เป็นแค่ ‘ลูกกระจ๊อก’ ก็ขึ้นเป็น ‘จ่าฝูง’ ได้! วิชาสร้างบารมีนักธุรกิจที่ไม่มีสอนในมหาวิทยาลัย
สำหรับน้องๆ จบใหม่หรือประสบการณ์ด้านการขายน้อย การจะไปเบียดเอาชนะ “รุ่นใหญ่” ด้วยข้อมูลสินค้าหรือ Connection คงเป็นเรื่องยากมากๆ ครับ แต่สิ่งที่เด็กจบใหม่ทำได้ทันทีคือการสร้าง “บารมีแบบมืออาชีพ” ซึ่งมันเริ่มต้นที่ “วิธีคิด” และ “บุคลิก” ที่ดีก็มีชัยไปกว่าครึ่งแล้ว ผมจึงขอสรุปให้เป็น 4 ขั้นตอนสไตล์ “กูนี่แหละเซลล์ร้อยล้าน” ให้น้องเอาไปใช้สร้างบารมีตั้งแต่วันแรก ดังนี้ครับ
1. “Dress to the Future” (แต่งตัวล่วงหน้าไป 1 ตำแหน่ง)
บารมีเริ่มที่ “สายตา” และการแต่งกายครับ ถ้าคุณยังเป็นแค่พนักงานระดับปฏิบัติการ แต่อยากได้ใจหัวหน้าและลูกค้า แนะนำว่าให้แต่งตัวเหมือน “ผู้จัดการ” หรือ “เจ้าของธุรกิจ” (ลองไปศึกษาในยูทูปหรือถาม AI ดูนะครับ) ซึ่งคุณไม่จำเป็นต้องใช้แบรนด์เนมทั้งตัว แต่ต้อง “เนี้ยบ” เสื้อต้องกริบ รองเท้าต้องเงา ผมต้องเข้าทรง
เมื่อเราแต่งตัวให้เกียรติสถานที่และคนตรงหน้า ลูกค้าจะหยุดมองว่าเราเป็นแค่ “เด็กจบใหม่” และเริ่มมองว่าเราเป็น “ที่ปรึกษามืออาชีพ” โดยอัตโนมัติ คะแนนบารมีจะเพิ่มคุณแบบทวีคูณเลยครับ
2. “Be the Active Listener, Not the Talker” (นิ่งเพื่อฟัง สยบทุกการเคลื่อนไหว)
นักขายมือใหม่มักทำพลาดคือ “พูดมากเกินไปเพราะตื่นเต้น” กลัวเขาไม่รู้ว่าเราเก่ง… ที่สำคัญคือชอบเน้นไปที่การนำเสนอตั้งแต่หน้าแรกยันหน้าสุดท้าย เพราะซ้อมมาแล้วและลูกพี่สอนมา (ฮา) ซึ่งนั่นแหละครับที่ทำให้ดูไม่มีบารมี บอกเลยว่าพวกนักขายที่ “หลับหูหลับตา” นำเสนอนั้น มีมากถึง 90% เลยด้วยซ้ำ ซึ่งสง่าราศีอะไรก็แทบไม่มีเลยครับ
จงใช้หลักการ The Godfather ครับ คือ “พูดน้อยแต่คม” ถามคำถามที่ฉลาดแล้วนั่งฟังอย่างตั้งใจ (เรื่องนี้ควรฝึกกับท็อปเซลล์ในบริษัทหรือทำเคสกับหัวหน้าให้มากที่สุด) จดรายละเอียดใส่สมุดหนังดีๆ สักเล่ม หรือใช้ iPad จด ก็ได้ครับ การตั้งใจฟังและจดบันทึก ทำให้หัวหน้าเห็นว่าเรา “ละเอียด” และลูกค้าเห็นว่าเรา “ใส่ใจ” บารมีมันเกิดจากการที่เราให้ความสำคัญกับเขา ไม่ใช่กับตัวเองครับ
3. “Master the Details” (เก่งเฉพาะทางให้จริง จนพี่ต้องถามน้อง)
เด็กจบใหม่แบบคุณไม่มี Connection แต่มี “เวลา” และ “สมอง” ครับ จงเลือกเจาะลึกเรื่องใดเรื่องหนึ่งที่หัวหน้าหรือคนในทีมยังไม่แม่น เช่น ระบบหลังบ้านใหม่ สินค้าและบริการ ข้อมูลคู่แข่งเชิงลึก หรือเทรนด์ AI ในธุรกิจ เป็นต้น เหมือนที่สมัยก่อนผมใช้ LinkedIn อยู่คนเดียวทั้งบริษัทในการหาลูกค้า C-Level นั่นแหละครับ ในขณะที่รุ่นพี่เอาแต่นั่ง Cold-Call กับหาลูกค้าหน้าเดิมๆ
คุณต้องหา “ท่าไม้ตาย” ของตัวเองให้เจอ เมื่อไหร่ที่หัวหน้าต้องหันมาถามคุณว่า “เรื่องนี้ข้อมูลเป็นยังไงนะ” เมื่อนั้นบารมีของคุณก็จะเกิดแล้วครับ
4. “Callus of Hardwork” (มือด้านจากการทำงานจริง)
อย่ากลัวการทำงานหนักครับ เพราะงานหนัก ไม่เคยฆ่าคน บารมีไม่ได้สร้างบนโต๊ะทำงาน แต่มันสร้างจากหน้างานหรือการไปเจอลูกค้าจริงต่างหาก จงอย่าเป็นนักขายสายคีย์บอร์ดที่เอาแต่ส่งอีเมล ให้ขอหัวหน้าออกไปหน้างาน ไปกับท็อปเซลล์ ไปดูคลังสินค้า ไปคุยกับช่าง ไปเจอลูกค้าตัวจริง ยิ่งอาสาอยากทำงาน หัวหน้าย่อมเห็นว่าคุณ “มือเปื้อน” และคลุกฝุ่นจริง พวกเขาจะรู้สึกว่าคุณคือ “ตัวจริง” ที่ไว้ใจได้ และพร้อมจะมอบดีลใหญ่ให้ทำครับ
บทสรุปสำหรับน้องๆ คือ “บารมีไม่ได้ขึ้นอยู่กับอายุ แต่มันขึ้นอยู่กับ ‘ความนิ่ง’ และ ‘วินัย’ ที่คุณแสดงออกไป ถ้าวันนี้ยังไม่มีเบนซ์ขับ ก็จงมี ‘ความรับผิดชอบ’ ที่ขับเคลื่อนได้แรงกว่ารถแข่งครับ”
Comments
0 comments
