การคิดแบบโยนิโสมนสิการ…ความคิดที่ทำให้คุณประสบความสำเร็จ

ในสังคมคนทำงาน ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม การเป็นคนคิดบวก คิดดี จะส่งประโยชน์ต่อการดำเนินชีวิตและความสุขอย่างมหาศาล

ผมมีแนวคิดดีๆ ที่เป็นหลักธรรมจาก ‘พระไตรปิฎก’ ซึ่งเป็นวิธีคิดเพื่อความเจริญด้วยปัญญา นั่นคือการคิดแบบ ‘โยนิโสมนสิการ’ เรียกได้ว่าเป็นการคิด ‘เปลี่ยนชีวิตคุณ’ จากเรื่องลบให้กลายเป็นเรื่องบวกได้เลย

โยนิโสมนสิการ ในมิลินทปัญหา (ธรรมะไทย) อธิบายไว้ว่า เหมือนการจะเกี่ยวข้าว ก็ต้องจับให้มั่น จับให้ถูก แล้วจะเกี่ยวได้ง่าย

ความหมายก็คือ ในเรื่องเดียวกัน ปัญหาเดียวกัน ถ้าคุณมองให้ถูกมุม มันก็จะเกิดประโยชน์ มีมุมที่น่ามองอยู่ มุมที่มองแล้วก่อโทสะ โมโหก็มี มุมที่มองแล้วเอามาใช้คิดต่อให้ได้ปรับปรุงตัวเองก็มีอยู่ แล้วแต่คนจะมอง 

‘ปัญญา’ เหมือนเคียว ‘ข้าว’ เหมือนกิเลสหรือตัวปัญหา ถ้ามีโยนิโสมนสิการ (การทำไว้ในใจอย่างแยบคาย) มาจับต้นข้าวให้ได้มุมเหมาะๆ แล้ว ปัญญาที่แหลมคมก็จะเกี่ยวข้าวหรือตัดกิเลส ตัดปัญหาใดๆ ออกไปได้แบบไม่เหลือเยื่อใยไม่วุ่นวาย เด็ดขาด นั่นเองครับ

พูดง่ายๆ ก็คือถ้ามีมุมคิดดีๆ มองโลกในแง่บวก มีปัญญาที่เฉียบขาด แค่ “คิด” ทีเดียว ก็จบเรื่องแล้วนั่นเอง

ปัญหาใหญ่ที่คุณมักจะเจอในการทำงาน คงหนีไม่พ้นการเผชิญหน้ากับปัญหาระหว่างคุณกับลูกค้า ทีมงาน เพื่อนร่วมงานและหัวหน้า

ถ้าคุณใช้การคิดแบบโยนิโสมนาสิการเข้ามาช่วยในการปรับเปลี่ยนทัศนคติ เพียงแค่เปลี่ยนมุมมองในเรื่องเดียวกัน คุณก็จะได้ประโยชน์ มีมุมมองที่เอามาใช้ในการปรับปรุง พัฒนาตัวเองได้อย่างไม่น่าเชื่อ เป็นทักษะติดตัวไปตลอดชีวิต ตัวอย่างเช่น

ปัญหา: งานขาย เป็นงานที่เหมือนกับหมาล่าเนื้อ หมดประโยชน์หรือทำยอดขายไม่ได้ก็โดนถีบหัวส่ง
คิดแบบโยนิโสมนสิการ: ได้ทักษะการรู้จักความเป็นจริง (Truth) ของโลกธุรกิจ ไม่มียอดขายก็ถึงขั้นเจ๊งได้เลย ทำให้เกิดการวางแผนอนาคตการทำงานหลังจากที่อายุเพิ่มขึ้น เรี่ยวแรงอาจจะสู้คนหนุ่มไม่ไหว แต่สามารถใช้ ‘ความเก๋า’ ในการสร้าง ‘ตัวแทน’ ขึ้นมาจากประสบการณ์และวิธีการโค้ชชิ่งที่ดี ซึ่งต้องอาศัยทั้งวัยวุฒิและคุณวุฒิ

ปัญหา: ลูกค้าด่า เจ้านายด่า เพราะทำงานผิดพลาด

คิดแบบโยนิโสมนสิการ: ได้ทักษะการฟังที่ดีเวลาลูกค้าหรือเจ้านายโมโห เพื่อวิเคราะห์ข้อผิดพลาดและใช้คำพูดในการสื่อสารอย่างสุภาพ นิ่ง (อารมณ์เหมือนตอนแฟนด่าแล้วคุณไม่เถียงกลับนั่นแหละ ฮา..) ได้เรียนรู้จิตวิทยาการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า​และรับมือกับคำด่าได้เป็นอย่างดีพร้อมกับแก้ไขปัญหาอย่างมืออาชีพ

ปัญหา: โทษบริษัทที่ไม่ให้ลูกค้าเก่ามาดูแลบ้างเลย ทำให้ขายไม่ได้ ทำยอดได้ไม่ดี คนอื่นได้แต่ลูกค้าดีๆ 
คิดแบบโยนิโสมนสิการ: ได้ทักษะการคิดแบบเป็นเหตุเป็นผล ยอมรับตัวเองว่าอาจเป็นเพราะประสบการณ์ยังไม่มากพอ ผลงานยังไม่เข้าขั้น ทำให้บริษัทยังไม่ไว้วางใจในการให้ดูแลลูกค้ารายใหญ่นั่นเอง ดังนั้นจะต้องพัฒนาผลงานให้ดีเพื่อเพิ่มเครดิตความน่าเชื่อถือให้กับตัวเองจนบริษัทไว้วางใจ หรือไม่ก็หา ‘ของใหญ่’ เองซะเลย (ยิ้ม..)

ปัญหา: ทีมงานไม่สนับสนุน เพื่อนร่วมงานไม่ชอบขี้หน้า โดนนินทาลับหลัง

คิดแบบโยนิโสมนสิการ: ได้ทักษะการรู้จักมองโลกในแง่ดี แม้จะถูกด่า ถูกนินทาจากใครหลายๆคน บางเรื่องที่ได้ยินมา ถ้าลองเปิดใจรับฟัง อาจจะเป็นเรื่องจริงที่คนอื่นพูดถึงคุณก็ได้ ดังนั้นถือว่าเป็น ‘ข่าวดี’ ที่คนอื่นอาจจะไม่กล้าพูดกับคุณตรงๆ เกี่ยวกับข้อเสียของคุณ เมื่อได้ยินแล้วก็ฟังและแก้ปัญหา จากนั้นเสียงนินทาก็จะหายไปเอง

ปัญหา: เจ้านายห่วย ผู้บริหารทำงานไม่เป็น เจ้าของบริษัททำงานไม่ได้เรื่อง

คิดแบบโยนิโสมนสิการ: ได้ทักษะในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นด้วยตนเอง แม้ว่าไม่ได้รับการสนับสนุนจากหัวหน้างาน ผู้บริหาร และเจ้าของบริษัท ไม่จำเป็นต้องรอคอยความช่วยเหลืออย่างเดียว ไม่งั้นพวกเขาจะจ้างคุณมา ‘แก้ปัญหา’ ไปทำไม ถ้าคุณไม่หัดแก้ไขปัญหาด้วยตนเองให้ได้ คุณจะเก่งขึ้นอีกเยอะเลยถ้าแก้ไขปัญหาด้วยตนเองได้

ปัญหา: ลูกน้องไม่เชื่อฟัง ทำงานไม่ได้ดั่งใจ สั่งงานเหมือนสั่งขี้มูก

คิดแบบโยนิโสมนสิการ: ได้ฝึกทักษะการเก่งคนที่ถูกพัฒนาขึ้นจากความผิดพลาด คุณจะได้หันมามองตัวเองว่ามีสิ่งไหนที่คุณไม่ได้ลงมือสอนงานลูกทีม บริหารทีมได้อย่างถูกต้อง ทำให้เกิดการเรียนรู้และฝึกฝนให้ตนเองได้เพิ่มพูนทักษะการบริหารคน ซึ่งเป็นทักษะที่ต้องเริ่มเรียนกันใหม่ ไม่มีใครเก่งมาตั้งแต่เกิด

ปัญหา: เศรษฐกิจไม่ดี ลูกค้าไม่มีกำลังซื้อ ขายของไม่ได้

คิดแบบโยนิโสมนสิการ: ได้ทักษะด้านความพยายามและการมองหาวิธีการที่จะช่วยให้ขายของให้ได้ เช่น มองหาลูกค้ากลุ่มใหม่ที่ไม่เคยขายมาก่อน หรือพยายามติดต่อลูกค้าเก่าที่อาจจะไม่ได้ค้าขายด้วยกันมานานแล้ว ทำให้ยังเห็นโอกาสและพยายามอย่างเต็มที่ก่อนที่จะฟังธงว่าเป็นเพราะเศรษฐกิจไม่ดี

ปัญหา: คู่แข่งเพิ่มมากขึ้นเต็มตลาด ขายของยากขึ้น โดนคู่แข่งทุบราคาจนเละตุ้มเป๊ะ

คิดแบบโยนิโสมนสิการ: ได้ทักษะการพัฒนาองค์รวมขององค์กร โดยเฉพาะในเรื่องของคุณภาพสินค้าและการให้บริการ มองโลกในแง่ดีว่าการที่มีคู่แข่งในตลาดจะทำให้คุณอยู่เฉยไม่ได้อีกต่อไป ต้องเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันให้ดีขึ้น ในโลกแห่งทุนนิยมอันบูดๆ เบี้ยวๆ ใบนี้ ไม่มีธุรกิจใดๆ ในโลกที่ไม่มีการแข่งขัน

ปัญหา: สินค้าชำรุด ทีมงานของคุณแก้ไขปัญหาล่าช้า ลูกค้าด่าคุณจนรู้สึกเสียหน้า

คิดแบบโยนิโสมนสิการ: การรู้จักทำงานแบบให้เป็นระบบ ป้องกันปัญหาก่อนที่ปัญหาจะเกิด เป็นตัวแทนของบริษัทในการขอโทษอย่างจริงใจ และรีบแก้ไขปัญหาให้แล้วเสร็จ มีไหวพริบและจิตวิทยาในการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าทีดี

ืทุกคนเห็นด้วยกับผมมั้ยครับ ว่าจากตัวอย่างที่ผมได้ยกขึ้นมา ถ้าคุณมองโลกในมุมมองแบบเดิมๆ คุณจะรู้สึกว่ามันเป็นปัญหาที่บางทีอาจจะเป็นเรื่องใหญ่สำหรับชีวิตคุณเลยก็ได้ มันเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้กำลังใจของคุณนั้นถูกดูดออกไปเป็นจำนวนมาก

สิ่งที่คุณได้รับจากการคิดแบบโยนิโสมนาสิการ คือการเกิดปัญญาด้วยตนเอง นำสิ่งที่คิดที่เป็นแง่บวกที่ซ่อนอยู่มาใช้พัฒนาตัวเองให้กับ ‘ทักษะชีวิต’ ที่คุณต้องเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ที่ไม่เป็นใจอยู่ทุกวัน ทำให้คุณสามารถ ‘ยิ้มรับ’ ได้กับทุกสถานการณ์ และก้าวไปเป็นคนที่ประสบความสำเร็จทางด้านเหตุผลและอารมณ์ (EQ)ื

ทุกสิ่งทุกอย่างที่คุณคิดว่าไม่ดี บางทีเพียงแค่ใส่ใจและปรับเปลี่ยนมุมมองบางอย่าง คุณอาจจะพบข้อดีที่อยู่ในตัวมันเองได้เช่นกัน ผมกล้าที่จะเขียนเพราะมันเกิดจากประสบการณ์จริง ไม่ได้เกิดจากการนั่งเทียน คิดเอง หรือแต่งคำพูดให้สวยหรูแน่นอนครับ

Leave your vote

-3 points
Upvote Downvote

Comments

0 comments

Similar Posts

ใส่ความเห็น