ดูหนังวันหยุดกับ The Founder…สร้างจากเรื่องจริงของผู้ก่อตั้ง McDonald's ที่คุณต้องดู

ผมขอบอกกับคุณทุกคนไว้เลยนะครับ ผมยังยืนยันคำเดิมว่าอาชีพนักขายเป็นใบเบิกทางที่ทำให้คุณมีโอกาสออกไปทำธุรกิจเองและประสบความสำเร็จสูง (เคยเขียนไว้ในบทความแรกๆ) หนังเรื่องนี้เป็นสิ่งที่ยืนยันคำคำนี้อย่างดี จงตั้งใจอ่านให้จบแล้วผมจะมาเล่าเคล็ดลับนั้นให้ฟังครับ

ผมพึ่งดูหนังจบสดๆ ร้อนๆ เลยครับสำหรับหนังที่สร้างจากเรื่องจริงของเรื่องราวความยิ่งใหญ่แห่งอาณาจักร “McDonald’s” ธุรกิจอาหารฟาสต์ฟู้ดระดับโลกที่ไม่มีใครไม่รู้จัก ธุรกิจนี้พบอยู่ทุกหนทุกแห่ง ทุกที่ที่คุณไป หลอกหลอนคุณแม้แต่ยามที่คุณกำลังจะไปเติมน้ำมัน คุณก็เจอแมคโดนัลด์อยู่ตรงหน้าคุณแล้ว (แถมคุณยังลงจากรถไปซื้อเบอร์เกอร์มาอีกต่างหาก ฮา…)

“ไม่มีใครแก่เกินจะรวย” คำคำนี้ยังคงเป็นจริงและเป็นอมตะ สิ่งที่จะทำให้คุณประสบความสำเร็จได้และเหนือกว่าคนอัจฉริยะสมองดี คือ “ไม่ยอมแพ้ (Persistent)” คำคำเดียวคำนี้แหละครับ นี่คือสิ่งที่ผมได้จากการดูหนังเรื่องนี้ ผมจึงขอแชร์ให้คุณฟังในฐานะที่หนังเรื่องนี้ตีแผ่การก่อตั้งธุรกิจระดับโลก ซึ่งไม่น่าเชื่อว่าคุณลุง Ray Kroc ผู้เป็นหนึ่งใน Co-Founder (ตัวเอกของเรื่องนี้) ก็เคยทำอาชีพนักขาย (Salesman) เหมือนกับเราๆ ท่านๆ นี่แหละ

“ผมรู้ดีว่าคุณคิดอะไรอยู่? เรื่องราวของเซลล์แมนขายเครื่องทำมิลค์เชค อายุ 52 ปี สร้างอาณาจักรฟาสต์ฟู้ดมากกว่า 1,600 สาขา และทำรายได้ต่อปีราวๆ 700 ล้านเหรียญได้ยังไง? คำเดียวเลย…ไม่ยอมแพ้ (Persistent); Ray Kroc ได้กล่าวไว้

หนังเล่าเรื่องราวของ “เรย์ คร็อก (Ray Kroc)” เซลล์แมนผู้มีนิสัยทะเยอทะยาน ผู้มีชีวิตแบบชนชั้นกลางธรรมดาๆ ทั่วไป เขาขายเครื่องทำมิลค์เชคตามร้านอาหารทั่วไป ซึ่งก็ขายได้บ้างไม่ได้บ้าง จนวันหนึ่งมีลูกค้าสั่งซื้อเครื่องทำมิลค์เชคของเขาเป็นจำนวนมาก เขานึกสงสัยจึงได้พบกับลูกค้าของเขาคือ “ดิ๊คและแม๊ค” สองพี่น้องตระกูลแมคโดนัลด์ ผู้ที่ทำให้ชีวิตของเขาเปลี่ยนไปตลอดกาล

ผมขอข้ามแบบไม่สปอยล์ไปเลยนะครับ สรุปคร่าวๆ คือเรย์ (พระเอก) ได้ใช้ทักษะการขาย ความทะเยอทะยาน ความเชื่อมั่นในธุรกิจนี้จากดิ๊กและแม็ค เข้าร่วมเป็นพาร์ทเนอร์โดยใช้ทักษะการขายของเขามาช่วยขยายธุรกิจในรูปแบบแฟรนไชส์จนประสบความสำเร็จ เรย์มองไกลไปจนถึงแบรนด์นี้จะต้องเป็นแบรนด์ระดับชาติ

ความทะเยอทะยานครั้งนี้ แม้แต่ดิ๊กกับแม๊ค สองพี่น้องผู้ก่อตั้งตัวจริงก็ไม่อาจหยุดยั้งได้ ความคิดและการลงมือทำของเขาถึงขั้นตั้งตัวเป็น CEO ตัวจริงและเข้าฮุบกิจการทั้งหมดของแมคโดนัลด์ได้ โดยที่ผู้ก่อตั้งตัวจริงได้เพียงแค่เศษเงินและหุ้น 1% เท่านั้น เรย์ทำได้อย่างไรกันนะ? อยากรู้ก็จงไปดูหนังเรื่องนี้นะครับหรืออ่านต่อที่ https://en.wikipedia.org/wiki/McDonald’s

ถึงตรงนี้ ถ้าคุณมั่นใจว่าคุณเป็นนักขายมืออาชีพ มีฝีมือ มีทักษะ ต้องการเข้าร่วมการเป็นหุ้นส่วนกับเจ้าของกิจการที่คุณคิดว่าคุณทำให้เจ้าของตัวจริงรวยและตัวคุณเองก็รวยด้วย (Win-win) แบบไม่ต้องใช้เงินตัวเอง ใช้แต่ทักษะการขาย จงฟังเคล็ดลับของผมให้ดีนะครับ

1) เสนอตัวเข้าเป็นผู้บริหารทีมขายหรือขายของให้ในช่วงเริ่มต้น

ตัวเลขจากการขายเป็นตัวเลขทรงพลังที่ทำให้คุณสามารถต่อรองกับเจ้าของบริษัทฯ ได้ ไม่มีเจ้าของธุรกิจในช่วงเริ่มต้น (Startup and SME) คนไหนไม่ต้องการพาร์ทเนอร์ที่สร้างผลประโยชน์ให้เขาได้ครับ โดยเฉพาะเรื่องเงินซึ่งเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด ทำให้ธุรกิจสามารถเดินหน้าต่อไปได้ จงเสนอตัวเข้ามาเป็นนักขายหรือคุมทีมขายพร้อมกับตัวเลขที่คุณคาดว่าจะหามาให้แลกกับหุ้นจำนวนที่เหมาะสม เช่น ธุรกิจฯ รับออกแบบภายในที่มีทุนจดทะเบียน 2 ล้านบาท คุณมองเห็นศักยภาพของหุ้นส่วนและเสนอตัวเป็นนักขายพร้อมกับตัวเลขที่น่าจะทำได้ปีแรก 10 ล้านบาท คุณขอหุ้นลมจำนวน 15% โดยที่ลงแรงในการทำนัด เสนอขาย ตามงาน ปิดการขาย และคุมลูกน้องทีมขายในอนาคต ก็เป็นอีกตัวอย่างนึงที่สามารถทำได้จริงครับ

2) คุยเรื่องบทบาทของแต่ละคนให้ชัดเจน

ข้อนี้ตรงตัวมันเองอยู่แล้วนะครับ ก่อนเริ่มงานกัน ควรคุยให้เคลียร์ว่าหน้าที่แต่ละคนจะทำอะไรบ้าง เช่น นักขายจะทำในส่วนของการหาลูกค้า ทำรายงานการขาย คุมทีมขาย ฯลฯ เป็นต้น ส่วนตัวหุ้นส่วนที่ไม่ได้ดูเรื่องการขายก็ต้องชัดเจนเช่นกัน เช่น ธุรกิจซอฟท์แวร์ ก็ควรแยกบทบาทกันให้ชัดเจนระหว่าง CTO ผู้เขียนโปรแกรมกับนักขายที่หายอดขายมาให้ ทำให้การทำงานมีความชัดเจนมากขึ้น และควรทำสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษรให้ชัดเจน

3) ทำสัญญาลงนามในทุกๆ เรื่อง

การพูดคุยเรื่องผลประโยชน์ทางธุรกิจ บทบาท หน้าที่ ค่าตอบแทน เงินเดือน ฯลฯ ทุกอย่างควรลงนามเป็นลายลักษณ์อักษรทั้งหมด คุณเองก็ควรเช็คเอกสารที่จดทะเบียนการค้าว่ามีชื่อคุณอยู่ในกลุ่มผู้ถือหุ้นให้ชัดเจน เพื่อสิทธิ์ในการเป็นกรรมการบริษัทผู้มีหุ้นอยู่ในธุรกิจใหม่ของคุณ คุณจะได้รับผลประโยชน์ที่ไม่ใช่ค่าคอมมิชชันอีกต่อไปแล้ว เพราะสิ่งที่คุณจะได้รับนั่นคือ “เงินปันผล” ครับ

ชีวิตใหม่ของคุณถือกำเนิดขึ้นมาแล้วครับ จากเคล็ดลับนี้จะทำให้ตัวคุณเปลี่ยนจากนักขายมาเป็นเจ้าของกิจการ จงใช้ทักษะการขายที่คุณมีมาขับเคลื่อนธุรกิจของคุณเองให้เต็มที่นะครับ อย่าลืมนะครับว่าคุณคือหุ้นลม คุณต้องลงแรงให้เต็มที่ สัญญาใจที่คุณให้ไว้กับหุ้นส่วนของคุณคือ “ตัวเลข”

จงทำมันให้ได้นะครับเพื่อทำให้ฝันของคุณและหุ้นส่วนเป็นจริง ใครจะรู้ว่าคุณเองนี่แหละที่จะเป็นนักธุรกิจคนใหม่ที่ประสบความสำเร็จและมาจากการเป็นนักขายเหมือน เรย์ คร็อก คุณตัน ต๊อบ เถ้าแก่น้อย ก็เป็นได้

ทิ้งท้ายไว้หลังจากดูหนังเรื่องนี้นะครับ ในยุคปัจจุบัน ธุรกิจที่เราเห็นความสำเร็จกันอยู่นี้ โดยเฉพาะธุรกิจสตาร์ทอัพ (Startup) มีสิ่งสิ่งหนึ่งที่เหมือนกับธุรกิจของแมคโดนัลด์ นั่นคือ ในโลกของธุรกิจไม่มีความเห็นใจใดๆ ทั้งสิ้น ถ้าฆ่าก็ต้องฆ่า (หมายถึงเอาชนะเชิงธุรกิจ) ถ้านักขายต้องการเป็นเจ้าของกิจการ จงอย่าลืมความจริงข้อนี้ให้ดีนะครับ เอาคำพูดนี้มาเป็นภูมิต้านทานและหากลยุทธของผู้ชนะในสงครามธุรกิจของคุณให้ได้ครับ

Leave your vote

Comments

0 comments

Similar Posts

ใส่ความเห็น