เปรียบเทียบการขายให้เห็นภาพง่ายๆ เมื่อเทียบกับการ "จีบสาว"

ถ้าใครกำลังงงๆ ว่าการขายมันเกี่ยวอะไรกับการจีบสาว ผมถือว่าคุณคิดถูกแล้วล่ะครับที่มีคำถามแบบนี้ขึ้นมา…มันน่าสนใจใช่ไหมล่ะครับ

ผมจะขอพูดถึงนิยามการขายและทำให้คุณเข้าใจได้ไม่ยากภายใน 3 นาทีนี้กันเลย

ถ้าเปรียบเปรยคำว่า “นักขาย” จงลองเปลี่ยนจากการเป็นเซลล์ขายของกับลูกค้า ไปเป็นการ “จีบสาว” ผมเชื่อว่าท่านชายหลายคนต้องเก็ตแน่นอน (ฮา)

ลองคิดดูง่ายๆ ว่านักขายส่วนใหญ่ก็จะมี “สินค้า” หรือ “บริการ” ซึ่งมีคุณสมบัติต่างๆ นานา ที่มีประโยชน์ต่อลูกค้า

ถ้าลูกค้าเห็นประโยชน์จนต้องการซื้อ เมื่อนั้นคุณก็รับเงินเข้ากระเป๋า โดยได้ค่าตอบแทนเพิ่มเติมเป็นค่าคอมมิชชั่น

แล้วการจีบสาวมันเหมือนกับการขายตรงไหน? ผมตอบตรงนี้เลยว่า “เหมือนกันครับ” ถึงตรงนี้คุณอาจถามต่อว่าตรงไหนที่เหมือนกัน?

ง่ายๆ เลยก็คือการให้สินค้าและบริการเป็น “ตัวคุณเอง” นั่นแหละครับที่คุณต้องเสนอขายลูกค้า ซึ่งก็คือ “สาวๆ”

สมมติว่าตัวคุณคือสินค้า ลองคิดดูว่าคุณก็ควรจะต้องมีคุณสมบัติที่ผู้หญิง (น่าจะ) ชอบ ดังนี้

– หน้าตาหล่อ ขาว ตี๋ โอปป้า คม เข้ม ฯลฯ

– หุ่นดีมี 6 Packs and Dark, Tall, Handsome

– ขับรถเบนซ์ บีเอ็ม ซีวิคเทอร์โบ ปิ๊กอัพดันราง ฯลฯ

– จบจุฬาฯ ฮาวาร์ด แคมบริดจ์ ยูดัง

– เล่นกีตาร์เป็น เล่นกีฬาเก่ง

– ยาว ใหญ่ ล่ำบึ๊ก งานดี (ฮา)

– ใจดี สปอร์ต สายเปย์

– ซื้อชาแนลให้อีกในการเดทครั้งแรก

– ฯลฯ ที่พอจะนึกได้

คุณอาจจะคิดไปเองว่าคุณมีคุณสมบัติที่ดีขนาดนี้ สาวๆ ต้องชอบคุณแน่ๆ จีบใครก็ติด งานนี้ไม่น่ากินแห้วชัวร์ (ฮา)

แต่แน่ใจแล้วเหรอว่างานนี้ “หมูๆ” อย่างที่คิด เพราะถ้าคุณเอาแต่นำเสนอคุณสมบัติที่ดีของตัวเองแบบ “โม้แหลก”

เหมือนนักขายห่วยๆ ที่แม้ว่าสินค้าจะดีแค่ไหน แต่ก็เอาแต่โม้ พูดแต่เรื่องข้อดีของสินค้าโดยไม่ถามและฟังลูกค้าเลย

แล้วคุณดันเอาแต่โม้ถึงข้อดีของตัวเองต่อหน้าผู้หญิง กลายเป็นความโอ้อวดและน่าหมั่นใส่ ผู้หญิงเกลียดขี้หน้า

ทั้งๆ ที่มีข้อดีอยู่ท่วมตัวขนาดนี้ ผู้หญิงกลับไม่ชอบซะงั้น อย่างนี้คุณคิดว่าปัญหาอยู่ที่ไหนกันครับ

ปัญหาอยู่ที่ “ตัวคุณเองล้วนๆ” ที่ไม่เข้าใจทั้งการขายและการจีบสาวว่าต้องทำอย่างไรถึงจะถูกวิธีและได้ผล

ถ้าคุณลองคิดกลับกันว่ามีคุณสมบัติที่ดีอยู่แล้ว จงลองเปลี่ยนจากการนำเสนอ (Present) แต่เรื่องข้อดี ให้เป็นเรื่องถามคำถามเพื่อทำความรู้จักลูกค้าหรือสาวๆ แทน

คุณจะพบว่าเผลอๆ คุณแทบ “ไม่ต้องพูดเยอะ” เพราะจะเจ็บคอเปล่าๆ เช่น คุณถามจนพบว่าลูกค้าต้องการบางสิ่งบางอย่าง ซึ่งสินค้าและบริการของคุณตอบโจทย์พวกเขา

หรือถามผู้หญิงแบบง่ายๆ และพบว่าเธอไม่มีรถ แถมช่วงนี้ก็ลำบากเพราะฝนตกจนเปียกแฉะ คุณก็แค่นำเสนอข้อดีของตัวคุณแบบนิ่มๆ ว่า “ผมมีรถพอดีครับ ใหผมช่วยนะ”

เธอก็จะรู้ทันทีว่าคุณมีข้อดีที่ช่วยเธอได้แน่นอน และยอมไปกับคุณ เผลอๆ ได้ไปเดทกันเลยด้วยซ้ำ คุณจึงไม่ต้องพูดเยอะเกี่ยวกับคุณงามความดีเรื่องอื่นเลยด้วยซ้ำไป

เชื่อผมเถอะครับว่าทุกคนมีข้อดีกันอยู่แล้ว ที่สำคัญคือไม่จำเป็นต้องพูดทั้งหมดด้วย เปลี่ยนเป็นถามพวกเธอเพื่อให้เธอเปิดเผยกับคุณมากขึ้นจะดีกว่าไหม

ผมว่าเข้าทางแน่ๆ ถ้าบางเรื่องของพวกเธอนั้นตรงกับคุณ หรือว่าคุณสามารถช่วยเหลือพวกเธอได้ เช่น วิธีการดูแลรถ เลี้ยงสัตว์ ติวหนังสือ รับส่ง ฯลฯ ที่มันไม่น้ำเน่าเกินไป

การขายกับการจีบสาวยังเหมือนกันอีกคือเรื่องการ “ติดตามงาน” จนกว่าจะซื้อหรือ “ปิดเกม” กับพวกเธอ

ติดตามงานของการขายก็ไล่ตั้งแต่เจอหน้าครั้งแรก ส่งราคา เข้าไปดูหน้างาน ทำเดโม่ ปรับสเปค เข้าห้องต่อรองราคา ปิดการขาย ติดตั้งงาน ส่งมอบงาน ฯลฯ

ที่สำคัญคือการขายนั้นยากมากๆ ที่จะขายได้ตั้งแต่นัดกันครั้งแรก ตามมูลค่าของสินค้า

การจีบสาวก็เหมือนกัน แค่ขอเบอร์และโทรม่อไปวันๆ ก็ยังปิดเกมไม่ได้แน่ๆ จึงต้องตามงาน ไล่ตั้งแต่ขอนัดเจอหน้า นัดเดท พาไปกินข้าว จับมือครั้งแรก กอด จูบ xxx (ฮา)

เห็นไหมครับว่าการขายกับการจีบสาวนั้นแทบจะเหมือนกันเลย ตั้งแต่การขอเบอร์ นัดเจอหน้า นำเสนอข้อดีของตัวเอง เล่าเรื่อง ตามงาน ปิดการขาย เก็ตไหมครับ!

แต่บางคนก็อาจจะ “เถียงสวน” มาว่า “ผมไม่มีข้อดีอะไรเลย” หน้าตาก็แย่ รวยก็ไม่รวย เรียนจบไม่สูง ทำอะไรก็ไม่เป็น เปรียบได้กับนักขายที่ยังอ่อนหัด มือใหม่ ไม่เก่ง

คุณจึงต้องไปเน้น “จำนวน” การจีบสาวหรือหาลูกค้าให้มากขึ้น คุณกล้าเถียงไหมล่ะครับว่าจีบสาว 100 คนพร้อมกันแล้วจะแห้วทุกคน หรือไปขาย 100 เจ้า แล้วว่าวหมด

สรุปก็คือ มันต้องได้แน่ๆ อย่างน้อย 1 ราย หมายความว่าคุณจะเหนื่อยกว่าหนุ่มนักเกี้ยวสาวหรือนักขายขั้นเทพ ที่อาจจะจีบ 1-3 คนก็ติด คุณจึงใช้ความพยายามมากขึ้น

เริ่มจากการพัฒนาตัวเองให้มีคุณสมบัติที่ดีขึ้น ไล่ตั้งแต่..

– แต่งตัวให้ดูดี มีทรงผมที่ดี มีกาละเทศะ

– สม่ำเสมอและตรงเวลา ให้เกียรติ

– ทำการบ้านเกี่ยวกับลูกค้าหรือสาวๆ เสมอ เช่น เช็คชีวิตของพวกเธอในเฟซบุ้คว่าชอบอะไร ชีวิตเป็นยังไง

– พูดเรื่องตัวเองให้น้อยลง แต่เน้นถามและฟังให้มากขึ้น

– ปรับปรุงการสนทนาให้ตรงกับสิ่งที่เธออยากฟังมากขึ้น

– พัฒนาบุคลิกภาพที่ดีด้วยการออกกำลังและฝึกซ้อม

– หาเงินให้เพิ่มมากขึ้นเพื่อลงทุนให้กับตัวเอง

– ฯลฯ ที่เป็นเรื่องที่ดี

คุณก็จะเริ่มพัฒนาตัวเองให้เป็นนักขายหรือจีบสาวได้ดีขึ้น มีโอกาสปิดเกมได้ง่ายและเหนื่อยน้อยลงมากขึ้นนั่นเอง

แสดงว่าไม่ว่าจะเป็นการขายหรือการจีบสาวนั้น สิ่งที่สำคัญคือการถามคำถามและเลือกนำเสนอสิ่งที่พวกเขาฟังแล้ว “ได้ประโยชน์” ต่อชีวิตหรือธุรกิจนั่นเอง

หมดยุคแล้วของการตามตื๊อลูกค้าหรือผู้หญิงที่ชอบ เสียเวลาเปย์ลูกค้าและสาวๆ แบบเปล่าประโยชน์แล้วคิดว่าจะปิดการขายได้ โทรตื๊อ ทำอะไรที่มันน้ำเน่า น่าเบื่อ ไปวันๆ

เชื่อถือว่าคุณไม่มีทางปิดการขายได้ น่ารำคาญ แถมยังเตรียมรับประทานแห้วกระป๋องใหญ่ได้เลย

…ไม่พูดเยอะ (เจ็บคอ)

#ยิ่งอ่านยิ่งขายดี

#โปรดแอดไลน์เพื่อไม่ให้พลาดบทความดีๆ ทุกวัน และสามารถปรึกษาการขายกับผมได้ทุกเรื่องคลิก: https://goo.gl/j6R4bO

#อ่านบทความเกี่ยวกับการขายอันดับหนึ่งของไทยกว่า300บทความที่คลิก: http://sales100.wpenginepowered.com

Leave your vote

Comments

0 comments

Similar Posts

ใส่ความเห็น