เป็นนักขายควรโพสต์อะไรในโซเชี่ยลมีเดียให้เข้าตาเจ้านายและลูกค้า

หนึ่งในแก่นแท้ของการเป็นนักขายและนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จก็คือ ‘ความน่าเชื่อถือ’ ซึ่งต่อหน้าลูกค้าก็คงไม่ต้องบอกว่าคุณต้องขายด้วยความจริงใจ ซื่อสัตย์ สุจริต และสื่อสารด้วยความเป็นมืออาชีพเช่นไร การใช้พื้นที่โซเชี่ยลมีเดียในการสร้างความน่าเชื่อถือที่ดีบนโลกออนไลน์ก็คงสำคัญไม่แพ้กันฉันนั้น เชื่อหรือไม่ว่านักขายมืออาชีพหลายๆ คนกลับไม่ใส่ใจพื้นที่บนโซเชี่ยลและการสร้างตัวตนที่ดี ซึ่งมันสามารถเพิ่มโอกาสทางธุรกิจได้แบบทวีคูณ ไปจนถึงการสร้างความเชื่อมั่น ตัวตน และมีแต่ผลดีโดยที่หาผลเสียแทบไม่เจอเลยล่ะครับ มาดูวิธีการสร้างตัวตนบนโลกออนไลน์ที่ประสบความสำเร็จตามแนวทางของผมกันครับ

1. การโพสต์หรือแชร์ความรู้เกี่ยวกับธุรกิจด้านการขาย

ถ้าคุณเป็นเซลล์ เอ็นจิเนียร์ เยี่ยมครับ หรือเป็นนักขายด้านการแพทย์ ก็ยอดไปเลย การแชร์หรือโพสต์ความรู้ที่เขียนด้วยตนเองเกี่ยวกับแนวโน้มธุรกิจ ข่าวสารดีๆ ขององค์กรที่คุณทำ ข้อดีของโซลูชั่นที่คุณขาย หรือเทรนด์ต่างๆ ที่น่าสนใจในกระแสจะสร้างพลังบวกและเป็นการบ่งบอกว่าตัวเองมีความรู้ ความเชี่ยวชาญมากแค่ไหน เจ้านายผ่านมาเห็นหรือลูกค้าได้อ่านสิ่งที่คุณเขียน รับรองว่าคุณจะเข้าไปนั่งอยู่ในใจพวกเขาแบบง่ายๆ อย่างแน่นอน การโพสต์เรื่องราวที่เป็นประโยชน์แสดงให้เห็นว่านอกเวลางานคุณก็ใส่ใจเรื่องงานซึ่งเรื่องง่ายๆ แค่นี้หลายคนกลับไม่ทำครับ

2. การโพสต์หรือแชร์ความสำเร็จที่คุณได้ปิดการขายกับลูกค้า

หลักการเดียวกับเซลล์ขายรถหรือนักขายประกันขั้นเทพนี่แหละครับ ผลงานหรือโครงการใหญ่ๆ ที่คุณทำ ยิ่งยอดเยี่ยมก็ควรต้อง ‘ประกาศให้โลกรู้’ จะยอดเยี่ยมไปกว่านั้นคือการเขียนหรือแชร์ที่มีหลักการว่าคุณเจอปัญหาอะไรกับลูกค้า แล้วแก้ปัญหาให้ลูกค้าได้อย่างไร ถ้ามีข้อมูลตีพิมพ์เป็นตัวเลขก็ยิ่งยอดเยี่ยมมากๆ ครับ แต่เนื่องจากข้อมูลของลูกค้าเป็นความลับ คุณควรขออนุญาตกับลูกค้าด้วย จริงๆ แล้วถ้าเป็นรูปถ่ายเวลาคุณไปออกงานสัมมนา หรือจัดงานอีเวนต์ร่วมกับลูกค้าก็เป็นอีกหนึ่งงานที่สามารถโพสต์หรือแชร์และมีหลักฐานจริงว่าคุณทำงานร่วมกับลูกค้าครับ

3. การโพสต์และแชร์ต้องมีความเป็นมืออาชีพตั้งแต่หัวจรดเท้า

ไล่ตั้งแต่รูปโปรไฟล์ที่เป็นชุดทำงานแบบมืออาชีพ ชื่อ นามสกุล ต้องเป็นตัวจริงและใช้ภาษาอังกฤษ อย่าใช้ชื่อเล่นๆ หรือลงท้ายด้วยพวก Zaa เป็นหลัก (ฮา) หลีกเลี่ยงการโพสต์อะไรที่เป็นเรื่อง ‘ไร้สาระ’ (ถ้ายังอยากมีที่ยืน) เป็นอันขาด เช่น ข่าวซุบซิบดารา ข่าวการเมือง รูปโป๊ลามกจกเปรต และอย่าไปคอมเมนต์อะไรซี้ซั้วเพราะมันสามารถติดตาม ‘Digital Footprint’ ว่าคุณไปทำอะไรมาบ้าง ถึงตรงนี้ถ้าใครไปทิ้งร่องรอยแย่ๆ เอาไว้ก็ไปไล่ลบซะนะครับ

4. การกดไลค์ คอมเมนต์แบบมีกาละเทศะให้กับเจ้านายและลูกค้า

คุณควรเปิดรับโอกาสในการเป็นเพื่อนกับเจ้านายและลูกค้าผ่านโซเชี่ยลทุกช่องทาง นี่คือกุญแจสำคัญที่จะทำให้พวกเขาเห็นคุณ และคุณเองก็ ‘เห็นพวกเขา’ ราวกับ ‘ผีเห็นผี’ เพราะข้อดีแบบเต็มๆ ที่คุณทำได้เลยคือการไปกดไลค์หรือคอมเมนต์เรื่องดีๆ แสดงความยินดีกับเจ้านายและลูกค้า นอกจากนี้โซเชี่ยลยังบอกช่วงเวลาสำคัญๆ ของคนที่คุณเกี่ยวข้อง เช่น วันเกิด วันครบรอบ วันก่อตั้งบริษัท ฯลฯ ซึ่งเรื่องพวกนี้แหละที่คุณควรเข้าไป ‘เสนอหน้า’ ผ่านโลกออนไลน์ให้พวกเขารับรู้ว่าคุณให้ความใส่ใจกับพวกเขา บอกเลยว่าหลายๆ โอกาสสามารถส่งข้อความส่วนตัวไปเปิดโอกาสขายของได้เลยด้วยซ้ำครับ

5. เปิดรับหรือติดตามบุคคลคุณภาพ คนในวงการ หรือลูกค้าที่มีชื่อเสียง

โซเชี่ยลมีเดียอย่างเฟซบุ้คหรือลิ้งก์อินเป็นโอกาสสำคัญให้คุณได้ติดตามบุคคลสำคัญระดับประเทศ ประธานบริษัทของลูกค้า หรือแม้กระทั่งติดตามเจ้าของบริษัทของคุณ คุณควรใช้โซเชี่ยลในการแสวงหาคอนเนคชั่นในทุกๆ วัน โดยที่มีประโยชน์กว่าการติดตามเน็ตไอดอลหรือดาราไปวันๆ รับรองว่าเรื่องราวดีๆ ที่บุคคลเหล่านั้นได้เขียนหรือแชร์จะเป็นสิ่งที่คุณนำมาเขียนต่อหรือแชร์และให้ความเห็นดีๆ ได้อีกด้วย วิธีนี้เข้าไปนั่งในใจลูกค้าหรือหัวหน้าที่เป็นสาย Content Creator ได้ง่ายมากๆ ครับ

การใช้โซเชียลมีเดียสำหรับนักขายจึงไม่ใช่แค่การ ‘มีตัวตน’ แต่เป็นการ ‘มีส่วนร่วมอย่างมีคุณภาพและมีกลยุทธ์‘ ที่จะช่วยสร้างความน่าเชื่อถือ สร้างความสัมพันธ์ และท้ายที่สุดคือสร้างโอกาสทางธุรกิจครับ

Leave your vote

Comments

0 comments

Similar Posts