สิ่งที่โคตรจะเหมือนระหว่างการจีบสาวกับการขาย และทำไมการฝึกจีบหญิงทำให้คุณขายเก่งขึ้น

จากผลการศึกษาและประสบการณ์ของผมเอง เชื่อหรือไม่ว่าการจีบสาวกับการขายนั้น “เป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวาง” ในวงการการขาย เพราะทั้งสองกิจกรรมนี้ใช้ “กระบวนการ” ในการจีบและปิดการขายที่แทบจะเหมือนกันทุกประการ ที่สำคัญคือเรื่องจีบสาวกับขายของได้นั้น “ไม่ใช่ฟลุ๊ก” เป็นอันขาด ทุกอย่างสามารถวางแผนได้ แม้กระทั่งคนที่จีบเป็น “นางฟ้า” ที่เปรียบกับการขายลูกค้า “ระดับสูง” คุณก็มีสิทธิ์เป็นผู้ชนะได้เช่นกันครับ มาดูการเปรียบเทียบจากผมว่าทำไมมันถึงเหมือนกันได้ขนาดนั้น ดังนี้ครับ

1. การหาลีดหรือเป้าหมาย

การจีบสาว: มองหาสาวๆ ที่ตรงสเปค ไล่ตั้งแต่รูปร่าง หน้าตา การศึกษา อาชีพ หรือแม้กระทั่งสถานะว่า “ยังไม่แต่งงาน” เพื่อจะได้ไม่เสียเวลา ที่สำคัญคือต้องมองตัวเราด้วยว่า “ตอบโจทย์” ผู้หญิงคนนั้นไหม ถ้าเขาอยู่สูงเกินไปคุณก็ควรลดสเปคลงมาเพราะมันทำให้เสียเวลาทั้งสองฝ่ายราวกับ “ดอกฟ้ากับหมาวัด” (ฮา)

การขาย: ก็เหมือนกับการจีบหญิงเลย ต้องหาบริษัทตรงสเปคและที่สำคัญคือ “ความสามารถที่เราให้บริการได้” หรือที่เรียกว่ามือต้องถึงจริง ถึงจะจีบลูกค้ารายใหญ่ ได้งานโปรเจคใหญ่ ส่วนสเปคทั่วๆ ไปก็คือ มีเงิน มีความต้องการ และเราตอบโจทย์นั่นเองครับ

2. การสร้าง First Impression ตอนเจอหน้าครั้งแรก

การจีบสาว: คุณต้องเตรียมตัวสำหรับการเจอหน้าครั้งแรก (ทั้งๆ ที่ไม่รู้จักมาก่อน) หรือแม้กระทั่ง “การเดินเข้าไปจีบ” ขอเบอร์โทร ขอไลน์ ไอจี ที่ต้องดูกาละเทศะว่าเธอมากับผัวหรือไม่ ที่สำคัญคือการแต่งกาย ความสะอาด คำพูดที่มั่นใจ หรือ “สคริปต์” การคุยที่ดูลื่นไหลเป็นธรรมชาติ หาจุดร่วมให้เจอก็คล้ายๆ กับการเปิดการขายอย่างเป็นธรรมชาตินั่นเองครับ

การขาย: การเตรียมตัวล่วงหน้า ทำการบ้านเกี่ยวกับธุรกิจของลูกค้า หรือบุคคลที่คุณกำลังจะเข้าไปเจอ เรื่องสำคัญสุดๆ ของการเจอลูกค้าให้ประทับใจคือการคาดเดาล่วงหน้าว่าลูกค้าน่าจะมีปัญหาหรือความต้องการอะไรบ้าง ที่สำคัญคือต้องทำ “Sales Rapport” ในการเปิดการขายและชิตแชทเพื่อสร้างความสนิทสนม ไว้วางใจ ไม่ต่างกับการจีบสาวเลยครับ

3. การคุยเพื่อค้นหาความต้องการหรือปัญหาที่ประสบอยู่

การจีบสาว: การถามคำถามที่ดีและตั้งใจฟังว่าผู้หญิงนั้นพูดอะไรหรือมีความต้องการอะไร ทำไมถึงพูดและคิดแบบนั้น ซึ่งจำเป็นต้องใช้ไหวพริบว่าจะถามคำถามต่อเนื่องหรือหาเรื่องคุยอะไรต่อดี ที่แน่ๆ คือการฟังไม่ใช่การเอาแต่พูดอยู่ฝ่ายเดียว (จริงๆ เรื่องนี้คือศาสตร์ชั้นสูงของการจีบสาวเลยก็ว่าได้)

การขาย: ก็เหมือนกับการจีบสาวคือคือเจอหน้าลูกค้าไม่ใช่เอาแต่หลับหูหลับตานำเสนอ ต้องถามคำถามที่ดี เกี่ยวกับสิ่งที่ขายและธุรกิจของลูกค้า เพื่อฟังว่าลูกค้าจะแชร์ปัญหาหรือความต้องการอะไรออกมา ทำให้การนำเสนอจะเฉียบคมและตอบโจทย์อย่างมาก

4. การนำเสนอ

การจีบสาว: นำเสนอสิ่งที่ตัวเองมีประโยชน์ต่อผู้หญิงแบบเนื้อๆ ไม่ใช่เอาแต่โม้ หรือบอกทุกสิ่งทุกอย่างว่าตัวเองนั้นมีดีอย่างไร คุณย่อมรู้ดีอยู่แล้วว่าสาวๆ ทั้งโลกไม่ชอบคนขี้โม้และพูดแต่เรื่องตัวเอง ต่อให้คุณหล่อ รวย การศึกษาดี คุณสมบัติขั้นเทพทุกอย่าง การเอาแต่หลับหูหลับตานำเสนออยู่คนเดียวว่าตัวเองเจ๋งกลับทำให้คุณล้มเหลวด้านการจีบสาวแบบเห็นๆ ครับ

การขาย: เหมือนกับการจีบสาวอย่างมากคือต่อให้บริษัทคุณเจ๋ง เทพ ใหญ่แค่ไหน แต่ถ้าเอาแต่พูดเรื่องของตัวเอง ไม่สนใจความต้องการหรือปัญหาของลูกค้า โดยเฉพาะการขาย B2B ขนาดใหญ่ที่มีความซับซ้อนสูง (จีบสาวตัวท็อป) ผลก็คือจบเห่ครับ ลูกค้าเบื่อหน่ายและไม่สามารถปิดการขายได้แน่นอน

5. การสร้างความสัมพันธ์และการติดตามงานระยะยาว

การจีบสาว: ก็เหมือนกับการตีเหล็กที่ต้องตีตอนร้อนและมีความสม่ำเสมอ ไม่ใช่มาๆ หายๆ จีบโดยที่ไม่ตื๊อจนน่ารำคาญหรือทิ้งระยะห่างมากเกินไป มีกิจกรรมที่น่าสนใจตลอดการพูดคุยหรือเจอหน้า จะทำให้ความสัมพันธ์คืบหน้าเป็นอย่างมากครับ

การขาย: ก็คล้ายๆ จีบสาวคือหลังจากที่นำเสนอตอบโจทย์ ลูกค้าเปิดใจ ใบเสนอราคาออก นักขายก็ต้องมีความสม่ำเสมอในการตามงาน หากิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อโครงการ เช่น การทดสอบ สาธิต นำเสนอฝ่ายบริหาร ฯลฯ ซึ่งจะทำให้เกิดความคืบหน้าในการขายเป็นอย่างมากครับ

6. การรับมือกับข้อโต้แย้งต่างๆ

การจีบสาว: ถ้ายังโดนปฎิเสธ หรือโดนวีนใส่ หรือมีความลังเลบางอย่าง เจอผู้หญิงใช้อารมณ์หรือแสดงอาการบางอย่างออกมาทดสอบคุณ คุณต้องใจเย็นๆ ค่อยขจัดข้อโต้แย้งด้วยการรับฟังและมีความจริงใจ ให้เวลาและไม่รีบร้อนในการแก้สถานการณ์ให้ดีขึ้น

การขาย: ก็เหมือนกับการจีบสาวคือคุณห้ามเถึยงเด็ดขาด ใช้ความจริงใจในการขจัดข้อโต้แย้งให้ลูกค้า มีเหตุผลที่เหมาะสม ทำให้ลูกค้าคลายความกังวลได้ดี

7. การปิดการขาย

การจีบสาว: ประสบความสำเร็จในการชวนออกเดท ไปเที่ยวต่างจังหวัด ขอแต่งงาน

การขาย: ปิดดีลสำเร็จและส่งมอบสิ่งที่นำเสนอเพื่อคาดหวังการซื้อซ้ำและความสัมพันธ์ระยะยาว

8. การดูแลหลังการขาย

การจีบสาว: เอาใจใส่ ประคับประคองความสัมพันธ์ ทำให้ความรักเติบโตและยั่งยืน

การขาย: การดูแลหลังการขาย การบริการที่ดีอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำจนเป็นลูกค้าประจำ

นี่คือความเหมือนกันอย่างน่ามหัศจรรย์ระหว่างการจีบสาวกับการขายครับ

Comments

0 comments