ความเป็นผู้นำกับการจัดการ

วันนี้เป็นอีกหนึ่งวันที่ผมได้รับความรู้จากศาสตราจารย์ระดับโลกที่ศศินทร์ คือ Dr. Andreas Liefooghe ซึ่งท่านเป็นที่ปรึกษาให้กับองค์กรระดับโลก รวมทั้งบริษัทชั้นนำทั้งราชการและเอกชนของประเทศไทย

วิชาที่นักบริหารอย่างผมต้องเรียนก็คือวิชาความเป็นผู้นำ (Leadership and Organizations) ซึ่งก่อนเรียนผมก็ตั้งคำถามกับตัวเองว่ามันจำเป็นจริงๆ เหรอ ในเมื่องานการของผมก็อยู่ในตำแหน่งสูงสุดอยู่แล้ว แถมยังอ่านหนังสือกับบทความมามากมายเกี่ยวกับการเป็นผู้นำที่ประสบความสำเร็จหรือว่าวิธีเป็นผู้นำที่ดี

สาเหตุที่ผู้นำมีความสำคัญกับองค์กรหรือการทำธุรกิจเป็นอย่างมากก็เพราะการตัดสินใจแต่ละครั้งของผู้นำ ไม่ว่าจะอยู่ในระดับเจ้าของกิจการ ผู้ถือหุ้น กรรมการผู้จัดการ CEO ผู้อำนวยการ ผู้จัดการ หรือแม้กระทั่ง “หัวหน้ายาม” ก็ย่อมมีผลกระทบต่อคนในองค์กรกับชี้ชะตาอนาคตของบริษัทได้เลยด้วยซ้ำ

ผู้นำที่ดีย่อมผ่านการพิสูจน์ตัวเองหรือผ่านการคัดสรรมาอย่างเข้มข้น พวกเขาจะชี้นำอนาคตของบริษัทให้องค์กรมีผลกำไรที่ยั่งยืน พนักงานอยู่ดีกินดีมีความสุข ต่อให้บางบริษัทแทบจะเหลือแต่ซากปรักหักพังใกล้เจ๊ง แต่พวกเขาสามารถพลิกฟื้นอนาคตของบริษัทได้เลย

ผู้นำที่ห่วย เลือกผู้นำที่ไม่ดี หรือแม้แต่ผู้นำคนนี้จะเป็นคนดี แต่ขาดทักษะการจัดการ ไม่มีการวัดผลอะไรลูกน้องแบบเป็นชิ้นเป็นอัน มีแต่คำพูดโลกสวยเพ้อเจ้อไปวันๆ คนแบบนี้จะนำพาองค์กรไปสู่ความฉิบหายเลยก็ว่าได้

ถ้าคุณอยากเป็นบุคคลที่ประสบความสำเร็จในสายธุรกิจ คุณไม่มีทางละทิ้งและเรียนรู้เรื่องการเป็นผู้นำและมีทักษะในการจัดการที่ดีเป็นอันขาดนะครับ บทความนี้จึงคัดสรรพิเศษสำหรับคุณ


ความหมายของคำว่าผู้นำ (Leadership)

คำว่าผู้นำไม่ได้หมายความว่าคุณจะต้องมีตำแหน่งใหญ่โตเสมอไปนะครับ เป็นแค่ลูกกระจ๊อกก็สามารถฝึกฝนความเป็นผู้นำได้เสมอ บางคนได้รับมอบหมายให้เริ่มเป็นผู้นำตั้งแต่การเป็นผู้จัดการระดับเริ่มต้น (Entry Management Level) ถือว่าเป็นตำแหน่งที่คุณจะมีอำนาจในสร้าง “อิทธิพล” (Influence) กับลูกน้องเพื่อให้พวกเขาทำงานได้ตามกระบวนการ (Process) จนบรรลุเป้าหมายขององค์กร พูดง่ายๆ ก็คือเช่น คุณเป็นผู้จัดการฝ่ายขาย คุณกระตุ้นทีมขายและปลุกใจพวกเขาออกไปล่ายอดขายให้เข้าเป้าตามที่เจ้าของบริษัทมอบหมายจนสำเร็จเมื่อถึงตอนสิ้นปี

หรือบางทีองค์กรมีการเปลี่ยนแปลงแบบกระทบพนักงานหลายฝ่าย เช่น การควบรวมกิจการ (Merger & Acquisition) การซื้อกิจการ เป็นต้น คนที่เป็นผู้นำจะต้องสร้างขวัญและกำลังใจเพื่อให้ทีมงานมีความมั่นใจและยินดีที่จะทำงานตามเป้าหมายขององค์กรต่อไปได้ นอกจากนี้คนที่เป็นผู้นำระดับสูง เช่น CEO จะต้องเป็นผู้สร้างทิศทางขององค์กรที่มีวิสัยทัศน์ สามารทำให้ทุกคนทำงานร่วมกันได้เป็นอย่างดี รวมทั้งมองเห็นถึงการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นตามวิสัยทัศน์ของตนหลังจากที่กำหนดทิศทางเอาไว้เรียบร้อยแล้ว

งานของคนที่เป็นผู้นำ (Task Focus)

– วางแผนและกำหนดการทำงาน

– มอบหมายความรับผิดชอบให้กับผู้บริหารหรือผู้จัดการฝ่ายต่างๆ

– สร้างรายละเอียดการทำงานที่ชัดเจน

– กระตุ้นทีมงานให้บรรลุเป้าหมาย

– สังเกตและเฝ้ามองผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น

การสร้างความสัมพันธ์ของคนที่เป็นผู้นำ (Relationship Focus)

– มีความอบอุ่น (Warmth)

– พูดต่อหน้าสาธารณะหรือคนหมู่มากได้ดี (Social Rapport)

– นับถือทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน

– กล้าที่จะไว้ใจคนอื่น

– มีความไวต่อความรู้สึกผู้อื่น (Sensitivity)

ความหมายของคำว่าการจัดการ (Management)

การจัดการ แค่ฟังดูก็รู้ว่าน่าจะเป็นงานของผู้จัดการแล้วล่ะครับ (ฮา) แต่ไม่ใช่เสียทีเดียวนะครับ เพราะทักษะการจัดการเป็นทักษะของคนระดับเริ่มทำงานก็สามารถฝึกฝนกันได้แล้ว เพื่อการปูพื้นไปสู่ความเป็นผู้นำระดับสูงที่ประสบความสำเร็จในอนาคต ถ้าคุณเป็นแค่พนักงานระดับเริ่มต้น คุณสามารถเรียนรู้เรื่องนี้และลงมือทำได้ตั้งแต่ตอนนี้เลย เชื่อผมเถอะว่าอาชีพการงานของคุณจะพุ่งขึ้นเหนือคนรุ่นเดียวกันได้เร็วมาก

ความหมายของการจัดการเรียกได้ว่ามีความแตกต่างกับความเป็นผู้นำที่ใช้อิทธิพลในการทำให้ผู้อื่นเชื่อและลงมือทำจนบรรลุเป้าหมาย แต่การจัดการคือ “การใช้อำนาจ” (Authority) ที่สืบทอดอำนาจโดยตรงจากการแต่งตั้งโดยผู้นำระดับสูงอย่างเป็นทางการ ตัวอย่างเช่น คุณเป็นผู้จัดการที่เจ้าของบริษัทแต่งตั้งมาเพื่อให้ควบคุมการทำงานของทีมขาย โดยรับมอบเป้าหมายที่เจ้าของต้องการให้คุณใช้งานทีมขายและฝึกฝนพวกเขาให้เก่งกาจ คุณจึงเป็นผู้รับมอบอำนาจและใช้ทักษะการจัดการกับทีมขายตามเป้าหมายของบริษัท

ขึ้นชื่อว่าการจัดการก็จะเป็นอะไรที่ “จับต้องได้” และที่สำคัญคือต้อง “วัดผลได้” มันคือการทำให้คำพูดโลกสวยจากปากของผู้นำถูกปรับใช้กับสถานการณ์จริงจนบรรลุเป้าหมายได้จริง พูดง่ายๆ คือทุกอย่างจะต้องมองตามความเป็นจริงด้วย เช่น วิชั่นหรือวิสัยทัศน์ของผู้บริหารบอกว่าปีหน้าเราจะรวย (ฮา) แต่ในฝั่งการจัดการจะมองว่าต้องวางแผนและกำหนดงบประมาณในการสร้างทีมหรือพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อให้ปีหน้ารวยกว่าปีเก่า

การจัดการจะมีผลในการว่าจ้างคนที่ใช่เข้ามาประจำตำแหน่งที่วางแผนเอาไว้ เป็นผู้กำหนดกติกา ควบคุม บังคับ และวัดผลการกระทำ ที่สำคัญคือผลลัพธ์จะต้องคาดการณ์หรือสั่งให้รีดผลลัพธ์ออกมาได้ เช่น คาดการณ์ยอดขายของเดือนหน้าได้ หรือบี้ทีมงานจนเอายอดขายตามคำสั่งของผู้บริหารสูงสุดได้

สรุป

ความเป็นผู้นำที่ดีอย่างเดียวไม่เพียงพอแน่นอนต่อการนำองค์กรให้ขึ้นสู่ความสำเร็จ แต่จะต้องมีทักษะการจัดการที่ดีในการบังคับใช้ วางงบประมาณ กำหนดการทำงาน และที่สำคัญคือต้อง “วัดผลได้” ถึงจะเป็นผู้นำที่นำพาองค์กรให้ประสบความสำเร็จได้ครับ

Leave your vote

Comments

0 comments

Similar Posts

ใส่ความเห็น