10 งานสุดไร้สาระ ที่ควรตัดจากชีวิตนักขาย (เลิกทำซะถ้าอยากรวย!)

อย่างที่ผมบอกเสมอว่าการเป็นนักขายระดับท็อปนั้น “ต้องรู้จักให้ความสำคัญของงานเป็นหลัก” ดังนั้นคราวนี้จึงเป็นคิวของ “งานโคตรไร้สาระ” ที่คุณควรตัดออกจากชีวิตของคุณซะ (ถ้าทำได้) เพื่อให้คุณออกไปล่ายอดขายได้อย่างสนุกเพราะขีดจำกัดของนักขายทุกคนก็คือ “เวลา” นั่นเองครับ

1. นั่งทำสไลด์นำเสนอแบบ “สวยงาม” เกินคำบรรยาย

สมัยเด็กๆ ผมก็เป็นครับ ทำสไลด์ก่อนพบลูกค้าก็มี 1 วันเต็มๆ แล้วก็ปิดการขายไม่ได้ การที่คุณใช้เวลาครึ่งวันในการเลือกฟอนต์ จัดรูป หรือแก้สไลด์ให้สวยงาม ไม่ได้ช่วยให้ปิดดีลได้มากขึ้นเท่ากับเนื้อหาข้างในที่เป็นเชิงธุรกิจ หรือเปิดวีดีโอกับทดลองสาธิตให้ดูแน่นอนครับ ยิ่งไปกว่านั้นคือสไลด์ขาวดำโล่งๆ ตัวหนังสือน้อยๆ กลับทำให้น่าสนใจและปิดการขายได้ง่ายกว่าครับ วิธีที่ดีคือ ใช้ Standard Template ที่บริษัทเตรียมไว้ หน้าที่ของคุณคือเปลี่ยนแค่ “ชื่อลูกค้า” และ “ตัวเลข ROI” เท่านั้นพอ

2. “โทร Cold-Call ทำนัดแบบสุ่ม” โดยที่ไม่มีข้อมูลและไม่ทำการบ้าน

การโทรหาลูกค้าที่ไม่รู้จัก ไม่ตรงสเปค และไม่รู้ว่าเขาต้องการอะไร คือการเอาสุขภาพจิตไปทิ้งน้ำและอัตราความสำเร็จต่ำเตี้ยเรี่ยดิน โดนปฎิเสธแทบจะร้อยเปอร์เซ็นเลยด้วยซ้ำครับ วิธีตัดคือควรใช้ LinkedIn, Facebook, Website เข้าไปส่องก่อน หรือรอให้ทีมการตลาดคัดกรอง Warm Lead มาให้ เพื่อให้ทุกสายที่โทรคือคนที่มีโอกาสซื้อจริง

3. คีย์ข้อมูล CRM แบบละเอียดทุกบรรทัด

นี่ก็เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมโคตรเสียเวลา (ฮา) แต่ยังไงก็สำคัญ เพียงแต่การที่ต้องมานั่งพิมพ์ ชื่อ-นามสกุล ที่อยู่ เบอร์โทร ลงระบบด้วยมือทุกครั้ง งานแบบนี้เป็นงานพนักงานพิมพ์ดีด ไม่ใช่นักขาย วิธีตัดคือ การใช้เครื่องมือ Sync ข้อมูลอัตโนมัติ จากอีเมลหรือนามบัตร ทำให้คุณเก็บแรงไว้กรอกแค่ “Insight ลับ” เช่น อำนาจการตัดสินใจ ความชอบ บทบาท ฯลฯ ที่จะใช้ปิดดีลก็พอ

4. การประชุมทีมที่ “ไม่มีข้อสรุป”

การเข้าประชุม Internal ที่แค่มานั่งอัปเดตยอดไปวันๆ จากหัวหน้าที่ไม่ได้เรื่องโดยไม่มีกลยุทธ์ใหม่ๆ หรือทางแก้ปัญหา วิธีเลี่ยงคือเอาเวลาไปทำนัดกับลูกค้าระดับ Key Account เพื่อเป็นข้ออ้างไม่ให้คุณเสียเวลาและเอาเวลาไปหาเงินดีกว่าครับ

5. เดินทางไปหาลูกค้าที่ “ยังไม่ตรงสเปค”

การฝ่ารถติดเป็นชั่วโมงเพื่อไปหาคนที่คุณไม่รู้ว่ามีงบไหม หรือไม่มีอำนาจตัดสินใจ คือการฆ่าเวลาตัวเอง (เชื่อเถอะว่าหลายๆ คนก็เคย) วิธีตัดคือต้องชัวร์จริงๆ ตอนทำนัดว่าเราทำการบ้านแล้วว่ามีประโยชน์กับลูกค้าจริง หรือลูกค้าเป็นฝ่ายบอกว่าสนใจ จะทำให้คุณไม่เสียเวลา “ว่าว” กับลูกค้าที่ไม่ตรงสเปคครับ

6. งานธุรการหลังการขาย

ส่วนใหญ่มักเป็นงานเก็บเงิน การตามเอกสารใบวางบิล การแจ้งส่งของ หรือการแก้ปัญหาเล็กๆ น้อยๆ หลังขายเสร็จ เรื่องนี้พูดยากเพราะนายใหญ่คุณอาจไม่เข้าใจว่างานเหล่านี้ให้แผนกอื่นทำงานแทนได้ วิธีตัดคือ ควรส่งต่อให้ทีม หลังบ้าน หรือ Sales Admin ทันที หน้าที่ของคุณคือดูแลความพึงพอใจและหาโอกาสขายเพิ่ม (Upsell) ไม่ใช่ทำเอกสาร

7. การนั่ง “แก้ไขคำผิด” ในสัญญาวนไปวนมา

มักจะเกิดจากการเป็นตัวกลางในการประสานงานระหว่างฝ่ายกฎหมายบริษัทเรากับฝ่ายกฎหมายลูกค้า เพื่อแก้คำเดิมๆ ซึ่งมักจะเกิดกับงานภาครัฐที่น่าเบื่อมาก วิธีตัดคือการให้ทีมกฎหมายคุยกันโดยตรง หรือทำ Standard Contract ที่แทบไม่ต้องแก้ เพื่อลดเวลาการเจรจาเรื่องตัวอักษร

8. การพยายาม “ตื๊อ” ลูกค้าที่ไม่ใช่ตัวจริง

การใช้เวลาเป็นเดือนๆ ตามจีบลูกค้าที่เรารู้อยู่เต็มอกว่า “สินค้าเราไม่เหมาะกับเขา” เพียงเพื่อไม่อยากให้ Pipeline ดูว่าง วิธีตัดคือ ต้องกล้าปฏิเสธลูกค้าที่ไม่ใช่ เพื่อเอาเวลาไปโฟกัสกับลูกค้าเกรด A ที่พร้อมจะจ่ายเงินให้เราจริงๆ

9. การเป็น “Call Center” ส่วนตัวให้ลูกค้าเก่า

ลูกค้าเก่าโทรมาแจ้งปัญหาการใช้งาน ตามของไม่ส่ง หรือด่าเรื่องบิล แล้วคุณก็นั่งแก้ปัญหาให้เขาทั้งวันเพราะความเกรงใจ วิธีตัดคือการดึงตัวเองออกมา และส่งต่อให้ทีม Support หรือ Customer Success ทันที บอกลูกค้าอย่างสุภาพว่า “เพื่อให้คุณได้รับการแก้ไขที่เร็วที่สุด ผมขอส่งเรื่องให้ผู้เชี่ยวชาญด้านนี้โดยตรงนะครับ”

10. การร่วมวง “นินทา” ในออฟฟิศ

การนั่งล้อมวงกินกาแฟแล้วบ่นว่าลูกค้าเจ้านั้นงี่เง่า เจ้านี้เรื่องมาก หัวหน้ากาก หลังบ้านไม่ได้เรื่อง ฯลฯ มันไม่ได้ช่วยให้ปิดยอดได้ แถมยังบั่นทอนพลังงานบวกในตัวคุณ วิธีตัดคือ เอาเวลาไปคุยกับ Top Sales ขั้นเทพ หรืออ่านบทความเทคนิคการเจรจาต่อรองใหม่ๆ ดีกว่าเยอะครับ

หัวใจสำคัญคือนักขายร้อยล้านไม่ได้ทำงาน “หนักกว่า” แต่เขาเลือกทำเฉพาะงานที่ “ได้เงิน” งานที่เหลือเขาตัดทิ้งอย่างไร้ความปราณีครับ

Leave your vote

Comments

0 comments

Similar Posts