วิธีจัดการกับความกลัวช่วงเริ่มต้นเป็นนักขาย (พร้อมวิธีขายแบบไม่ต้องกลัวอีกต่อไป!)
ไม่แปลกนักที่เด็กรุ่นใหม่หลายๆ คน หรือแม้กระทั่งรุ่นใหญ่ (อีกหลายคน) มีทัศนคติที่ไม่ดีหรือ “เหมารวม” ภาพจำเกี่ยวกับการขาย หรือไม่ก็หางานทำอะไรใดๆ ก็ได้ที่ “ไม่เกี่ยวข้องกับงานขาย” ซึ่งคุณเชื่อหรือไม่ครับว่าเหตุผลสั้นๆ ง่ายๆ ที่คนเหล่านี้เข็ดขยาดหรือเข้าขั้นเกลียดการขายก็คือ “ความกลัว” และไม่สามารถเอาชนะความกลัวนี้ได้ ดังนั้นความกลัวที่ว่านี้ก็หมายความว่ามันกำลัง “ปิดประตู” สู่ความสำเร็จในฐานะผู้บริหาร นักธุรกิจ หรือเจ้าของกิจการเลยก็ว่าได้ เอาเป็นว่าถ้าอยากรวยแต่กลัวการขายก็เตรียมจนเหมือนเดิมนั่นแหละครับ ง่ายดี มาดูวิธีเอาชนะความกลัวกัน ดังนี้
1. รู้จัก เข้าใจ และยอมรับความกลัวของตัวเอง
ก่อนจะเอาชนะใจตัวเองก็ต้องรู้จักและยอมรับตัวเองก่อนครับ คนส่วนใหญ่กลัวการขายจากสาเหตุเพียงแค่ไม่กี่ข้อ ลองดูว่าเหตุผลของเราเป็นแบบนั้นไหม เช่น
– กลัวการโดนปฎิเสธ: ไม่มีใครชอบโดนปฎิเสธหรอกครับ การปฎิเสธทำให้รู้สึกเสียหน้า ผิดหวัง และรู้สึกไม่ดี การขายเองก็มักจะโดนปฎิเสธอยู่บ่อยๆ คุณก็เลยกลัวความผิดหวังซ้ำๆ ซากๆ เพราะมันเจ็บปวดนั่นเองครับ แต่ก็อย่างที่บอกคือการโดนปฎิเสธซ้ำๆ ต่างหากที่ทำให้เราแกร่งขึ้น อารมณ์เหมือนจีบสาวตอนเด็กๆ แล้วซดแห้วประจำ พอโดนบ่อยๆ ก็ชินและไม่กลัวครับ
– กลัวการพูดไม่เก่ง ไม่มั่นใจ: เพราะมักคิดไปเองว่าการขายต้องพูดเก่ง โน้มน้าวคนเป็น มีศิลปะหรือพรสวรรค์ ซึ่งเรื่องพวกนี้จริงแค่ส่วนนึงเท่านั้นครับ ความจริงใจและความรู้สำคัญกว่าเห็นๆ
– กลัวไม่มีความรู้เกี่ยวกับสิ่งที่ขาย: เพราะสินค้าหลายๆ อย่างมักมีความซับซ้อน ความไม่รู้ย่อมเป็นบ่อเกิดของความกลัว
– กลัวความผิดพลาด: เพราะเป็นงานที่ต้องใช้ไหวพริบสูง โต้ตอบลูกค้าเฉพาะหน้า จึงมีความกลัวว่าจะทำพลาดเพราะความผิดพลาดบางอย่างหมายถึงโอกาสในการปิดการขายที่เป็น 0
– กลัวภาพจำนักขาย: เพราะคิดไปเองว่านักขายจะต้องเป็นคนตื๊อเก่ง Hard Sell กล้าได้กล้าเสีย หน้าด้าน กะล่อน อะไรทำนองนั้น ซึ่งก่อให้เกิดความกลัวว่าคนอื่นจะมองเราไม่ดี
เมื่อเข้าใจความกลัวเรียบร้อยแล้วก็จะสามารถรับมือกับความกลัวได้นั่นเองครับ
2. ปรับ Mindset เกี่ยวกับการขายใหม่
– นักขายคือคนที่ช่วยให้ลูกค้าดีขึ้น เป็นผู้ให้ ไม่ใช่ “คนรับตัง” เพียงอย่างเดียว จงคิดเสมอว่าเราเป็นผู้เสนอโซลูชั่นที่ช่วยให้ลูกค้าแก้ปัญหาหรือได้ประโยชน์ทางธุรกิจและชีวิตที่ดีขึ้น ซึ่งก็หมายความว่าเราไปช่วยเหลือเขา ไม่ได้จ้องแต่จะเอาเงินเขา
– นักขายคือที่ปรึกษา ไม่ใช่นักตื๊อหรือนักยัดเยียด เพราะบทบาทการขายสมัยใหม่คือการทำความเข้าใจชีวิตและธุรกิจของลูกค้า จากนั้นก็นำเสนอและให้คำแนะนำสิ่งที่ดีที่สุด ไม่ว่าสุดท้ายแล้วลูกค้าจะซื้อหรือไม่ซื้อก็ตาม
– การปฎิเสธคือ “สาเหตุและเหตุผล” ไม่ใช่ความล้มเหลว และจงจำไว้ว่ามันไม่ได้หมายถึงคุณแย่ ไม่เก่ง ไม่ได้เรื่องนะครับ แต่เหตุผลที่แท้จริงต่างหากที่จะทำให้เราชนะการโดนปฎิเสธได้ เช่น สินค้าไม่ตอบโจทย์ ลูกค้ายังไม่เข้าใจ จังหวะยังไม่ดี ผลประโยชน์ของคู่แข่งดีกว่า ฯลฯ ซึ่งถ้าคุณแก้ไปทีละสาเหตุก็สามารถพลิกเกมให้ลูกค้ากลับมาซื้อได้ครับ
สนใจยกระดับการขายของคุณ? คลิกเลย >> [https://m.me/sales100million]
3. ชนะความกลัวด้วยการเตรียมตัวให้พร้อมเสมอ
ก็เหมือนกับนักกีฬาก่อนแข่งรายการสำคัญๆ นั่นแหละครับ ถ้าต้องการขจัดอาการ “ตื่นสนาม” ก็มีแต่ ซ้อม ซ้อม แล้วก็ซ้อม เท่านั้น การขายเองก็เช่นเดียวกัน
– ศึกษาสินค้าหรือบริการให้เข้าใจอย่างลึกซึ้ง สิ่งนี้จะทำให้คุณมีความมั่นใจเพิ่มขึ้นและจะดีมากๆ ถ้าเชี่ยวชาญคู่แข่งกับตลาดที่ตัวเองขายด้วย ยิ่งถ้าคุณสาธิต ทดสอบ ทดลองใช้ด้วยตัวเองก็ยิ่งทำให้คุณมีความมั่นใจเป็นอย่างมาก
– เข้าใจลูกค้า ไม่ยากเลย เพียงแค่ศึกษาและทำความเข้าใจว่าลูกค้าของเราส่วนใหญ่คือใคร ต้องการอะไร ปัญหาที่พบบ่อยคือเรื่องไหน ยิ่งเข้าใจมากก็ยิ่งนำเสนอได้อย่างตรงจุด
– เปลี่ยนจากการเอาแต่พูดเป็นถามคำถาม เรื่องนี้จะปิดจุดอ่อนการพูดไม่เก่งไปได้มาก แทนที่จะมานั่งคิดและหลับหูหลับตาพูดอย่างเดียว เปลี่ยนเป็นการถามคำถามที่ชาญฉลาด เป็นปลายเปิด เพื่อให้ลูกค้าได้เล่าแล้วเราเก็บข้อมูลนำเสนอให้ตรงจุดจะดีกว่า
3. เริ่มต้นการขายจากการฝึกฝนจากเล็กๆ ไปหาใหญ่ๆ
– ฝึกฝนแบบ Role-Play กับคนใกล้ตัว โดยเฉพาะหัวหน้าและเพื่อนร่วมงาน ซึ่งจะทำให้คุณผ่อนคลายและเป็นกันเอง อีกทั้งยังสามารถสร้างสถานการณ์ที่หลากหลายได้ ยิ่งคุณทำ Role Play กันเองบ่อยๆ ก็จะยิ่งเก่งขึ้นมากๆ และเก่งเร็วสุดๆ ครับ
– เริ่มต้นการขายจริงจากลูกค้าที่เป็นคนใกล้ตัวหรือคนรู้จัก หากเป็นไปได้ จงลองเริ่มต้นกับลูกค้าที่คุณรู้สึกสบายใจที่จะคุยด้วย อาจจะเป็นลูกค้าปัจจุบันที่ความสัมพันธ์ดีอยู่แล้ว ลูกค้าที่หัวหน้ามอบหมายมาให้ หรือลูกค้าที่คาดว่าจะขายง่ายเพราะลูกค้าเป็นฝ่ายเข้ามาหาเอง
– สังเกตและเรียนรู้จักนักขายที่เก่งๆ ซึ่งถ้ามีโอกาสได้คลุกคลีกับหัวหน้า เจ้าของบริษัท และท็อปเซลล์ จงอย่าพลาดที่จะเก็บวิธีการขายที่มันเวิร์กและเอาไปทำเองได้ไม่ยาก พูดง่ายๆ ก็คือก็อปปี้เลยครับ ยิ่งศึกษาบ่อยก็ยิ่งเก่งเร็วมากครับ
– ให้รุ่นพี่หรือหัวหน้าเป็นโค้ช และคุณต้องเป็นฝ่ายเข้าหาพวกเขาเพื่อฝากตัวเป็นศิษย์ นี่คือสุดยอดแหล่งความรู้ด้านการขายเลยก็ว่าได้
4. เน้นการพัฒนาการขายที่ “กระบวนการขาย” ไม่ใช่แค่เรื่อง “ปิดการขาย”
เรื่องนี้เป็นประเด็นเยอะมากเพราะนักขายส่วนใหญ่เสียเวลาไปกับการศึกษา “เทคนิคปิดการขาย” หรือไปเน้นพวกคำพูดเท่ห์ๆ คมๆ แล้วคิดว่าจะขายได้เลย ซึ่งมันก็ใช่นะครับสำหรับการขาย “มูลค่าต่ำ” สินค้าเบ็ดเตล็ดอะไรทำนองนั้น แต่ถ้าเป็นการขายระดับสูง B2B ที่มีความซับซ้อน การไปเน้นแต่เรื่องปิดการขายไม่สามารถทำให้คุณขายได้แน่นอน คุณควรเน้นการพัฒนา “กระบวนการขาย” ทีละขั้นเพื่อก้าวสู่ความเป็นเลิศแล้วผลลัพธ์มันจะมาเอง เหมือนเข้าฟิตเนสอย่างถูกวิธี 6 Packs ต้องมาตามโปรแกรม ดังนี้
– การเปิดการขายและสร้างความเป็นกันเอง น่าเชื่อถือในช่วงเริ่มต้น
– การแนะนำตัวและแนะนำบริษัทให้มีความน่าเชื่อถือ
– การถามคำถามเกี่ยวกับการขายที่ชาญฉลาด
– การนำเสนอที่ยอดเยี่ยม กระชับ มีข้อมูลครบถ้วน
– การทดสอบ สาธิต ทำให้ลูกค้ามีส่วนร่วม
– การติดตามผล
– การต่อรองเจรจาและขจัดข้อโต้แย้ง
– การปิดการขายและติดตามหลังการขาย
ค่อยๆ พัฒนาไปทีละ Sales Process ซึ่งถ้าทำได้ดีตั้งแต่ต้น ยอดขายถึงจะตามมาเป็นผลลัพธ์ ผมจึงอยากให้นักขายโฟกัสไปทีละ Process มากกว่าเทคนิคปิดการขาย ถึงจะสามารถขายได้อย่างยั่งยืนครับ
5. สร้างความมั่นใจและความเก่งได้ทุกวัน
เอาชนะความกลัวได้ด้วยการพัฒนาตัวเอง ยิ่งกลัวยิ่งต้องลงมือทำ ดังนี้ครับ
– ดูแลตัวเองให้ดีโดยเฉพาะรูปร่าง หน้าตา สุขภาพ เอาตรงๆ เลยคือถ้าฟิตแล้วหุ่นดี หน้าตา ทรงผมดูเข้าท่า โหงวเฮ้งดี ความมั่นใจจะเพิ่มสูงมาก ไม่ใช่แค่เรื่องขายของแต่ยังรวมถึงเรื่องจีบสาว แข่งกีฬา หรือโอกาสเรื่องการทำงานที่มากกว่าครับ
– เชื่อมั่นในสิ่งที่คุณทำ เพราะความเชื่อมั่นคือสิ่งที่สำคัญ จงเชื่อว่างานที่คุณทำอยู่นั้น “เป็นงานที่คนรวยทุกคนทำกัน” ไม่มีเศรษฐีหรือนักธุรกิจที่ไหนกลัวการขายครับ และพวกเขาก็คือคนส่วนน้อยด้วย ถ้าคุณอยากเป็นคนที่ประสบความสำเร็จ คุณต้องอย่าไปฟังพวกเสียงนกเสียงกานะครับ
– ฉลองความสำเร็จด้วยความมั่งคั่งและเงินตรา อาชีพเซลล์เป็นไม่กี่อาชีพที่หาเงินได้ตามความสามารถ จึงทำให้คุณมีความมั่งคั่ง มั่นคง ซึ่งตอบสนองได้ด้วยวัตถุ บ้าน รถ เครื่องประดับ และการใช้ชีวิตที่เหนือธรรมดาครับ แล้วทำไมคุณยังต้องกลัวการขายอีกล่ะครับ จริงมั้ย
ความกลัวเป็นเรื่องปกติครับ แต่อย่าให้มันหยุดเพียงแค่คุณกลัว สิ่งสำคัญคือการค่อยๆ ก้าวออกไปทีละก้าว ปรับมุมมอง และเรียนรู้จากประสบการณ์ การขายคือทักษะที่สามารถพัฒนาได้ และเมื่อคุณเชี่ยวชาญ คุณจะพบว่ามันเป็นอาชีพที่สนุกและท้าทายมากครับ
ติดต่อเราผ่าน LINE >> [@sales100million] หรือคลิก >> [https://m.me/sales100million]
ถ้าสนใจเรียนรู้ศาสตร์การขายระดับโลกเดือน กรกฎาคมนี้ ดูรายละเอียดหลักสูตรเพิ่มเติม: [https://www.eventpop.me/e/84161/sales-mastery-89th]
Comments
0 comments