สิ่งที่ต้อง ‘โคตรระวัง’ สำหรับการเริ่มหาผลประโยชน์จากคอนเนคชั่น (พลาดแล้วโดนเกลียดขี้หน้า 100%)

นักขายและนักธุรกิจ 99% รู้ดีว่าคอนเนคชั่นนั้นโคตรสำคัญ ซึ่งนิยามคร่าวๆ ของคอนเนคชั่นที่มีประโยชน์คือ ‘เป็นกลุ่มเป้าหมายโดยตรง เป็นคนรู้จัก มีเงิน และทำให้เราได้รับผลประโยชน์’ ดังนั้นในหลายๆ วงการ ‘Know who สำคัญมากกว่า Know how’ เลยด้วยซ้ำ เช่น ธุรกิจขายประกัน คนที่คอนเนคชั่นแข็งกว่า รวยกว่า ย่อมได้เปรียบเสมอ เป็นต้น แต่การใช้คอนเนคชั่นแบบสุ่มสี่สุ่มห้า ไม่รู้จักกาละเทศะ หรือเป็นพวก ‘เอาแต่ได้’ นอกจากถูกเกลียดขี้หน้ายังไม่พอ ชื่อเสียงคุณอาจจะ ‘เหม็น’ ไปทั้งวงการ นี่คือสิ่งที่ต้องระวังมากๆ สำหรับการใช้คอนเนคชั่น ดังนี้ครับ

1. ‘Only Take but No Give’ เอาแต่ได้อย่างเดียว แต่ไม่เคยให้

ผมคิดว่าสาเหตุอันดับหนึ่งที่ทำให้คนรู้จักที่เป็นคอนเนคชั่นดีๆ กับคุณ หรือแม้แต่เพื่อนที่แสนดีของคุณเกลียดขี้หน้าก็คือคุณไม่เคยให้อะไรพวกเขาเลย รับผลประโยชน์อย่างเดียว ถ้าเป็นในวงเหล้าก็คือกินแล้วไม่เคยหาร เพื่อนทำอะไรดีๆ ให้ก็ไม่เคยตอบแทน หรือคุณรวยและมีอะไรดีๆ ก็ไม่เคยแบ่งให้คนอื่น คนประเภทนี้อย่าว่าแต่มีคอนเนคชั่นดีๆ เลย เพื่อนที่จริงใจก็แทบไม่มีครับ แถมโดนกาหัวว่าเป็นพวกเห็นแก่ตัวอีกต่างหาก จำไว้นะครับว่ายิ่งคุณอยากเข้าสังคมระดับสูง คุณต้อง ‘ใจสปอร์ต’ เป็นผู้ให้ก่อนและใจกว้าง ถ้าไม่มีตังหรือตระหนี่ขี้เหนียวก็อย่าสะเออะเข้าไปครับ หาเงินด้วยตัวเองให้ได้ก่อน

2. ทำทรงดูดีแต่ลับหลัง โกหก ปิ้นปล้อน กะล่อน ตอแหละ ไม่จริงใจ

ส่วนใหญ่พวกนี้คุณคงเห็นตามข่าวนักธุรกิจแชร์ลูกโซ่ หรือขายตรงบางส่วนที่มักจะสร้างภาพลักษณ์ของตัวเองให้ดูดี แต่อย่างว่าแหละ ธุรกิจเหล่านี้ต้องพึ่งพาคนรู้จักและคอนเนคชั่นส่วนตัวเป็นอย่างมาก พวกนี้มักจะเป็นคนมีเงิน มีรถหรู แบรนด์เนม ทำธุรกิจที่เติบโตเร็วจนน่าเหลือเชื่อ พอเข้ามาชักชวนหรือหาผลประโยชน์ก็เผยให้เห็นถึงความไม่จริงใจ โกหก พูดอย่างทำอย่าง จนคุณหลวมตัวแบบถอนตัวไม่ขึ้น สุดท้ายก็โดนหลอกครับ ยิ่งพวกนี้ชอบพูดจาโอ้อวดเกินจริงเกี่ยวกับผลประโยชน์ที่ชักชวนคุณเข้ามาทำ ก็ยิ่งบ่อนทำลายความน่าเชื่อถืออย่างรุนแรงเวลาความจริงปรากฎนั่นเองครับ

หมายเหตุ: มีอีกหลายๆ เหตุการณ์ที่คลาสสิคมากๆ โดยเฉพาะธุรกิจขายตรงคือการไม่พูดหรือบอกตรงๆ ว่าตัวเองทำธุรกิจอะไร มักจะลงไลฟ์สไตล์ให้ดูดีเกี่ยวกับสุขภาพ ไมนด์เซ็ต หรือการทำงาน มีอาหารเสริมที่ตัวเองกินแทรกๆ มานิดหน่อย เวลาคนพวกนี้จะนัดคอนเนคชั่นมักเป็นร้านกาแฟ (แบบไม่เลี้ยงด้วย ไม่ใจ) แล้วบอกว่าเป็นธุรกิจที่น่าสนใจ พอมาเจอจริงๆ แม่งขายตรงนี้หว่าพากูมาฟังเสียเวลาชิบ (ฮา)

3. ไม่รู้กาละเทศะ ที่ต่ำที่สูง และเวล่ำเวลา

คุณเคยเห็นคนเมาแล้วขับโดนจับเปาแล้ว ‘อ้างผู้ใหญ่’ หรือคดีต่างๆ ที่ผู้ต้องหาโดนจับแล้ว ‘อ้างเบื้องสูง’ กันไหมครับ พวกนี้มันห่วยตรงที่ต้องการความช่วยเหลือจาก ‘เรื่องเลวๆ ที่ตัวเองก่อขึ้น’ ยิ่งโทรไปรบกวนตอนตีสองหลังผับเลิกให้ช่วยเคลียร์อย่างนี้ก็ไม่รู้กาละเทศะ รบกวนเวลานอนของคอนเนคชั่น หรือธุรกิจขายตรงบางประเภทที่เห็นใครเป็นคนรู้จักก็ต้องการนัดเจอ บางทีขอบุกมาถึงบ้าน สร้างความอึดอัดเพราะรบกวนเวลาส่วนตัวของคอนเนคชั่น ผลก็คือคอนเนคชั่นเบื่อหน่ายและพยายามตีตัวออกห่าง

4. แอบอ้างชื่อคอนเนคชั่นโดยที่เจ้าตัวไม่รู้มาก่อน

คล้ายๆ กับกรณี ‘อ้างเบื้องสูง’ หรือ ‘อ้างนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่’ ว่าเขาจะเคลียร์ให้ แต่จริงๆ เจ้าตัวยังไม่รู้เรื่องเลย การแอบอ้างชื่อคอนเนคชั่นไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต การนำข้อมูลส่วนตัวหรือความลับทางธุรกิจของเขาไปเปิดเผย หรือการนำเรื่องส่วนตัวของเขามาพูดคุยต่อ ล้วนเป็นการกระทำที่ไร้มารยาทและทำลายความไว้ใจอย่างสิ้นเชิง เรื่องนี้ต้องโคตรระวังอย่างที่สุดเวลาคุณรู้จักกับบุคคลระดับสูงแล้วเขาเล่าเรื่องที่ส่วนตัวหรือเกี่ยวกับธุรกิจให้ฟัง แต่คุณดันปากเปราะ ไปเล่าให้คนโน้นคนนี้ฟังอีกต่อเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ ถ้าเจ้าตัวเขามาได้ยินว่าคุณเป็นคนพูด คุณจะโดนตัดสัมพันธ์และแบนทันทีครับ เผลอๆ โดนส้นตีนอีก

5. พึ่งรู้จัก แต่เร่งรัด รีบเข้าไปขายเร็วเกินไป

เรื่องนี้ผมก็เคยพลาดมาก่อนตอนเรียน ปอ โท ช่วงแรกๆ เพราะตอนนั้นร้อนวิชามาก การที่เพิ่งรู้จักกันไม่นานก็รีบเสนอขายสินค้า หรือชวนทำธุรกิจทันที ทำให้ถูกมองว่าไม่มีความจริงใจ และเข้าหาเพื่อหวังผลประโยชน์แต่แรกเริ่มเท่านั้น ทางที่ดีคือต้องเริ่มจากความสัมพันธ์ที่จริงใจ มีกิจกรรมร่วมกันอย่างสม่ำเสมอ จากนั้นค่อยโชว์ว่าเราเชี่ยวชาญเรื่องอะไรแล้วเป็นประโยชน์กับคอนเนคชั่นของคุณแค่ไหน การใช้คอนเนคชั่นถึงจะเริ่มเกิดครับ

การใช้คอนเนคชั่นเปรียบเสมือนการปลูกต้นไม้ ต้องรดน้ำพรวนดิน ใส่ปุ๋ยอย่างสม่ำเสมอ และเมื่อต้นไม้เติบโตแข็งแรง ผลผลิตก็จะออกมาเอง การเร่งเก็บผลก่อนเวลา หรือละเลยการดูแล อาจทำให้ต้นไม้เหี่ยวเฉา และไม่สามารถให้ผลผลิตได้อีกต่อไป

Leave your vote

Comments

0 comments

Similar Posts