ข้อดีของการทำงานแบบ Work from home

เริ่มต้นสัปดาห์แรกของการประกาศให้ “กักตัวเอง” อย่างเป็นทางการนะครับ ทางบริษัทของผมก็มีนโยบายให้พนักงานทุกคนทำงานที่บ้านแบบ Work from home กันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว อันที่จริงแล้วก่อนมีการประกาศอย่างเป็นทางการ บริษัทของผมได้ทดลองใช้ระบบนี้เรียบร้อยแล้ว

ก่อนที่จะเริ่มใช้ระบบนี้ ผมเองก็มีความรู้สึกกังวลเป็นอย่างมาก เพราะหัวใจการขายของผมที่มักบอกคุณเสมอคือการขายที่ยอดเยี่ยมคือการเจอลูกค้าต่อหน้า โดยเฉพาะธุรกิจแบบองค์กร (B2B) ซึ่งคงยากมากๆ ที่จะเปิดการขายมูลค่าหลักล้านโดยที่ไม่เจอหน้าลูกค้า อย่าว่าแต่ขายได้เลย เอาแค่เวลาต้องทดสอบสินค้าให้ลูกค้าดูก็ทำไม่ได้แล้วครับ

แล้ว Work from home จะให้ประโยชน์อะไรไปกว่าการนั่งหลบหนีไวรัส หรือนั่งทำงานเขย่าขาสบายๆ ในห้องส่วนตัว ถึงตรงนี้ผมมีคำตอบให้คุณแล้วครับ ที่สำคัญคือมันไม่ได้ทำให้การทำงานกับลูกค้าของคุณแย่ลงมากอีกด้วย รบกวนฟังผมให้ดีดังนี้ครับ

1. ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายในการเดินทาง

อันนี้มันแหงอยู่แล้วล่ะครับ (ฮา) แต่มันก็คือข้อดีจริงๆ ที่ทำให้คุณไม่ต้องเจอกับเรื่องปวดหัวทุกเช้าและก่อนกลับบ้าน ตื่นสายซักแปดโมงเช้าได้เลยด้วยซ้ำเพราะไม่ต้องรีบขับรถไปไหน คุณจะมีเวลามหาศาลในการกินข้าวเช้า พร้อมกับอาบน้ำอาบท่าแต่งตัวสบายๆ (หรือจะแต่งชุดทำงานเฉพาะท่อนบนก็ได้) แล้วก็นั่งเปิดคอมทำงานได้เลย เอาแค่เรื่องนี้ก็ทำให้คุณประหยัดเงินได้มาก และทำให้คุณมีความสุขกับไม่เสียเวลาบนท้องถนนมากขึ้นครับ

2. การประชุมภายในมีประสิทธิภาพสูงขึ้นอย่างคาดไม่ถึง

กิจกรรมที่จำเป็น (หรือบางทีก็ไม่ค่อยจำเป็น) อย่างการประชุมภายใน โดยเฉพาะการประชุมทีมขาย เชื่อหรือไม่ว่าการใช้วีดีโอคอลจะทำให้ประสิทธิภาพในการประชุมสูงกว่านั่งเจอหน้ากันเสียอีก เนื่องจากเวลาที่ถึงคิวแต่ละคนที่ต้องพูดในที่ประชุม จำเป็นต้องฟังคนพูดให้จบก่อนเสมอ เพราะการพูดแทรกเหมือนการเจอหน้าแล้วขอแทรกนั้นมันค่อนข้างผิดธรรมชาติของการโทรแบบวีดีโอ อีกทั้งยังก่อให้เกิดความรู้สึกรำคาญ เพราะอย่างนี้แหละจึงทำให้ผู้พูดได้พูดอย่างเต็มที่ ผู้ฟังก็รับฟังอย่างมีสมาธิมากขึ้น และแต่ละคนจะพยายามใช้เวลาให้น้อยเพราะไม่ต้องเจอหน้ากัน ทำให้ลดโอกาสการประชุมแบบยืดเยื้อ

3. การประชุมกับลูกค้าผ่านวีดีโอคือกุญแจสำคัญเพื่อให้ขายแบบเจอหน้าได้

คุณไม่ต้องคิดว่าลูกค้าของคุณจะต้องเป็นองค์กรใหญ่โตหรือองค์กรต่างชาติที่มีระบบประชุมผ่านวีดีโอคอลได้เท่านั้น ลูกค้าบ้านๆ อย่างธุรกิจ SME หรือดีลเลอร์ก็สามารถใช้โปรแกรมง่ายๆ อย่างไลน์ในการขอลูกค้าคุยผ่านหน้ากล้อง แรกๆ อาจจะไม่ชิน แต่เชื่อเถอะว่าการโทรไปทำนัดพวกเขาโดยระบุว่าจะขอคุยผ่านกล้องเพื่อความปลอดภัยของลูกค้าเป็นอันดับแรกจะทำให้พวกเขาเข้าใจและยอมรับนัดคุณ ที่สำคัญคือประสิทธิภาพการประชุมผ่านวีดีโอคอลมีผลลัพธ์ที่ดีไม่ต่างกับการเจอหน้า เพราะคุณจะมีสมาธิในการฟังมากขึ้น ลูกค้าเองก็เช่นกันครับ วิธีนี้ทั้งประหยัดเวลาและปลอดภัยกับลูกค้าเป็นอย่างมาก

4. มีเวลาโทรหาลูกค้ามากขึ้น 

ไม่ต้องปวดหัวกับการวิ่งหาห้องว่างๆ ในบริษัท หรือหาสถานที่เงียบๆ เพื่อนั่งโทรหาลูกค้าอีกต่อไปแล้ว ผมรู้นะครับว่านักขายหลายๆ คนมักเจอเรื่องน่ารำคาญใจก็คือการหาที่โทรหาลูกค้านี่แหละครับ ประสิทธิภาพการโทรที่ดีคือการโทรคนเดียวโดยที่ไม่มีสิ่งรบกวนเช่น เพื่อนร่วมงานคุยเสียงดัง หรือคนเดินผ่านไปผ่านมา ฯลฯ จงแน่ใจว่าสภาพแวดล้อมตอนทำงานที่บ้านของคุณพร้อมมากพอที่จะทำงานคนเดียวโดยที่ไม่มีอะไรรบกวนนะครับ

5. ประหยัดเงินและมีเวลาให้คนที่คุณรัก

จริงๆ แล้วเงินมักจะหล่นตอนคุณออกนอกบ้านนี่แหละครับ ถ้าไม่นับค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ลองคิดดูว่าเงินกระเด็นออกไปทางไหนบ้าง เช่น กาแฟแก้วละร้อยกว่าบาท อาหารมื้อเย็นแบบจัดเต็มนอกบ้าน กิจกรรมกินดื่มกับเพื่อนร่วมงาน เป็นต้น การซื้อมาทำเองที่บ้านจะทำให้เงินคุณเหลืออย่างมาก และที่สำคัญคือถ้าคนที่คุณรักก็ต้องกักตัวเหมือนกับคุณ คุณจะมีเวลาให้พวกเขาตลอดทั้งวันเลยล่ะครับ นี่คือการคิดบวกที่ทำให้คุณมีความสุขเพิ่มขึ้นท่ามกลางสภาวะวิกฤตแบบนี้ เมื่อใดที่เรื่องไวรัสหายไป คุณจะรู้เลยว่าการทำงานที่บ้านให้อะไรมากกว่าที่คุณคิด

นี่คือประโยชน์และข้อดีของการวางแผนทำงานและปรับตัวให้ทำงานแบบ Work from home จากผมครับ

Leave your vote

Comments

0 comments

Similar Posts

ใส่ความเห็น