ไม่ใช่แค่สั่ง! ‘เคล็ดลับ’ ปกครองคนให้ ‘เก่ง’ และ ‘ทุ่มเท’ เกินร้อย
ถ้าจะให้พูดถึงวิธีการเป็นผู้นำที่ยอดเยี่ยม หรือตำราเกี่ยวกับการปกครองคน ผมคิดว่าคุณคงหาอ่านหรือฟังได้ไม่ยาก แม้กระทั่งการไปถาม ‘AI’ ว่าทำยังไงถึงจะเป็นหัวหน้าหรือผู้บังคับบัญชาที่ดีได้ คุณคงได้คำตอบเพียงปลายนิ้ว แต่ตำราหรือคอนเทนท์เกือบทุกอย่างแทบจะหา ‘หัวใจหลัก’ ของการเป็นหัวหน้าคนที่ยอดเยี่ยม ได้ใจลูกน้องกันไม่ได้เลย ทั้งๆ ที่เรื่องนี้เป็น ‘เรื่องที่สัมผัสและจับต้องได้’ แบบนักเลงบ้านนอกยังรู้ดีและปกครองคนได้เก่งกว่าผู้บริหารระดับสูงในออฟฟิศเลยด้วยซ้ำ มาดูกันว่าศาสตร์ที่ว่านั้นเป็นยังไง
1. ใช้ระบบอุปถัมภ์ของสังคมไทยให้เป็นประโยชน์
ประเทศนี้ไม่มีทางหนีคำว่าระบบอุปถัมภ์ ซึ่งฟังดูก็รู้สึกลบๆ ราชการๆ เจ้าขุนมูลนายอะไรทำนองนั้น แต่ปฎิเสธไม่ได้หรอกครับว่าคำนี้มีอยู่จริง ระบบแบบพี่ปกครองน้อง พ่อปกครองลูก และทำให้ผู้รับรู้สึกว่าเป็นหนี้บุญคุณของเรา ได้ผลประโยชน์ร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเงินทอง ตำแหน่ง อำนาจ เรียกได้ว่าถ้าให้ลูกน้องไปก็ได้ใจลูกน้องมากๆ แล้วล่ะครับ คนเราหลีกเลี่ยงคำว่าบุญคุณไม่ได้หรอก ดังนั้นคุณจะใช้เรื่องนี้ในการปกครองลูกน้องเป็นหลัก จำไว้นะครับ ‘เงิน ตำแหน่ง อำนาจ’
2. บารมีและอิทธิพลส่วนตัว
คำว่าบารมี สร้างได้ง่ายๆ ด้วย ‘ของที่ตัวเองมี’ ยิ่งคุณมียศฐาบรรดาศักย์หรือการศึกษาสูง มีอายุที่เหมาะสม ที่สำคัญคือควรมี ‘เครือข่าย’ หรือคอนเนคชั่นที่อุดมไปด้วยคนเก่งๆ (ยิ่งเป็นคนที่มีอำนาจก็ยิ่ง) กว้างขวาง โดยเฉพาะคอนเนคชั่นทางธุรกิจ ซึ่งเรื่องนี้จะสร้างอิทธิพลได้ไม่มากก็น้อยเลยทีเดียว ที่สำคัญคือแก่นแท้ของการสร้างบารมีจะต้องมาจากตัวตนของคุณ ซึ่งก็คือการทำงานเก่ง ความสามารถสูง บวกกับบุคลิกภาพที่มีเสน่ห์ กล้าแสดงออก กล้าได้กล้าเสีย จะได้เปรียบและได้ใจลูกน้องง่ายขึ้นมาก
3. สร้างระบบความเป็นพวกพ้อง ปกป้องลูกน้อง
สังเกตไหมครับว่าองค์กรใหญ่ๆ ที่มีทีมขายที่แข็งแกร่ง ทำไมผู้จัดการฝ่ายขายมักออกตัวแทนลูกน้องในทีมเวลามีปัญหาและความขัดแย้งกับแผนกอื่นอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นแผนกบัญชี แผนกติดตั้ง ส่งมอบ ฯลฯ พูดตรงๆ เลยคือหัวหน้าที่ดีต้องยอม ‘เป็นหมา’ ในสายตาแผนกอื่นเพื่อ ‘ปกป้อง’ ความถูกต้องของลูกน้องในทีม ทำให้ลูกน้องรู้สึกปลอดภัย บอกเลยว่าโคตรได้ใจลูกน้องในสังคมการทำงานออฟฟิศมากๆ ครับ
4. สร้างระบบให้ลูกน้องรู้สึกว่ามีค่านิยมและวัฒนธรรมเดียวกัน
ทำไมองค์กรบางแห่งถึงคัดคนจากเรื่องสถาบัน เรื่องนี้เกี่ยวข้องมากๆ ทีเดียวเพราะอำนาจการปกครองจะง่ายขึ้นมากถ้าลูกน้องมีความรู้สึกร่วมเหมือนๆ กัน เช่น ภูมิลำเนา สถาบันการศึกษา อายุ เพศ ฯลฯ บางวงการเน้นเด็กจบนอก บางวงการต้องวิศวะสถาบันนี้ หรือเรื่องเพศที่ต้องเน้นว่าเป็น ชาย หญิง LGBT เป็นต้น เรื่องนี้ผมมีประสบการณ์ตรงๆ เพราะเป็นเด็กเชียงใหม่เพียงคนเดียวที่ได้ทำงานกับเด็กสถาบันดัง ต้องปรับตัวเป็นอย่างมากเลยทีเดียวครับ
5. อย่าลืมปกครองคนด้วยความกลัว
พลังพระเดชที่ควบคุมคนได้อย่างเบ็ดเสร็จก็คือความกลัวครับ ต้องมีบทลงโทษ มีกติกาที่ชัดเจน และมีระบบประเมินผลที่ยุติธรรม ถ้าเป็นโลกแห่งการทำงานก็คือคำว่า KPI นี่แหละครับ ที่สำคัญคือต้องมีบทลงโทษที่จริงจัง เชือดไก่ให้ลิงดู หรือกล้าที่จะตัดเนื้อร้ายออกในกรณีที่บางคนเริ่มกำเริบเสิบสาน (ฮา) ทำให้ลูกน้องคนอื่นไม่กล้าต่อต้านคุณครับ
การปกครองลูกน้องแบบ ‘ถวายชีวิต’ ได้นั้น เป็นผลจากการผสมผสานระหว่างการให้ผลประโยชน์ การสร้างบารมี การสร้างความรู้สึกเป็นพวกพ้อง อิทธิพลของวัฒนธรรมท้องถิ่น และในบางครั้งก็รวมถึงการใช้ความกลัวและการตอบสนองความต้องการทางจิตใจของลูกน้องด้วยนั่นเองครับ
Comments
0 comments