โดนบริษัทเก่าตัดสินว่าทำงานห่วยและคุณต้องลาออก คุณควรทำอย่างไร

คุณอาจจะเคยโดน “ตัดสิน” จากคนในองค์กร ทั้งๆ ที่คุณลาออกมาแล้วมั้ยครับว่าคุณนั้นมัน “กาก” ทำงานไม่ได้เรื่อง กระจอก ซึ่งอันที่จริงๆ แล้วคุณอาจจะทำงานในสิ่งที่ไม่ถนัด ทำงานผิดตำแหน่ง ทัศนคติตอนนั้นไม่ดีก็เป็นได้

มันเป็นสิ่งที่เจ็บปวดเสมอ เวลาคุณโดนเพื่อนร่วมงานเก่านินทาว่าที่คุณลาออกจากบริษัทเก่า เป็นเพราะว่าคุณมัน “ห่วย” “มีประวัติ” ฯลฯ โคตรเจ็บเลยเวลาคุณโดนนินทาด้วยข้อความแบบนี้

ผมเองก็เคยโดนครับ จึงรู้ว่ามันเจ็บแค่ไหนเวลามีเพื่อนร่วมงานเก่าของเรามาด่า ตัดสินเราว่ากระจอก ห่วย ไม่ได้เรื่อง ยิ่งบางคนที่นินทาเราเคยเป็นคนที่เราไว้ใจมาก่อน ยิ่งรู้สึกเจ็บปวดมากเป็นร้อยเท่า 

ผมขอบอกคุณเอาไว้เลยครับว่าความเจ็บปวดเหล่านี้คือพลังที่ทำให้คุณเก่งขึ้นต่างหาก มันคือพลังด้านมืดที่ทำให้คุณผ่านเรื่องราวของ “เสียงนกเสียงกา” เหล่านี้ไปได้อย่างสง่าผ่าเผย 

ข่าวดีที่ซ่อนอยู่ก็คือ ถ้าคุณทำงานได้ “เจ๋ง” กว่าเพื่อนร่วมงานเก่ามากขึ้นเท่าใด เสียงของพวกเขาเหล่านั้นก็จะกลายเป็นเสียง “หมาเห่า” มากขึ้นเท่านั้น ไม่มีทางตามคุณทัน รู้ตัวอีกทีคุณก็ “รวย” กว่าพวกเขาเหล่านั้นเสียแล้ว

คุณอาจจะถามผมว่าทำไมต้องเอาความ “รวย” มาเป็นตัวตั้ง ผมก็จะบอกคุณเหมือนกันว่า เพราะพวกคุณเลือกทำงานเป็นเซลล์ยังไงล่ะ คุณถึงต้องวัดความสามารถกันเองด้วยการสร้างรายได้ ความมั่งคั่ง ความร่ำรวย ถ้าโลกสวยแล้วอยากทำงานขายแบบชิลๆ พวกคุณไม่มีทางยืนอยู่บนโลกแห่งการขายได้ยืนยาวแน่ โดนพวกผมสอยกระจายหมด ไม่มีที่ยืนในตลาดแน่นอน

มาดูวิธีเอาชนะคำครหาพวกนั้นด้วยความสามารถที่ทำให้คุณ “หุบปาก” พวกเสียงนกเสียงกาเหล่านั้นจนคุณสามารถกลายเป็นคนที่ยอดเยี่ยมได้กันดูครับ ดังนี้

1. เมื่อได้โอกาสในงานใหม่ จงแสดงความสามารถที่ซ่อนอยู่ให้เต็มที่ แก้ไขสิ่งที่เคยทำพลาดซะ

ตราบใดที่คุณรู้ตัวว่าทำไมถึง “กาก” ในที่ทำงานเก่า เช่น คุณห่วยเรื่องความรับผิดชอบ ความเก๋า การทำกิจกรรมด้านการขาย วินัย ความสม่ำเสมอ ทักษะการขาย ฯลฯ คุณย่อมสามารถเอาไปใช้แก้ไขกับสิ่งที่ตัวเองเคยทำพลาดจากที่ทำงานเก่าได้เสมอ คุณยังมีโอกาสแก้ตัว จงปิดจุดอ่อนเหล่านั้นให้สิ้นซาก อย่าไปกลัวว่าคนในบริษัทเก่าคุณจะนินทาว่าคุณกระจอกอย่างไร อย่าไปสนใจ ตราบใดที่พวกนั้นไม่ได้เอาข้าวให้คุณกิน

เมื่อคุณได้งานใหม่ จงคิดเสมอว่าคุณจะแก้ไขสิ่งที่คุณผิดพลาดได้อย่างไร ลงมือทำทันที ไม่ต้องกลัวว่าเจ้านายคนใหม่ของคุณจะรู้เรื่องความห่วยแตกหรือผลงานกากๆ ที่คุณเคยทำมาก่อน พวกเขารู้ดีอยู่แล้ว เผลอๆ เช็คประวัติคุณจากบริษัทเก่ามาด้วยซ้ำ แต่ยังรับคุณทำงานเพราะอยากให้โอกาสคุณ คุณจงตอบแทนความดีเหล่านี้ด้วยการทำให้พวกเขารู้ว่าคุณคือคนใหม่ แก้ไขความห่วยแตกที่เคยทำมาได้อย่างหมดจด คุณจะกลายเป็นลูกรักคนใหม่ของเจ้านายใหม่ทันที ไม่ว่าหมาตัวไหนจากบริษัทเก่าจะกัดคุณยังไง ขี้ปากพวกนั้นก็ไม่สามารถทำอะไรคุณได้แน่นอน

2. พลังแห่งความเจ็บปวด คือพลังด้านมืดที่ยิ่งใหญ่ ถ้าคุณเอาไปใช้อย่างถูกวิธี

เวลาที่คุณโดนดูถูก ดูหมิ่น โดนตัดสินว่ากาก กระจอก ห่วย จากที่ทำงานเก่า โดนเจ้านายปฎิบัติอย่างไม่เป็นธรรม รู้สึกว่ากลายเป็นคนไร้ค่า จงเอาคำพูดเหล่านั้นมาใช้เป็นพลังด้านบวก มันคือพลังแห่งความแค้นซึ่งคุณอาจจะมองว่าไม่ดี ทำไมต้องผูกใจเจ็บ เคียดแค้น แต่ลองมองดีๆ นะครับ ถ้าคุณควบคุมพลังนี้ให้ได้ โดยมองว่ามันเป็นพลังด้านลบที่ให้พลังด้านบวก เช่น คุณคิดบวกว่าจะเอาคำดูถูกหรือความผิดพลาดเหล่านี้มาแก้ไข และพิสูจน์ตัวเองใหม่ว่าคุณกลายเป็นคนใหม่ แก้ไขสิ่งผิดพลาดในอดีตเรียบร้อยแล้ว รวมถึงการประสบความสำเร็จจน “ตอกหน้า” คนที่เคยดูถูกคุณเหล่านั้นให้สิ้นซาก 

จงลงมือทำทันทีหลังจากที่คิดได้ เอาพลังแห่งความเจ็บปวดเหล่านั้นมาขับเคลื่อนการกระทำของตนเอง พร้อมด้วยความคิดที่ดีในทุกๆ วัน เมื่อนั้นจะไม่มีใครเอาชนะคุณได้ คุณจะกลายเป็นซุปเปอร์ไซย่าแบบโกคู ที่เอาพลังแห่งความเคียดแค้นด้านลบกับการมองโลกในแง่บวกมารวมกันจนกลายเป็นสมาธิ เป็นแนวคิดทรงพลังที่ทำให้คุณไร้เทียมทาน ทำงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย เรียนรู้ทักษะเทพๆ จากคนที่สำเร็จได้อย่างไร้ขีดจำกัด ไม่มีกรอบคอยขีดเส้นให้กับความสามารถของตนเอง 

3. เรียนรู้ พัฒนาตัวเอง ทำงานให้หนักกว่าคนอื่นมากกว่า 3 เท่า

ถ้าคุณรู้ตัวว่าคุณห่วย เช่น ยอดขายไม่ดี จนกว่า โง่กว่า บุคลิกกากกว่า พูดจาไม่ได้เรื่องกว่า ปิดการขายไม่ได้กว่า ฯลฯ จงพยายามที่จะแก้ไขเรื่องเหล่านั้นให้มีจำนวนมากกว่าคุณที่สมบูรณ์แบบอยู่แล้ว โดยลงมือทำให้มากกว่า 3 เท่า เช่น คนเทพมียอดขายถึงเป้าโดยพบลูกค้าวันละ 2 เจ้า คุณจงเพิ่มจำนวนการพบลูกค้าให้มากกว่าพวกนั้นจาก 2 เจ้า เป็น 6 เจ้า (3 เท่า) เป็นตัน หรือเวลาว่าง เช่น เสาร์-อาทิตย์ พวกเทพใช้เวลาว่างในการพักผ่อน แต่คุณรู้ตัวว่ากาก คุณจึงไปหาความรู้ใหม่เช่น เข้าเรียนสัมมนาหรืออ่านหนังสือยามว่างโดยใช้เวลาให้เป็นประโยชน์มากกว่า 3 เท่า เมื่อเวลาผ่านไป คุณจะเจ๋งกว่าคนที่เก่งกว่าคุณทันที เพราะคุณทำอะไรมากกว่าพวกนั้น 3 เท่า 

4. จงกลับไปขายสินค้าหรือบริการให้กับบริษัทเก่าที่คุณลาออกมา (ถ้าเป็นไปได้)

ข้อนี้เอาไว “ตอกหน้า” เจ้านายเก่าของคุณที่เคยทำอะไรไม่ดีกับคุณเอาไว้ เป็นการวัดผลว่าสิ่งที่คุณพัฒนาแล้ว แก้ไขข้อผิดพลาดของตัวเองในอดีตไปเรียบร้อยแล้ว สามารถเข้าไป “เอา” ผลประโยชน์ จากเจ้านายเก่าของคุณได้หรือไม่ ในกรณีที่เป็นไปได้ ถ้าคุณทำสำเร็จ คุณจะพิสูจน์ตัวเองทันทีว่าคุณเป็นเซลล์ที่เหนือกว่านายเก่าคุณ เพราะพวกเขากลับมาซื้อสินค้าจากคุณนั่นเอง แสดงว่าคุณเอาผลประโยชน์จากนายเก่าคุณได้แล้ว เผลอๆ หน้าที่การงานคุณใหญ่โต นายคุณอาจจะกลับมา “ยกมือไหว้” คุณในฐานะลูกค้าก็เป็นได้ คุณจะค้นพบความจริงว่าสิ่งที่คุณทำนั้นทำให้หน้าที่การงานของคุณไปไกลกว่าคนอื่นมากๆ คุณจะกลายเป็นผู้ใจบุญทันทีถ้ายังซื้อสินค้าจากเจ้านายเก่าคุณ (ฮา) ทั้งๆ ที่เป็นคนที่เคยไล่ออกคุณมาก่อน (ฮาๆๆๆๆ)

5. ประกาศความสำเร็จให้โลกรู้ พร้อมทั้งพัฒนาตัวเองและลงมือทำเป้าหมายใหม่ๆ โดยไม่หยุด

การประกาศเป้าหมายและลงมือทำให้สำเร็จจะทำให้คนที่หมั่นใส้คุณในอดีต คนที่เกลียดคุณ นินทาคุณ กลับมาเริ่มชื่นชอบคุณได้ เพราะพวกเขาเห็นสิ่งที่คุณทำเสมอในโลกโซเชี่ยลมีเดีย สิ่งที่คุณทำจะทำให้พวกเขายอมรับคุณโดยที่คุณไม่รู้ตัว จากเกลียดกลายเป็นชอบ จากนินทากลายเป็นชื่นชม กลายเป็นกระบอกเสียงที่ป่าวประกาศให้คนอื่นรู้แทนคุณว่าคุณนั้น “เจ๋ง” แค่ไหน เมื่อนั้นแหละที่คุณจะเข้าสู่กฎของ “Maslow” ข้อสี่ คือการยอมรับนับถือ สิ่งนี้จะทำให้คุณมีความสุขโคตรๆ เลย ที่คุณ “ตอกหน้า” คนที่เกลียดคุณให้กลับมาชอบคุณได้ด้วยความสามารถของคุณเอง คุณจะกลายเป็น “คนใจกว้าง” ที่ให้อภัยกับคนที่คุณเคยนินทาได้อย่างยอดเยี่ยม

ตอกหน้าคนที่ดูถูกคุณว่ากากด้วยความสำเร็จในอนาคต มันคือสุดยอดแห่งความฟินเลยล่ะครับ นี่คือพลังงานด้านบวกโดยแท้จริงที่ทำให้คุณไม่กลัวใครหน้าไหนทั้งนั้น 

Leave your vote

Comments

0 comments

Similar Posts

ใส่ความเห็น