|

อย่าตัดสินผู้อื่นแค่ผิวเผิน นี่คือบทพิสูจน์ของภาวะผู้นำที่ยอดเยี่ยม

คำว่า “ผู้นำ” (Leadership) คงเป็นคำที่ทุกคนเคยเห็นจนชินตาว่านี่คือสิ่งที่คุณต้องมีและจะช่วยให้คุณประสบความสำเร็จ

ปฎิเสธไม่ได้เลยในฐานะนักขาย ทักษะการเป็นผู้นำ (Leadership Skills) เป็นทักษะที่สำคัญที่สุดที่จะช่วยให้ทีมขายของคุณ “เชื่อมั่น” ในตัวคุณจนลงมือทำงานตามที่คุณมอบหมายและสามารถบรรลุเป้าหมายได้สำเร็จ

ถ้าคุณอยากรวย อยากประสบความสำเร็จในฐานะผู้บริหารหรือเจ้าของกิจการ จงฟังผมให้ดีๆ นะครับว่าไม่มีใครสามารถ “สร้างกรุงโรม” ให้ประสบความสำเร็จได้โดยปราศจาก “ทีม”

การทำงานเป็นทีมจะช่วยให้คุณบรรลุเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ได้ ลองคิดดูว่าธุรกิจที่คุณทำ ถ้ามีนักขายที่ได้รับการถ่ายทอดและฝึกอบรมจากคุณ สามารถลงมือทำได้ตามที่คุณสอน พวกเขาจะนำยอดขายมาให้คุณเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณตามจำนวนนักขายที่คุณจ้างมาเลยล่ะครับ เรียกได้ว่า “ยิ่งจ้างยิ่งรวย” นั่นเอง

จึงเป็นเรื่องที่จำเป็นอย่างยิ่งที่คุณจะต้องฝึกฝนและลับทักษะความเป็นผู้นำของคุณให้แหลมคมอยู่ตลอดเวลา ไม่ใช่แค่เพื่อคนอื่นเท่านั้น แต่เพื่อตัวคุณเองด้วย ผมจึงมีเรื่องอยากจะแชร์เกี่ยวกับหนึ่งในทักษะความเป็นผู้นำที่สำคัญมากๆ นั่นคือการไม่ตัดสินผู้อื่นโดยผิวเผินเป็นอันขาดนั่นเองครับ

จงอย่าตัดสินผู้อื่นโดยไม่ได้วิเคราะห์ให้ถี่ถ้วนเป็นอันขาด

นี่คือกฎของการเป็นผู้นำที่ดีเลยล่ะครับ จงอย่าตัดสินใครก็ตามที่คุณรู้จักหรือพบเจอเพียงแค่ผิวเผินจากสิ่งที่ตาเห็น โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับ ลูกค้า ทีมงาน และลูกน้องของคุณ เช่น บุคลิกภาพไม่ดี หน้าตาไม่หล่อ ไม่สวย พูดจาไม่ไพเราะเสนาะหู ฯลฯ หรือตัดสินจากสิ่งที่ได้ยินคนอื่นพูดมา เช่น เพื่อนหรือคนรู้จักมาบอกว่าคนนั้นเป็นคนไม่ดี ทำงานห่วย ไม่ได้เรื่อง ฯลฯ และคุณก็หลับหูหลับตาเชื่อในทันที ทั้งๆ ที่สถานการณ์นั้นอาจจะไม่เป็นไปตามที่คุณคิดก็ได้ คุณต้องให้โอกาสแต่ละคนให้มากพอในการสื่อสาร วิเคราะห์ พูดคุย จนคุณมีเหตุผลมากพอว่าจะตัดสินใครสักคนว่าเขาเป็นคนดีหรือไม่ดี

ลองดูตัวอย่างของภาพด้านบนให้ดีๆ นะครับ นี่คือผลลัพธ์จากการตัดสินด้วยสายตาหรือคิดไปเอง อธิบายได้ ดังนี้ครับ 

ภาพซ้ายบน: ลุงกับป้าขี่ล่า คนไม่รู้เรื่องก็ไปตัดสินว่านี่คือการทรมานสัตว์ชัดๆ

ภาพขวาบน: คุณลุงโดนคนอื่นว่าว่าเอาเปรียบคุณป้า ทั้งๆ ที่แกอาจจะเจ็บขาอยู่ก็ได้

ภาพซ้ายล่าง: คนอื่นตัดสินว่าคุณป้าต้องเป็นใหญ่ที่สุดแน่ๆ คุณลุงเลยต้องให้ป้าขี่ลา

ภาพขวาล่าง: คุณลุงและคุณป้าไม่ขี่ลา กลายเป็นว่าคนอื่นมองว่านี่มันโง่ชัดๆ

เห็นไหมครับว่านี่คือตัวอย่างของการตีความที่ผิดๆ คุณไม่ควรตัดสินใครจากสิ่งที่ตาเห็นหรือได้ยินคนอื่นพูดมา จนกว่าจะได้พูดคุยหรือสื่อสารต่อหน้าพวกเขา คุณจึงจะมีเหตุผลมากพอว่าจะตัดสินใครก็ตามได้ครับ บางที่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอาจเป็นเพราะในสภาพแวดล้อมนั้น ทำให้การกระทำบางอย่างของทีมงานและลูกน้องคุณเปลี่ยนไป เช่น จู่ๆ ลูกน้องคุณทำงานสายหรือดูท่าทางนอนไม่พอทุกวัน คุณจึงไปตัดสินว่าเป็นเพราะเขาขาดความรับผิดชอบ ทำงานห่วย เป็นต้น

แต่จริงๆ แล้วลูกน้องคุณอาจจะมีเหตุผลว่าเป็นเพราะแม่ของเขาป่วย เขาจึงต้องดูแลแม่ตั้งแต่เช้าและตอนกลางคืน ทำให้นอนไม่พอ สภาพจิตใจย่ำแย่ จึงส่งผลต่อการทำงาน ทั้งๆ ที่เขาไม่ได้เป็นคนที่ห่วย “โดยสันดาน” ด้วยซ้ำ นี่คืออีกตัวอย่างหนึ่งที่คุณไม่ควรตัดสินใครก็ตามก่อนฟังเหตุผลให้ครบถ้วน

เห็นด้วยหรือไม่ครับว่าการตัดสินใครซักคนอย่างไร้เหตุผลหรือไม่มากพอ จะทำให้คุณขาดภาวะผู้นำที่ดี ทีมงานขาดความเชื่อมั่นในตัวคุณเพราะการตัดสินของคุณที่เริ่มเป็นผลลบกับพวกเขา สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่คุณต้องปรับใช้ให้ดีขึ้นด้วยการสื่อสารและมองโลกในแง่บวกอยู่เสมอนั่นเองครับ

Leave your vote

Comments

0 comments

Similar Posts

ใส่ความเห็น