[เฮฮาวันหยุด] วิธีจีบสาวสวยขั้นเทพแบบฉบับเซลล์ร้อยล้าน

พักเรื่องราวเครียดๆ จากการทำงานตลอดทั้งสัปดาห์ มารับฟังเรื่องราว “ฮาๆ” สำหรับวันหยุดนี้กันดีกว่าครับ

ว่ากันด้วยเรื่องของการ “จีบสาว” ผมมักจะได้ยินคนอื่นพูดถึงอาชีพเซลล์อยู่บ่อยๆ ว่าเป็นหนุ่มจอมเจ้าชู้บ้างล่ะ จีบสาวเก่งบ้างล่ะ มีสาวๆ รุมล้อมมากมายบ้างล่ะ ผมต้องขอเคลียร์ก่อนเลยครับว่าที่กล่าวมาทั้งหมดนั้น “ไม่เป็นความจริง” แต่อย่างใด (ฮา)

อาชีพนักขายอาจจะดูเหมือนเป็นคนที่เข้ากับคนอื่นง่าย มีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี จึงถูกเหมารวมด้วยภาพลักษณ์แบบนั้นบ่อยๆ ซึ่งก็ไม่เถียงนะครับว่าบรรดานักขายที่ผมรู้จักมักจะเป็นหนุ่มเนื้อหอม มีเสน่ห์ น่าค้นหา มีสาวๆ สวยๆ รุมล้อมเต็มไปหมด ผมจึงค้นพบว่าพวกเขาได้ใช้ทักษะการขายมาประยุกต์กับการจีบสาวอย่างมืออาชีพ ทำให้คว้าหัวใจสาวๆ และได้แต่งงานกับสาวในฝันนั่นเองครับ

วันนี้จึงขอแชร์เคล็ด (ไม่) ลับ ที่ช่วยให้ผู้ชายที่ยังไม่สมหวังกับความรัก โสดสนิท ต้องการมีแฟนเป็นผู้หญิงในฝันได้บรรลุตามเป้าหมายชีวิตของคุณ และมีความสุขกับชีวิตกับคนที่คุณรักและชอบจริงๆ ครับ


1. แต่งกายและจัดทรงผมให้ดูดีอยู่เสมอ

วิธีเบสิกที่ถึงแม้ว่าคุณจะเกิดมาหน้าตาแย่แค่ไหน การแต่งกายที่ดูดี อินเทรนด์ ตามสมัยนิยม ถูกกาละเทศะ ย่อมทำให้คุณดีขึ้นได้ ที่สำคัญไปกว่านั้นคือ “ทรงผม” ที่ไม่ควรปล่อยยาวแบบธรรมชาติเด็ดขาด การตัดผมสั้นที่เหมาะกับ “ขนาดหัว” และ “หน้าผาก” ย่อมทำให้คุณดูดีขึ้นได้ ซึ่งถ้าคุณหัวสวย ไม่หัวล้าน คุณก็น่าจะได้เปรียบในข้อนี้

แต่ถ้าหัวล้าน การโกนหัวและไว้หนวดเคราสวยๆ แบบนักบาส NBA หลายๆ คน เช่น เลอบรอน เจมส์ ย่อมทำให้คุณดูดีขึ้นมาได้อย่างแน่นอน ที่สำคัญคือควรปรึกษาช่างผมสไตล์แมนๆ ให้ช่วยออกแบบทรงผมให้คุณ เพียงเท่านี้คุณก็จะหล่อและดูดีราวกับเป็นคนใหม่ได้เลยครับ จำไว้นะครับว่าควรเซ็ตผมออกบ้านทุกวัน ต่อให้ไปแค่ตลาดนัดก็ตามที คุณต้องเตรียมพร้อมเสมอไม่ว่าจะยังไงก็ตาม เพราะไม่แน่ว่าคุณอาจจะได้เจอผู้หญิงที่ใช่โดยไม่คาดคิดก็เป็นได้

2. กำจัดอาการ “ดิ้นรน” ให้หมดสิ้น

การจีบสาวขึ้นอยู่กับทัศนคติของคุณเองแทบทั้งสิ้น คุณต้องเอาตัวคุณเป็นตัวตั้ง ไม่ใช่เธอครับ การจีบสาวไม่ใช่การใช้คำพูดหวานๆ เล่นกีตาร์ร้องเพลงซึ้งๆ ทำเซอร์ไพรซ์ให้เธอ มีความโรแมนติกแบบสุดขั้วเหมือนในหนัง ขอบอกเลยครับว่าคุณต้องทิ้งทฤษฎีน้ำเน่าพวกนั้นให้หมดสิ้น วิธีการพวกนั้นจะทำให้คุณเป็นผู้ชายที่ล้มเหลวโดยสิ้นเชิง พวกที่อกหักบ่อยๆ หรือหลงรักสาวจนหัวปักหัวปำ ส่วนใหญ่จะถูกจัดอยู่ในประเภทนี้แทบทั้งหมด

ผู้ชายส่วนใหญ่จะมีอาการ “ดิ้นรน” ที่จะได้สาวๆ สวยๆ มาเป็นแฟนแทบทั้งสิ้น ผมเชื่อว่าใครๆ ก็เคยรู้สึกกันมาแล้วทั้งนั้น แต่พฤติกรรมดิ้นรนนี่แหละครับที่จะทำให้คุณกลายเป็นผู้ชายที่อ่อนแอ คุณจะมีอาการดิ้นรนจนตัวสั่น เริ่มไม่เป็นตัวของตัวเอง เริ่มมีอาการลุ่มหลง (Infatuation) จนเกินเหตุ ไม่ว่าจะยามกิน ยามนอน หรือยามถ่าย คุณก็จะเริ่มมองโลกเป็นสีชมพู ในใจก็จะมีแต่หน้าเธอ ไปทำงานก็มีแต่หน้าเธอ แม้แต่เจ้านายด่าก็ยังนึกถึงหน้าเธอ โทรไปหาเธอวันละ 3 เวลา อะไรทำนองนี้ ขอบอกเลยว่าคุณกำลังกลายเป็นผู้ชายที่ “จนตรอก” และมีสิทธิ์โดนทิ้งสูงมาก

ในช่วงที่จีบกัน ถ้าคุณไม่เคยขัดใจพวกเธอเลยแม้แต่ครั้งเดียว ถ้าคุณแคร์ความรู้สึกของผู้หญิงตลอดเวลา เริ่มไม่เป็นตัวของตัวเอง คุณเริ่มควบคุมตัวเองไม่ได้ ไม่เปิดเผยตัวตนที่แท้จริงออกมา และการที่คุณคิดไปเองว่าการ “ทำความดี” ที่คิดว่าเธอน่าจะหลงรักคุณ และเริ่มบูชาพวกเธอราวกับนางฟ้ามาเกิดเหมือนในมิวสิกวีดีโอ คุณต้องเลิกบ้า เลิกดิ้นรน จากอาการเหล่านี้เดี๋ยวนี้เลยครับ!

ถ้าเปรียบกับการขาย มันเหมือนกับการที่คุณ “หมกมุ่น” กับลูกค้าที่น่าจะทำเงินเข้ากระเป๋าให้คุณได้จนเกินเหตุ คุณเลยทุ่มเท ทุ่มเวลา ดูแลพวกเขาแบบ VIP สุดๆ จนเริ่มละเลยลูกค้ารายอื่น พอพลาดดีลมา คุณก็ไม่ได้เงินสักบาท แถมเสียเวลาอีกด้วย

3. ปรับทัศนคติเรื่องการจีบสาวด้วยความกล้าเข้าไปขอเบอร์สาว

ไล่ตั้งแต่เวลาเข้าไปขอเบอร์สาวเลยครับ ไม่เกี่ยงว่าต้องเป็นที่ไหน หรือต้องเป็นที่ผับเสมอไป ขอแค่พกใจและความกล้าในการทำความรู้จักเยอะๆ ลองทำเหมือนพวกเธอเป็นลูกค้าที่คุณโทรเข้าไปทำนัดนั่นแหละครับ พวกเธอจะยอมมอบเบอร์ให้กับคุณถ้าคุณเข้าไปทักด้วยรอยยิ้ม ไม่เขิลอายโอเวอร์เกินไป และจงอย่าฝากเพื่อนมาขอเบอร์ สคริปการทักทายควรเป็นข้อความสั้นๆ เช่น

“.. (ยิ้มมั่นใจ) สวัสดีครับ ผมชื่อเอก คุณน่ารักจังเลย ผมอยากรู้จักและอยากเป็นเพื่อน จึงขอเบอร์ ไลน์ หรือว่าเฟสบุ้คเพื่อเป็นเพื่อนกันได้มั้ยครับ..” ด้วยน้ำเสียงที่มั่นใจ แฝงด้วยรอยยิ้มที่ดูดี

สคริปของผมก็มีแค่นี้แหละครับ มันไม่ได้พิศดาลอะไร เหมือนตอนคุณโทรทำนัดลูกค้าแปลกหน้าเพื่อทำนัดเลย อย่าลืมนะครับว่าจุดประสงค์ของการเข้าไปทักสาวสวยแปลกหน้าคือการขอเบอร์ ไลน์ หรือเฟสบุ้ค (อย่างใดอย่างหนึ่งก็ได้) เพื่อสานสัมพันธ์กับพวกเธอต่อไปครับ

สืบเนื่องจากเรื่องการแต่งตัว ผมถึงบอกว่าการแต่งกายกับทรงผมของคุณต้องพร้อมเสมอ สมมติว่าคุณไปเจอพวกเธอที่ตลาดนัด คุณก็ยังดูดีได้ การแต่งกายกับทรงผมจะช่วยทำให้คุณมั่นใจมากขึ้น “เปลือก” พวกนี้จะทำให้พวกเธอไว้วางใจคุณและยอมมอบเบอร์หรือไลน์ให้กับคุณ

4. รับมือกับคำว่าปฎิเสธให้ได้

เรื่องเบสิกสำหรับนักขาย นั่นคือ “การโดนปฎิเสธ” แต่ทำไมนักขายมืออาชีพเหล่านั้นไม่เคยยอมแพ้ ยังเดินหน้าขายของจนร่ำรวย เพราะพวกเขาชินเสียแล้วกับคำนี้ครับ แถมยังมองเป้าหมายต่อไปเพราะต้องการเงินที่อยู่ตรงหน้า ไม่ต้องการเป็นคนล้มเหลว นั่งน้อยใจไปวันๆ แต่อย่างใด

จีบสาวก็เหมือนกัน ผมเข้าใจดีว่าการโดนปฎิเสธมันทำให้คุณเสียหน้า หลักๆ ก็มีแค่นี้แหละครับ คุณกลัวว่าสาวจะรำคาญคุณ คุณแค่รู้สึกเสียหน้า ถามจริงเหอะว่าเสียหน้าแล้วไงครับ คุณจะตายเหรอ เสียเงินก็ไม่ จริงๆ แล้วคุณไม่ได้เสียอะไรเลยด้วยซ้ำ เพราะมีคนอื่นอีกมากมายให้คุณเข้าไปจีบ สาวๆ สวยๆ แค่หลับตาเดินในพารากอนก็มีอยู่เต็มไปหมด เหมือนกับลูกค้าที่เขาปฎิเสธคุณ คุณทำอะไรไม่ได้นอกจากโทรไปขายลูกค้าเจ้าใหม่ยังไงล่ะครับ

จำไว้นะครับ เดินหน้าลุย ไม่ต้องกลัว ความสุขต้องขึ้นอยู่กับคุณเท่านั้น ไม่ใช่พวกเธอ คุณเพียงแค่คิดว่าพวกเธอโชคร้ายที่ปฎิเสธผู้ชายที่ “น่าสนใจ” แบบคุณ คุณสามารถมอบความสุขให้กับผู้หญิงคนอื่นที่ไม่ปฎิเสธคุณได้แน่นอน และจงคิดว่ามันคือภารกิจฝึกฝนทางจิตใจที่ดีเยี่ยม ลองเจ็บปวดซ้ำๆ แล้วคุณจะแกร่ง ถ้าคุณผ่านความรู้สึกเสียหน้าโดยเฉพาะจากผู้หญิงได้ คุณจะกลายเป็นคนใหม่ที่ไม่กลัวใครหน้าไหนอีกต่อไปครับ

5. จงพัฒนาการเป็นนักคุยและนักถามคำถามที่ดี

งานขายคือการถามคำถามเพื่อหาความต้องการที่ซ่อนอยู่และตอบโจทย์ ผมมักจะบอกเสมอว่านักขายมืออาชีพจะมีทักษะการถามคำถามที่ดี มีความรู้สึกว่าเป็นที่ปรึกษา เพื่อได้รับความไว้วางใจจากลูกค้ามากขึ้น การจีบสาวเองก็เช่นกัน ต่อให้คุณพูดเก่ง นำเสนอดีแค่ไหน มันจะไร้ประโยชน์ทันทีถ้าคุณมัวแต่พูด “เรื่องของตัวเอง” ยังไงล่ะครับ ผู้หญิงจะเกลียดผู้ชายขี้โม้มาก ต่อให้คุณมีคุณสมบัติที่ดีเหมือนที่โม้ก็ตามที ผู้ชายส่วนใหญ่จีบสาวไม่ติดเพราะเป็นนักฟังที่แย่และมัวแต่พูดแต่เรื่องของตัวเองเพื่อหวังให้ผู้หญิงชอบคุณสมบัติที่ดีของตัวเองยังไงล่ะครับ

คุณทราบดีอยู่แล้วว่าธรรมชาติของผู้หญิงเป็นเพศที่ “ชอบพูดคุย” โดยเฉพาะเวลาที่พวกเธอเมาท์อยู่กับกลุ่มเพื่อนสาว (555) พวกเธอชอบพูดอยู่แล้ว เพียงแต่ช่วงที่ได้เบอร์และจีบใหม่ๆ เธอยังไม่ไว้วางใจ บวกกับยังไม่ได้ชอบคุณมากเท่าไหร่ แค่รู้สึกสนใจคุณนิดๆ เลยให้เบอร์ แค่นั้น คุณต้องเป็นฝ่ายถามคำถาม โดยถามเรื่องที่เธอสนใจ เปิดคำถามเชิงค้นหาชีวิตเธอ เช่น กิจกรรมที่ทำ งาน สิ่งที่ชอบ ท่องเที่ยว เพลง หนัง ฯลฯ อะไรก็ได้ที่เป็นการเก็บข้อมูลสำหรับเธอ แต่จงระวังว่าการถามมากเกินไปมันเหมือนกับการสัมภาษณ์งาน (ลูกค้าก็เช่นกัน)

คุณจะต้องรักษาสัดส่วนการคุยให้ได้ประมาณ คุณ 30% เธอ 70% เพื่อให้เธอรู้สึกเป็นฝ่ายแชร์ข้อมูลมากกว่าคุณ คุณจะเป็นผู้พูดและถามเรื่องที่เธอสนใจไปเรื่อยๆ เธอจะไว้วางใจคุณมากขึ้น เวลาคุณโทรมา หรือเธอโทรหา เธอจะชอบคุยกับคุณ ยิ่งเธอพูดมากใส่คุณเท่าไหร่ โอกาสจีบสาวติดก็ยิ่งเพิ่มขึ้นเท่านั้นครับ

6. การติดตามงาน

จำได้ไหมว่านักขายที่ดีต้องติดตามงานเก่ง การติดตามงานไม่ใช่การโทรไปกดดันลูกค้าทุกวันจนน่ารำคาญ แต่วางแผนการตามงานอย่างสม่ำเสมอ ต่างหาก จีบสาวก็เช่นกัน คุณต้องวางแผนและรู้ธรรมชาติว่าการโทรไปทุกวันมันเปรียบได้กับการกดดันและสร้างความรู้สึก “ดิ้นรน” ที่คุณอยากได้เธอมาเป็นแฟนมากเกินไป ถ้าเธอสัมผัสความรู้สึกนี้ได้และยังไม่ได้ชอบคุณ โอกาสแห้วจะมีสูงมาก

คุณต้องวางแผนการจีบเธอย่างมืออาชีพ ไล่ตั้งแต่การโทร การโทรที่ดีไม่ใช่เน้นปริมาณแต่เน้นการสนทนาที่มีคุณภาพ โทรไป 2 วันครั้ง กำลังดี คุยเนื้อๆ ไม่ต้องน้ำเยอะ เมื่อเห็นสัญญาณความเป็นไปได้ในการชวนเธอทำนัดเจอหน้า จงลองเสนอไปบ้าง เช่น ชวนไปกินข้าว ดูหนัง ง่ายๆ ถ้าโดนปฎิเสธก็ไม่เป็นไร ให้ใส่เกียร์ถอยหลังแล้วเริ่มชวนเธอใหม่อีกครั้ง ระหว่างนั้นหา “ตัวเลือก” เอาไว้บ้างก็ดีนะครับ เผื่อจีบคนนี้ไม่ติด 555

คุณเองต้องเป็นฝ่ายเริ่มขยับความสัมพันธ์เองเสมอ จำไว้นะครับ ความสัมพันธ์ไล่ตั้งแต่การจีบใหม่ๆ จนกลายเป็นแฟน สิ่งที่จะขยับความสัมพันธ์ได้คือ “การสัมผัส” เท่านั้น โดยผมแบ่งสเต็ปออกเป็นดังนี้

1. คุณกล้าเข้าไปขอเบอร์และทำสำเร็จ

2. โทรจีบสาว ไลน์คุยกัน

3. เริ่มสำเร็จในการชวนไปกินข้าว ดูหนัง ทำอะไรกันสองคน

4. ได้จับมือเธอครั้งแรกและเธอยอมให้จับ

5. ได้หอมแก้มเธอเป็นครั้งแรก

6. ได้จูบเธอเป็นครั้งแรก อย่างดูดดื่ม

7. ได้พาเธอไปเที่ยว ตจว. เป็นครั้งแรก และ …..xx!#$

8. แต่งงานกับเธอ

ทุกอย่าง คุณต้องเป็นฝ่ายเริ่มเองทั้งหมด ความสัมพันธ์ถึงจะขยับและพัฒนาต่อไปได้นั่นเองครับ เห็นไหมครับว่าความกล้านั้นมีความสำคัญขนาดไหน เหมือนกับการขายเปี้ยบเลยที่คุณต้องเป็นฝ่ายเริ่มให้การขายคืบหน้าเองทั้งหมด ลูกค้าถึงจะเริ่มสนใจและซื้อสินค้าจากคุณ

7. การจีบสาวคือการแค่เล่นไปตามเกม

จำไว้เสมอว่าผู้หญิงไม่ได้ใช่เหตุผลในการตัดสินว่าคุณคือคนที่ใช่สำหรับพวกเธอ แต่พวกเธอใช้ “ความรู้สึก” ในการตัดสินคุณ ดังนั้นก็หมายความต่อให้คุณทำดีแค่ไหน ซื้อดอกไม้กี่ดอก ซื้อของ ซื้อโน่น นี่ นั่น ร้องเพลง ถือกระเป๋า ทำอะไรน้ำเน่าอ่อนแอจนเกินพอดี มันก็ไร้ประโยชน์ โหดร้ายสุดๆ สำหรับผู้ชายไนซ์กายสายโรแมนติกทั้งหลาย แต่นี่คือความจริงครับ สาวสวยมากๆ จะชอบผู้ชายที่ “ดูเป็นแมน” แมนในที่นี้ไม่ใช่พวกนักเลง คนเลว อะไรแบบนี้ แต่คือผู้ชายที่ใช้ชีวิตของพวกเขาอย่างเต็มที่ แคร์เรื่องของตัวเองมากที่สุด ดูดี น่าค้นหา ไม่พูดมาก ฯลฯ

ผู้หญิงจะใช้ความรู้สึกตัดสินว่าเธอต้องการคุณต่างหาก เหมือนกับลูกค้าเลย นั่นคือคุณควบคุมเธอไม่ได้ คุณแค่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจและความรู้สึกของพวกเธอบ้างก็เท่านั้น แต่สิ่งที่คุณควบคุมได้ 100% นั่นคือตัวคุณเองครับ คุณควบคุมการกระทำ คำพูด ทัศนคตินึกคิดของตนเองได้ สิ่งเหล่านี้แหละที่จะทำให้พวกเธอเป็นฝ่ายวิ่งเข้าหาคุณ และความรู้สึกนี้จะทำให้คุณ “ไม่แคร์” กับการโดนปฎิเสธอีกด้วย สิ่งที่ผู้ชายน้ำเน่ากลัวที่สุดในชีวิตคือการโดนปฎิเสธจากผู้หญิงที่พวกเขารักหัวปักหัวปำนี่แหละครับ พวกนี้จึงดิ้นรนแบบสุดๆ เพราะกลัวว่าจะโดนทิ้งหรือไม่มีใครเอา ถามคุณจริงๆ เหอะว่าดูแล้วอ่อนแอมั้ยล่ะครับ คุณเป็นแมนและเป็นลูกผู้ชาย ดังนั้นคุณต้องไม่เป็นแบบนั้นและเข้าใจธรรมชาติของผู้หญิงก็พอ


พรุ่งนี้มาต่อกันอีกยกนึงนะครับ

Leave your vote

Comments

0 comments

Similar Posts

ใส่ความเห็น