
จนได้ร่วมงานเป็นโบรกเกอร์มืออาชีพ
.
ฉากที่ 2 เป็นฉากแห่งความซาบซึ้ง
เจ้านายของเขายินดี
ต้อนรับเขาเข้ามาอยู่ในทีม
.
คริส กล่าวขอบคุณ
น้ำตาคลอเคล้า เกือบจะไหลริน
ไม่ใช่น้ำตาแห่งความเศร้า
“แต่เป็นน้ำตาแห่งความยินดี”
.
คริส ก้าวออกไป กล่าวขอบคุณ
วิ่งออกไปหาลูกชายของเขา
พร้อมกับหัวใจที่กรีดร้อง ภายในใจ
ถึงไม่ต้องพูด ก็รับรู้ด้วยความรู้สึก
“ว่าน่ายินดีขนาดไหน”
.
คุณเองก็เช่นกัน เมื่อประสบความสำเร็จอะไรซักอย่าง
จะใหญ่ จะเล็ก ไม่สำคัญ
ถ้าสิ่งนั้น มันคือส่วนหนึ่งของชีวิต
‘ที่ทำให้คุณมีความสุข’
.
…สิ่งนั้นก็คุ้มค่าที่คุณจะได้รับความสุขเหล่านั้นแล้วครับ…
.
============================
.
นี่คือหนังในตำนานอีกหนึ่งเรื่อง ที่นักขาย นักธุรกิจ
“ต้องดู”

Leave your vote

Comments

0 comments

Similar Posts

ใส่ความเห็น