สกิลชีวิตที่ทำให้คุณเป็น Key Account Manager ระดับสุดยอดนอกจากทักษะการด้านการขาย
ว่ากันว่าตำแหน่งที่เป็นจุดสูงสุดสำหรับ “นักขาย” ที่ไม่ต้องการเป็นหัวหน้าหรือผู้จัดการขึ้นไปก็คือตำแหน่ง “Key Account Manager” เพราะคุณจะได้ถือลูกค้ารายใหญ่ ทำเงินให้คุณแบบสม่ำเสมอ ไม่ต้องเสียเวลามากในการหาลูกค้าใหม่ไปวันๆ ยิ่งอยู่บริษัทใหญ่ที่มีคู่ค้าขาประจำก็ยิ่งมีความมั่นคงสูงครับ ยิ่งดูแลและสนิทกับลูกค้าทุกระดับก็ยิ่งได้เปรียบ ซึ่งกว่าจะได้รับความไว้วางใจในการเป็น Key Account Manager นั้น นอกจากทักษะการขายที่ต้องเก่งอยู่แล้ว “ทักษะชีวิต” ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้คุณได้รับความไว้วางใจสูงขึ้นและอยู่กับลูกค้าระดับสูงได้แบบเป็นกันเองเช่นกัน มาดูว่าคุณควรเพิ่มสกิลอะไรกันบ้าง ดังนี้ครับ
1. ทักษะด้านการแต่งกาย ทรงผม เสื้อผ้า ที่เหมาะสมตามสถานการณ์
การแต่งกายแบบหนุ่มออฟฟิศหรือยูนิฟอร์มบริษัทฯ เป็นเรื่องมาตรฐานอยู่แล้ว แต่คุณต้องมีความรู้และมีความเข้าใจระดับสูงมากกว่านั้น เช่น การใส่สูทแบบเทเลอร์เมด การเลือกสี การใช้เครื่องประดับแต่ละชิ้น แม้กระทั้งการใช้สินค้าแบรนด์เนมตามสถานการณ์และการเข้าพบลูกค้าแต่ละระดับ เรื่องพวกนี้มีสอนในยูทูปและควรติดตามการแต่งตัวจากบุคคลต้นแบบที่บุคลิก รูปร่าง หน้าตาคล้ายๆ เรา ทำอาชีพนักธุรกิจ จากนั้นก็ลองหลายๆ อย่างให้เข้ากับเรา ไปลงเรียนกับโค้ชบุคลิกภาพก็เป็นอีกทางที่ควรทำครับ
2. ทักษะด้านการชิมไวน์ รวมถึงทักษะการดื่มเหล้า ความรู้ด้านอาหารและเครื่องดื่ม
ไวน์ เป็นเครื่องแสดงฐานะหรือมารยาทการเข้าสังคมที่มากกว่าเหล้าหรือเบียร์เรียบร้อยแล้ว คุณควรมีความรู้เรื่องไวน์ เลือกไวน์เป็น และหมั่นหาความรู้เรื่องแบบนี้อยู่เสมอ เนื่องจากคุณอาจจะมีกิจกรรมในการเข้าสังคมกับลูกค้าระดับสูง ไม่ก็คู่ค้าหลากหลายรูปแบบ ภาพรวมทั้งหมดในการกินไวน์กินเหล้าเข้าสังคมจึงเป็นสกิลที่คุณต้องฝึกฝนพอสมควร เพราะมันจะทำให้คุณฝึกทักษะการเลือกร้านอาหาร การสั่งเมนูที่ถูกปาก รวมทั้งมารยาทบนโต๊ะอาหารที่เป็นภาษากายว่าคุณเป็นมืออาชีพ วิธีการก็ลองไปหาในยูทูปนะครับ
3. ทักษะด้านการกีฬา (กอล์ฟ)
กอล์ฟเป็นกีฬาที่นักขายระดับ Key Account Manager หัดเล่นกันทั่วบ้านทั่วเมือง ด้วยวัยวุฒิและคุณวุฒิที่พร้อมแล้ว มีเวลาและมีเงินทุนในการเล่นกอล์ฟ คุณจะได้สกิลการเข้าสังคมระดับสูงแถมยังสนุกอีกด้วย กอล์ฟเป็นกีฬาไม่กี่อย่างที่คนตัวเล็กแบบเราจะสามารถทำกิจกรรมกับ CEO ของลูกค้าได้ นอกจากนี้ยังมีกีฬาอื่นๆ ที่คุณควรเล่นเป็นประจำ เช่น ตีแบต วิ่ง จักรยาน ฟิตเนส เป็นต้น นอกจากทำให้บุคลิกและหุ่นดีขึ้น ยังได้รับการยอมรับจากลูกค้าทางอ้อมอีกด้วย
4. ทักษะด้านความรู้รอบตัวเกี่ยวกับสิ่งของเครื่องใช้
นักขายที่ดีควรมีความรู้รอบตัวเรื่องสิ่งของเครื่องใช้อย่างแบรนด์เนมหรือของใช้ในชีวิตประจำวันโดยที่คุณยังไม่ต้องมีเป็นของตัวเองก็ได้ คุณควรมีความรู้เพื่อที่จะได้ไปทักลูกค้า หาเรื่องคุย ชื่นชม หรือวิเคราะห์รสนิยม ไลฟ์สไตล์ อุปนิสัยของลูกค้าคนนั้นๆ ได้เลยทีเดียว ตัวอย่างเช่น ลูกค้าที่ใส่สมาร์ทวอร์ชที่ไม่ใช่แอปเปิ้ลเป็นประจำทั้งๆ ที่รวยมาก พวกเขาอาจจะมีไลฟ์สไตล์จริงจังในเรื่องการออกกำลังกายหรือรักษาสุขภาพก็ได้ เป็นต้น ทำให้คุณรู้จักตัวตนของลูกค้าได้มากขึ้นอีก ทักษะนี้ถือว่าเกี่ยวข้องกับการอ่านคนให้ออกเป็นอย่างมาก
5. ทักษะด้านการอ่านโหงวเฮ้งและภาษากาย
เป็นทักษะเหนือชั้นไปอีกระดับในการวิเคราะห์ความคิด นิสัย รสนิยม ไลฟ์สไตล์ ของลูกค้าในขณะนั้น นักขายที่ยอดเยี่ยมจะต้องอ่านสีหน้า แววตา ภาษากาย ซึ่งโกหกยากมากๆ และสิ่งนี้จะทำให้คุณรู้ว่าจะต้องสื่อสารกับลูกค้าอย่างไร รวมถึงการแต่งกายของลูกค้าด้วย ซึ่งถ้าคุณสังเกตดีๆ คุณจะรู้เลยว่าการแต่งกายรวมไปถึงภาษากายและโหงวเฮ้ง บ่งบอกถึงตัวตนของคนคนนั้นมากแค่ไหน เช่น คนที่มั่นใจจะแต่งตัวด้วยแฟชั่นที่จัดจ้านได้ คนที่ขี้อายหรือเรียบง่ายจะเน้นเรียบๆ ไม่โดดเด่นเอาไว้ก่อน เป็นต้น
6. ทักษะหรือความรู้รอบตัวเกี่ยวกับข่าวสารบ้านเมือง
เพื่อเอาไว้ใช้เม้ากับลูกค้าหรือดูสถานการณ์ที่เหมาะสมในการสนทนาที่เป็นกันเอง ควรเป็นเรื่องเชิงบวกและเป็นเรื่องราวในกระแส ความรู้รอบตัวก็เป็นสิ่งที่สำคัญ ยิ่งรู้มากก็ยิ่งคุยกับลูกค้าได้ทุกระดับ เช่น รถ บ้าน อสังหาฯ สัตว์เลี้ยง สังคม เศรษฐกิจ เทคโนโลยี กีฬา ฯลฯ ซึ่งยิ่งกว้างก็ยิ่งหาเรื่องคุยกับลูกค้าได้มาก
7. ทักษะด้านภาษาอังกฤษและเข้าใจวัฒนธรรมคนต่างชาติ
อยากเหนือกว่านักขายคนไทยทั่วๆ ไป ก็ต้องพูดภาษาอังกฤษรู้เรื่องนี่แหละครับ คุณอาจจะได้ดีลกับลูกค้าต่างชาติ คู๋ค้า หรือหัวหน้างานที่ไม่ใช่คนไทย ยิ่งคุณได้ภาษาและมีความรู้รอบตัวเกี่ยวกับวัฒนธรรมของแต่ละชนชั้น ปรับตัวเป็น คุณยิ่งเจ๋งในสายตาของพวกเขาครับ เรื่องนี้มีนักขายไม่กี่หยิบมือที่เรียนรู้และเข้าใจ ตัวอย่างเช่น ทำงานกับคนญี่ปุ่นจะมีความสุภาพ มีพิธีรีตรอง ตรงต่อเวลา หรือทำงานกับคนจีนก็เป็นอีกแบบนึง เยอรมันก็อีกแบบนึง เป็นต้นครับ
8. ทักษะด้านการเล่าเรื่องหรือมีมุกตลกประจำตัว
อารมณ์ขันสามารถฝึกได้ครับ ลองหามุกประจำตัวที่ไม่เป็นมุกล้อเลียนคนอื่น ทำให้เกิดความอับอาย หรือมีเรื่องเล่าที่สนุก น่าตื่นเต้น ได้อารมณ์เชิงบวก เวลาอยู่กับลูกค้าจะได้มีเรื่องคุยและทำให้มู้ดของการสนทนาเป็นกันเองมากยิ่งขึ้น
9. ทักษะด้านการเรียนรู้และปรับตัว
นักขายต้องมีทักษะเหล่านี้สูงอยู่แล้ว เพราะคุณอาจจะเจอลูกค้าที่แตกต่างกันราวฟ้ากับเหว เช่น เจ้าหน้าที่ปฎิบัติการกับ CEO เป็นต้น การเลือกใช้ภาษาในการสื่อสารหรือเลือกเรื่องราวที่จะคุยจะต้องเข้ากับคนทุกระดับ เหมาะสมกับทุกสถานการณ์
10. ทักษะด้านการบริหารเวลาและชีวิตส่วนตัว
สุดท้ายนี้คือการบริหารเวลาที่ยืดหยุ่นและเหมาะสม อะไรที่มันมากไปอย่างเช่นการทุ่มเทเวลาให้ลูกค้า แถมหลังเลิกงานก็ยังไปทำกิจกรรมสังสรรกับลูกค้า มันจะทำให้คุณเสียงานและครอบครัวแตกแยก นอกจากบริหารเวลากับลูกค้าที่คุ้มค้าและประเมินตามความสำคัญได้แล้ว จงอย่าละเลยเวลาส่วนตัวที่มีความสำคัญพอๆ กันด้วยนะครับ
การมีทักษะเหล่านี้อย่างเป็นธรรมชาติและจริงใจ จะช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งและยั่งยืนกับลูกค้า ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของความสำเร็จในบทบาท Key Account Manager ระดับเทพครับ
Comments
0 comments