ลูกน้องตัวเทพขอลาออก คุณควรทำอย่างไร

“…ระบบดี คนดี ย่อมดีแน่
ระบบดี คนแย่ ต้องแก้ไข
ระบบแย่ คนดี มีทางไป
ระบบแย่ คนไม่ไหว บรรลัยมา…”

ผู้แต่ง..ไม่ทราบที่มาเหมือนกันครับ (ฮา)

จากกลอนที่กล่าวมาถือว่าเป็นกลอนยุคคลาสสิก เผลอๆ มีที่มาตั้งแต่รุ่นพ่อของคุณเลยก็ว่าได้ ผู้ใหญ่เขาได้กล่าวไว้ว่าการทำงานแบบองค์กรนั้น “คน” คือองค์ประกอบหลักของการทำงานเลยก็ว่าได้ เพราะต่อให้ระบบภายในจะแย่แค่ไหน แต่ถ้ามีพนักงานชั้นดี มีฝีมือ ย่อมมีทางไปต่ออย่างแน่นอน

ซึ่งเรื่องนี้ผมเห็นด้วย 100% เลยครับ บริษัทเปิดใหม่ตอนเปิดตัวนั้นแทบจะไม่มีระบบอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลย คนคือปัจจัยหลักที่ขับเคลื่อนให้องค์กรเดินหน้าต่อได้ พร้อมกับค่อยๆ พัฒนาระบบที่ดีจนองค์กรมีความแข็งแกร่ง

หมายความว่า “คน” คือทรัพยากรที่มีค่าที่สุด โดยเฉพาะถ้าคุณมีลูกน้องมือทอง เซลล์ขั้นเทพ พนักงานตัวฉกาจ พวกเขาคือบุคคลสำคัญที่นำพาความสำเร็จมาสู่คุณ ดังนั้นในฐานะหัวหน้างานหรือเจ้าของกิจการ การสูญเสียลูกน้องมือทองออกไป พวกเขาขอลาออกไปอยู่ที่ใหม่ ถูกดึงตัวไป คุณย่อมเจ็บกระดองใจและไม่อยากเสียเขาไปแน่ๆ

ผมเองก็เคยเผชิญหน้ากับสถานการณ์นี้เช่นกันครับ จึงมีประสบการณ์ในการรั้งพวกเขาหรือจัดการกับสถานการณ์นี้ได้อย่างมืออาชีพและอยากจะแชร์ให้คุณนำไปปรับใช้ได้เลยครับ

1. นัดคุยกับพวกเขาแบบเจอหน้า

เมื่อทราบข่าวว่าพวกเขาขอลาออก ในกรณีที่พวกเขาเดินไปเขียนใบลาออกจากฝ่ายบุคคลก่อนที่จะบอกคุณ จงระงับอาการโกรธและผิดหวังให้ได้ พร้อมกับขอทำนัดเจอหน้าพวกเขาเพื่อเปิดใจคุย โดยเฉพาะสาเหตุที่พวกเขาขอลาออก บางทีเรื่องที่เกิดขึ้นอาจเป็นแค่ “เส้นผมบังภูเขา” จากกรณีที่คุณมีปัญหาด้านการสื่อสารกับพวกเขาบางอย่างก็ได้ เช่น ข้อเสนอเรื่องการปรับตำแหน่งหรือเงินเดือน อำนาจ หน้าที่ เป็นต้น ซึ่งถ้าพวกเขาได้เปิดใจคุยกับคุณอย่างตรงไปตรงมา คุณจะได้ทราบเหตุผลที่แท้จริงและถ้าอำนาจของคุณสามารถช่วยพวกเขาได้ คุณก็จะมีโอกาสในการรักษาพวกเขาให้อยู่กับคุณได้ต่อไป

2. รั้งพวกเขาด้วยผลประโยชน์หรือค่าตอบแทนที่มากขึ้น

เป็นวิธีคลาสสิกทีเดียว เรียกได้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหน มันก็ได้ผลอยู่วันยังค่ำ คล้ายกับนักฟุตบอลระดับโลกที่สัญญาการค้าแข้งใกล้หมดขึ้นมา พวกเขาจะมีอำนาจต่อรองกับสโมสรทันที ยิ่งถ้าพวกเขาเป็นตัวเทพ พวกเขายิ่งคาดหวังไปถึงค่าเหนื่อยในสัญญาฉบับใหม่ที่เพิ่มขึ้น พนักงานของคุณเองก็เช่นกันครับ ตัวเทพอาจไม่กล้าขอขึ้นค่าตัวกับคุณตั้งแต่แรก ทั้งๆ ที่ฟอร์มดี พวกเขาจึงมองหางานใหม่เพราะตัวเองเก่งใช้ได้ การขอเปย์ค่าเหนื่อยเพิ่มขึ้นอาจจะช่วยรั้งพวกเขากลับมาได้ทันที เพราะไม่มีเหตุผลอะไรที่พวกเขาจะต้องไปเสี่ยงกับงานที่ใหม่ ในเมื่ออยู่กับคุณก็มีอำนาจหรือเครดิตล้นมืออยู่แล้ว วิธีนี้จะใช้ได้ผลมากถ้าพวกเขาไม่มีเหตุผลอะไรที่จะออกนอกจากเงิน

3. รั้งพวกเขาด้วยการปรับตำแหน่งให้สูงขึ้น

ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่คุณอาจไม่ต้องเปย์ค่าเหนื่อยเพิ่มขึ้นขนาดนั้น แต่ปรับตำแหน่งใหม่ให้มีความใหญ่ขึ้นแทน เช่น ตำแหน่งนักขายระดับซีเนียร์ คุณก็ปรับให้เป็นผู้จัดการฝ่ายขายหรือซูเปอร์ไวเซอร์ (Supervisor, ลูกน้องผู้จัดการแต่คุมทีมได้) เป็นต้น พร้อมกับเพิ่มค่าเหนื่อยให้อีกนิดหน่อย ตัวเทพของคุณอาจหวั่นไหวและไม่ลาออกเพราะอยู่ที่เดิมก็สบาย ได้อำนาจจากตำแหน่งใหม่มากขึ้น ค่าเหนื่อยดีขึ้น คงยากมากที่พวกเขาจะขอออกไปเสี่ยงกับอนาคตที่ไม่แน่นอนเหมือนกับที่คุณสามารถมอบข้อเสนอนี้ได้ทันที

4. รู้ไว้เสมอว่าตัวเทพส่วนใหญ่จริงๆ แล้วไม่กล้าเสี่ยง

คนทำงานส่วนใหญ่มักต้องมีจุดสบาย (Comfort Zone) ให้ตัวเองยึดเหนี่ยวเอาไว้ก่อน เช่น ทำงานที่เดิมเป็นเวลานานๆ แล้วไม่กล้าลาออก หรือยอมอยู่ในตำแหน่งเดิมๆ เพราะไม่อยากได้ความรับผิดชอบเพิ่มขึ้น ฯลฯ เหตุผลก็คือ “กลัวความเสี่ยง” นั่นเอง ต่อให้เป็นตัวเทพเองก็เถอะ ถึงพวกเขาจะแน่แค่ไหน แต่การออกไปอยู่บริษัทใหม่ที่ไม่ได้มีสภาพแวดล้อมเหมือนกับที่เดิม หัวหน้าใหม่ เพื่อนร่วมทีมใหม่ ก็ไม่แน่ว่าผลงานที่ดีจากบริษัทปัจจุบันจะสำเร็จกับที่ใหม่ คุณจึงสามารถใช้จุดนี้ในการ “ขยี้” ให้พวกเขาเห็นด้วยกับความเสี่ยงเหล่านี้ใหม่ เรื่องนี้อาจโน้มน้าวให้พวกเขาไม่ยอมไปทำงานที่อื่นได้แบบที่คุณไม่ต้องเสียเงินแม้แต่บาทเดียวอีกด้วย

5. เริ่มดำเนินการคัดสรรพนักงานใหม่ทันที

การเริ่มหา “ตัวตายตัวแทน” ย่อมเป็นสิ่งที่ควรทำทันที ไม่ว่าการรั้งตัวพวกเขาจะสำเร็จหรือไม่สำเร็จอย่างไร จงเตรียมแผนการนี้ไว้ให้พร้อม ไล่ตั้งแต่การถามตัวเทพของคุณเองนั่นแหละว่ามีใครที่มีฝีมือมากพอระดับใกล้เคียงกับพวกเขา จงให้พวกเขาเป็นคนชวนพร้อมกับเงินค่าตอบแทนในกรณีที่สัมภาษณ์ผ่าน หรือใช้บริการรีครูเตอร์ (Recruiter) จากบริษัทชั้นนำชื่อดังในการช่วยคัดสรรพนักงานให้คุณก็เป็นอีกวิธีที่ง่ายแถมยังได้ผู้สัมภาษณ์ที่มีคุณภาพเหนือกว่าเว็บไซท์หางานชั้นนำ แต่จงจำไว้อยู่ข้อเดียวว่าจงอดทนรอให้ได้เพื่อให้คุณคัดเลือกพนักงานที่ใช่จริงๆ เท่านั้น อย่าเลือกพนักงานใหม่เพียงเพราะจำเป็นหรือต้องรีบตัดสินใจ ไม่งั้นคุณจะเลือกคนผิด

6. มอบหุ้นสำหรับพนักงาน (ESOP) 

หุ้นสำหรับพนักงาน (Employee Stock Ownership Plan) หรือหุ้น ESOP เป็นอะไรที่มีมานานมากๆ แล้วในอเมริกา และเป็นที่นิยมอย่างมากในธุรกิจสตาร์ทอัพ (Startup) ที่บางแห่งให้ตั้งแต่วันแรกที่เข้ามาทำงานด้วยซ้ำ หุ้นที่ว่านี้ก็คือหุ้นสำหรับพนักงาน เพื่อให้เขาได้มีส่วนร่วมในการเป็นเจ้าของบริษัทอย่างแท้จริงจนกว่าบริษัทจะเข้าตลาดหุ้น (IPO) ได้สำเร็จ โดยคุณอาจจะเขียนกฎการถือหุ้นเพื่อให้พวกเขาอยู่กับคุณนานที่สุด เช่น ถ้าลาออกจะต้องขายหุ้นทิ้งในราคาขณะนั้นทันที หรือหุ้นจะขายไม่ได้ถ้าบริษัทยังเข้าตลาดหุ้นไม่ได้ เป็นต้น มูลค่าหุ้นที่เติบโตจะทำให้พวกเขาอยู่จนกว่าจะขายหุ้นในวันที่บริษัทใหญ่โตกว่านี้ หมายความว่าพวกเขาจะไม่ออกง่ายๆ แน่นอน

ขึ้นชื่อว่ารั้ง ยังไงถ้าคนไม่มีใจก็ไม่มีประโยชน์อะไรที่จะรั้ง จงทำใจไว้ครึ่งนึงนะครับ เพราะวิธีของผมจะช่วยโน้มน้าว แต่ไม่สามารถบังคับพวกเขาได้ คนจะไป อะไรก็รั้งไม่อยู่หรอกครับ หาพนักงานใหม่เลยจะดีกว่า 

Leave your vote

Comments

0 comments

Similar Posts

ใส่ความเห็น