บทสนทนาหรือคำพูดโง่ๆ ที่นักขายควรหลีกเลี่ยง

อาชีพนักขายถือว่ามีความยากพอสมควร โดยเฉพาะสถานการณ์ต่อหน้าลูกค้าที่หลายๆ เหตุการณ์ต้องอาศัย “ปฎิกิริยาโต้ตอบ” ในการสนทนาที่ต้องไหลลื่นและเกิดความรู้สึกที่เป็นบวกเสมอ ดังนั้นมันจึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะเกิดความผิดพลาดทั้งๆ ที่รู้ตัวและไม่รู้ตัว เพราะความผิดพลาดจากบทสนทนาลบๆ หรือคำพูดโง่ๆ อาจทำให้ดีลหลุดหรือลูกค้าไม่ซื้อได้เลย ผมจึงขอสรุปบทสนทนาหรือคำพูดโง่ๆ ที่คุณควรรู้เอาไว้เพื่อที่จะได้เพิ่มความระมัดระวังในการคุยกับลูกค้าสูงสุดครับ

1. คอมเม้นหรือความเห็นแบบลบๆ

เลี่ยงได้จงเลี่ยงกับการให้ความเห็นไม่ว่าจะเรื่องใดก็ตาม ชัดเจนที่สุดคือเรื่องคอมเม้นลบๆ ต่อคู่แข่ง ตัวลูกค้า หรือเรื่องอะไรก็ตามแต่ บอกตรงๆ ว่าพูดไปแล้วไม่เคยทำให้เป็นผลดีอะไรเลย ภาพลักษณ์ก็ดูแย่ ไม่เป็นมืออาชีพ แถมชื่อเสียงของคุณยังถูกเอาไปพูดต่อแบบลบๆ อีกตางหาก

2. ศาสนาและการเมือง

ประเทศไทยคงไม่ต้องบอกนะครับว่าการเมืองแรงแค่ไหน เลี่ยงเด็ดขาดกับการพูดเรื่องการเมืองกับศาสนาแบบขั้วตรงข้าม ต่อให้คุณจะประชาธิปไตยหรืออนุรักษ์นิยมแบบเต็มขั้นก็ตามแต่ เต็มที่คือควร “เออออห่อหมก” กับลูกค้าแบบไหลไปตามน้ำ ใครที่สร้างความขัดแย้งในสองเรื่องนี้ ต่อให้ไม่ใช่ลูกค้าก็ถือว่าโง่มากๆ ครับ เถึยงกันในโซเชี่ยลผมยังไม่เห็นสาระและชนะไปก็ไม่ได้อะไร

3. เล่าปัญหาส่วนตัวมากเกินไป

การเล่าเรื่องส่วนตัวยังต้องระวังพอสมควร แต่การเอาปัญหาส่วนตัวมาบอกลูกค้าอย่างเช่นการแก้ตัวเวลามาสายแบบฟังไม่ขึ้น เช่น เมื่อคืนทะเลาะกับแฟน มีปัญหากับครอบครัว เจ้านายด่า ฯลฯ ถือว่าเป็นเรื่องของคุณเท่านั้นและไม่มีความเป็นมืออาชีพ นอกจากนี้ยังทำให้ลูกค้ารู้สึกไม่สบายใจเพราะคุณเอาพลังงานด้านลบมาแบ่งปันให้กับพวกเขา ความไว้ใจในตัวคุณจึงลดลงเพราะตัวคุณแก้ปัญหาเองไม่ได้

4. เล่นตลกหรือเล่าเรื่องโจ๊กแบบล้ำเส้น

โดยเฉพาะการล้อเลียนหรือเอาเรื่องต่างๆ ของลูกค้ามาเป็นเรื่องตลก นี่คือจุดตายของนักขายสายตลกเลยก็ว่าได้ ไม่มีมืออาชีพที่ไหนเขาทำกัน เรื่องตลกที่ล้ำเส้นมักเป็นเรื่องการล้อเลียนต่างๆ เกี่ยวกับรูปลักษณ์ หน้าตา ฐานะ หรืออะไรที่มันน่าอาย สิ่งนี่มันทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าคุณขาดความเคารพพวกเขา

5. นินทาชาวบ้าน

เรื่องนินทาอะไรก็ตาม เอาไว้คุยกับเพื่อนคุณที่ไว้ใจได้ก็พอครับ แต่ข่าวซุบซุบ นินทา เกี่ยวกับบริษัทตัวเอง เช่น นินทาเจ้านาย หรือนินทาคู่แข่ง ซุบซิบเรื่องลูกค้ารายอื่น ถือว่าเป็นสิ่งที่ต้องหลีกเลี่ยงอย่างมากที่สุด ถ้าไม่รู้จะชวนคุยเรื่องอะไรก็คุยแต่เรื่องสินค้าและบริการของคุณก็พอครับ มีประโยชน์กว่า

6. รับปากแบบสั่วๆ

“ได้ครับพี่ ดีครับนาย ใช่ครับผม” เพื่อเอาใจลูกค้าหรือเจ้านายไม่ใช่เรื่องแย่ แต่ถ้าคิดว่าทำไม่ได้ก็ไม่ต้องพูดไปนะครับเพราะมันจะทำให้คุณเสียคำพูดจนไม่น่าเชื่อถือ

7. เป็นกันเองกับลูกค้ามากเกินไป

ต่อให้สนิทมากก็ควรรักษาระยะห่างระดับนึง ลูกค้านะครับไม่ใช่เพื่อนซี้ คำพูดคำจาก็ต้องเป็นมืออาชีพ อย่าติดเล่นจนเสียความน่าเชื่อถือ เพราะเป็นกันเองมากเกินไปจะทำให้คุณเริ่มล้ำเส้นลูกค้าจนทำให้พวกเขารู้สึกไม่สบายใจ

8. บ่นหรืออ้างแต่เรื่องนโยบายบริษัท

ส่วนใหญ่มักเป็นจุดตายของนักขายที่โดนนโยบายบริษัทบังคับหรือปรับอะไรบางอย่าง เช่น ราคา คุณสมบัติ งานบริการ ฯลฯ มันจึงทำให้คุณไปอ้างกับลูกค้าได้ว่าเป็นเพราะนโยบายบริษัท คุณถึงทำให้ไม่ได้ ซึ่งมันไม่เป็นผลดีใดๆ นอกจากลูกค้าจะคิดว่าคุณไม่ต้องทำอะไรเลย อ้างแค่บริษัทก็พอ

9. ชอบพูดแทรกลูกค้า

คงไม่ต้องอธิบายเยอะว่าคนที่ชอบพูดแทรกคุณตอนยังพูดไม่จบมันน่ารำคาญแค่ไหน จริงอยู่ที่คุณอาจจะมีไอเดียดีๆ และอยากเสริมตอนลูกค้าพูดอยู่ แต่ใจเย็นๆ และรอลูกค้าพูดจบ จากนั้นค่อยเป็นฝ่ายพูดจะดีกว่า

10. กดดันลูกค้าเพื่อปิดการขายมากจนเกินไป

คนประเภทนี้มักมีเล่ห์เหลี่ยมหรือลูกล่อลูกชนยามที่ตัวเองได้เปรียบเพื่อบีบให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อ ไม่ว่าจะเป็นคำพูดกดดันหรือคำขู่ต่างๆ บอกตรงๆ ว่าไม่ยั่งยืนครับ ลูกค้าจะมองว่าคุณเหลี่ยมจัด คุยด้วยยาก ถ้ามีตัวเลือกเป็นคนอื่น พวกเขาจะเปลี่ยนเจ้าแบบทันที

11. ใช้คำพูดเชิงเทคนิคหรือพูดไทยคำอังกฤษคำมากเกินไป

เพราะมันดูโชว์ภูมิและโชว์ว่าตัวเองเจ๋ง ในขณะที่ลูกค้าไม่รู้เรื่อง ส่วนใหญ่นักขายสายเทคนิคหรือพวกงานไอที วิศวกรรม การแพทย์ มักตกม้าตายในเรื่องนี้ การพูดไทยคำอังกฤษคำประหนึ่งเด็กโตเมืองนอกก็ไม่น่าทำเพราะมันดูขี้แอ็คและไม่ได้ดูน่าเชื่อถือเลย มีแต่ความน่าหมั่นใส้จะเข้ามาแทนที่

12. พูดอยู่คนเดียว

โดยเฉพาะตอนพรีเซนต์ ส่วนใหญ่ลูกค้ามักเบื่อและเสียสมาธิไปเล่นมือถือดีกว่าฟังคุณพูดอยู่คนเดียวยังจะมีประโยชน์กว่า

13. วิจารณ์หรือด่าสินค้าตัวเอง

อันนี้ไม่สมควรเป็นนักขายอย่างยิ่ง ถ้าสินค้าที่ตัวเองขายมันห่วยและคุณเปลี่ยนอะไรไม่ได้ ไม่มีความเชื่อใจในสิ่งที่ขายก็เปลี่ยนงานใหม่เถอะครับ คุณยังไม่เชื่อแล้วลูกค้าจะเชื่อคุณได้ยังไงวะ

14. คุยเรื่องลูกค้าทั้งๆ ที่ตัวเองรู้ไม่จริง

ส่วนใหญ่มักเป็นเรื่องดิน ฟ้า อากาศ หรือพวกเครื่องประดับ คุณอยากชวนลูกค้าคุยเลยเปิดประเด็นซึ่งคุณรู้แบบงูๆ ปลาๆ ผลก็คือไม่น่าเชื่อถือและลูกค้าคิดว่าคุณมันแค่หิวเงินจนตอแหลหาเรื่องคุยเฉยๆ

Leave your vote

Comments

0 comments

Similar Posts