อย่าชะล่าใจเมื่อส่งใบเสนอราคาไปแล้ว

ผมเชื่อว่ามีหลายๆ เหตุการณ์ที่คุณและลูกค้าได้เข้าพบกันอย่างชื่นมื่น ทุกอย่างไปด้วยสวย พูดคุยและรับโจทย์อย่างดิบดี ลูกค้าบอกความต้องการอย่างครบถ้วน แล้วงานที่ได้ก็ไม่เหนือบ่ากว่าแรงของคุณซะด้วย

คุณจึงดีใจและรีบทำใบเสนอราคาหรือทำโซลูชั่นอย่างสุดฝีมือ เมื่องานพึ่งออกมาจากเตาร้อนๆ คุณจึงส่งให้ลูกค้าทันทีพร้อมกับความหวัง ยังไงก็น่าจะปิดการขายได้ชัวร์

เวลาผ่านไป 1 วัน คุณจึงโทรไปสอบถามลูกค้าว่าพิจารณาหรือได้รับราคาแล้วหรือยัง ลูกค้าตอบว่าได้แล้วและกำลังพิจารณา และเมื่อเวลาผ่านไปอีก 3 วัน ลูกค้าก็ไม่ตอบมาซะที ผ่านไป 1 อาทิตย์ คุณชักเริ่มนั่งไม่ติด พอโทรไปหาลูกค้าก็ดันไม่รับซะอีก แล้วอย่างนี้ลูกค้าจะยังซื้ออยู่มั้ยล่ะเนี่ย

เวลาผ่านไปๆ ลูกค้าก็ตอบบ้างไม่ตอบบ้างแต่ก็ยังไม่ซื้ออยู่ดี แล้วคุณเคยมั้ยครับที่จู่ๆ ฟ้าก็ผ่ามากลางกบาลของคุณเพราะลูกค้าบอกว่าซื้ออีกเจ้าไปแล้ว สถานการณ์อันเลวร้ายนี้จะต้องไม่ประมาทเป็นอันขาด ผมถึงบอกว่าอย่าชะล่าใจเด็ดขาดดังนี้ครับ

1. ลูกค้ามีโอกาสที่จะขอดูคู่เทียบเจ้าอื่น

จงตามงานลูกค้าอย่างสม่ำเสมอ เพราะช่วงนี้แหละที่มีความเสี่ยงจากการที่พวกเขาจะเช็คทั้งราคาและสเปคจากเจ้าอื่น ถ้าข้อเสนอของคู่แข่งดันดีกว่า คุณอาจมีสิทธิ์กระเด็นออกจากการซื้อขายได้เลย

2. ลูกค้าอาจมีปัญหาด้านการเงิน

คุณไม่มีทางแน่ใจว่าลูกค้าจะซื้อจนกว่าพวกเขาเซ็นสัญญาแล้วจริงๆ บางทีพวกเขาอาจจะสะดุดด้านการเงินจึงทำให้การตัดสินใจต้องชะลอไปก่อน เผลอๆ อาจจะยกเลิกเลยด้วยซ้ำ ทางที่ดีคือลองสอบถามหรือหาข้อเสนอเกี่ยวกับการอำนวยความสะดวกด้านการเงินอย่างการขยายเครดิตหรือแบ่งช่วงเวลาการผ่อนชำระ เป็นต้นครับ

3. ลูกค้าที่คุยงานกับคุณอาจไม่มีอำนาจตัดสินใจที่แท้จริง

เรื่องนี้ก็ต้องระวังเพราะว่าคนที่คุณคุยอาจมีปัญหาติดขัดเรื่องอำนาจการตัดสินใจ บางทีอาจโดนเจ้านายแตะเบรกเอาไว้ และไม่กล้าที่จะผลักดันเรื่องดีลของคุณไปสู่ระดับผู้บริหาร เหตุการณ์แบบนี้อาจทำให้ดีลของคุณแท้งได้เลย วิธีคือคุณควรขอให้ลูกค้าและช่วยให้เขาพาคุณไปเจอระดับผู้บริหารเพื่อนำเสนอดีลนี้อีกครั้งให้ได้

Leave your vote

12 points
Upvote Downvote

Comments

0 comments

Similar Posts