ข้อแตกต่างระหว่าง “นักขายดาดๆ” กับ “นักขายชั้นสูง” (รู้แล้วเก่งขึ้นอีก 85%)

นี่คือเรื่องจริงที่นักขายดาดๆ ส่วนใหญ่มากกว่า 80% ไม่รู้ว่าตัวเองนั้นสามารถ “เก่งได้อีก” ซึ่งตามกฎ 80/20 จึงมีเพียง 20% เท่านั้นที่สามารถก้าวไปเป็นนักขายชั้นสูง ทำงานระดับสูง ได้จับดีลขนาดใหญ่และก้าวไปเป็นท็อปเซลล์ได้ในที่สุด เรื่องนี้ไม่มีฟลุ๊กเป็นอันขาด และนี่คือความแตกต่างที่เห็นได้ชัดของนักขายทั้งสองกลุ่มนี้ครับ

1. เป้าหมายการขาย

นักขายดาดๆ: ปิดดีลให้เร็วที่สุดแล้วหายหัว

นักขายขั้นเทพ: สร้างความสัมพันธ์ระยะยาวอย่างต่อเนื่อง ดูแลหลังการขายได้ดี ปั้นดีลจนกลายเป็น Key Account ได้

2. วิธีการเปิดการขาย

นักขายดาดๆ: เน้นการนำเสนอคุณสมบัติและข้อดีของสินค้าเท่านั้น

นักขายขั้นเทพ: เน้นการแก้ปัญหาเชิงธุรกิจของลูกค้าและหาโซลูชั่นที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก

3. ความรู้ด้านการขาย

นักขายดาดๆ: เน้นจดจำความรู้สินค้าของตัวเองและคู่แข่งแค่นั้น

นักขายขั้นเทพ: เน้นความเข้าใจในสภาพตลาด ความท้าทาย อุตสาหกรรม และเป้าหมายทางธุรกิจของลูกค้า

4. ลูกค้าที่คุยเป็นหลัก

นักขายดาดๆ: ฝ่ายจัดซื้อ พนักงานทั่วไป ผู้ใช้งาน

นักขายขั้นเทพ: เน้นคุย C-Level หรือผู้มีอำนาจตัดสินใจและผู้มีอิทธิพลต่อโครงการ

5. เวลาโดนปฎิเสธ

นักขายดาดๆ: ท้อแท้ โทษดินฟ้าอากาศ โทษคู่แข่ง ที่เหี้ยสุดๆ คือ “โทษบริษัทตัวเอง”

นักขายขั้นเทพ: มองว่าเป็นเพราะยังไม่สามารถแก้โจทย์ให้ลูกค้าจนน่าพอใจได้จริงและหาวิธีแก้ไขโซลูชั่นให้ดีขึ้น

6. เวลาพูดถึงเรื่องราคา

นักขายดาดๆ: คิดว่าเป็นเรื่องใหญ่ มีผลต่อการขายมากที่สุด หรือเอาไว้ใช้แข่งขันกับคู่แข่ง

นักขายขั้นเทพ: เน้นผลตอบแทนจากการลงทุน คุณค่า และการคืนทุนกับประโยชน์ที่ได้จากการลงทุนจากฝั่งลูกค้า

7. การนำเสนอ

นักขายดาดๆ: พูดตามสไลด์ที่บริษัทมอบหมายตั้งแต่หน้าแรกยันหน้าสุดท้ายกับลูกค้าทุกรูปแบบ

นักขายขั้นเทพ: มีการปรับแต่ง ประยุกต์ ให้เหมาะสมกับธุรกิจนั้นๆ จึงทำให้การนำเสนอนั้นกระชับและตอบโจทย์

8. สไตล์การทำงาน

นักขายดาดๆ: ทำงานแบบ “หมาป่าเดียวดาย” หรือเน้นทำงานคนเดียว

นักขายขั้นเทพ: ทำงานเป็นทีมโดยเฉพาะภายในบริษัท เช่น ประสานกับฝ่ายการตลาดในการช่วยลูกค้าทำโปรโมชั่น หรือทำงานเป็นทีมกับลูกค้าในการวาง Road Map การลงทุนระยะยาว

9. เวลาลูกค้ามีปัญหา

นักขายดาดๆ: ปล่อยให้ลูกค้ารับความเสี่ยงเอาเอง เอาหูไปนา เอาตาไปไร่ แก้ปัญหาแบบขอไปที

นักขายขั้นเทพ: ร่วมเป็นส่วนหนึ่งกับลูกค้าในการแก้ปัญหา รวดเร็ว เฉียบขาด ใส่ใจตั้งแต่ต้นจนจบ

10. การบริหารเวลา

นักขายดาดๆ: ใช้เวลาส่วนใหญ่กับลูกค้าที่ไม่ตรงสเปค ซื้อขายไม่เยอะ หรือเสียเวลากับดีลขยะ

นักขายขั้นเทพ: ใช้เวลากับลูกค้าระดับ Key Account หรือลูกค้าศักยภาพสูงเป็นหลัก ลูกค้าห่วยๆ ตัดทิ้งไป

นี่คือ 10 ความแตกต่างแบบมีนัยสำคัญระหว่างนักขายธรรมดากับนักขายขั้นเทพจากผมครับ

Leave your vote

Comments

0 comments

Similar Posts