สูตรการเร่งยอดขายแบบฉับไว ด้วยวิธีนี้

ผมได้รวบรวมสูตรการขายหรือที่เรียกว่า “Promotion” เพื่อให้คุณเอาไปหยิบใช้ได้ตามสถานการณ์ ขอบอกเลยว่ายอดขายจะเพิ่มสูงขึ้นแบบมีนัยสำคัญมากๆ ครับผม ที่สำคัญคือเอาไปใช้ทั้งการขายแบบ B2C และ B2B ได้เลย ดังนี้

1. ส่วนลดพิเศษ

คลาสสิคมากๆ ด้วยการแปะส่วนลดไว้ตั้งแต่แรก ยิ่งลดแบบโหดๆ (สูงกว่า 20%) ก็ยิ่งทำให้ลูกค้าอยากซื้อครับ จะเร่งซื้อได้แบบสุดๆ ถ้าคุณบีบลูกค้าด้วยโปรโมชั่นแบบมีจำนวนจำกัดด้วยจำนวนสินค้าและระยะเวลาหมดเขตครับ

2. คูปองหรือแต้มเอาไว้แลกส่วนลด

มุกนี้ก็ทำให้ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำได้เยอะทีเดียว โดยเฉพาะการขายของในห้าง วิธีก็คือทำให้ลูกค้าซื้อถึงเป้าก่อน เช่น ซื้อครบ 1,500 ได้ Voucher หรือคูปอง 100 บาท เอาไว้ลดราคาในการซื้อครั้งถัดไปขั้นต่ำ 500 บาท อย่างนี้ก็คาดหวังได้แน่ว่าลูกค้าจะกลับมาซื้อซ้ำที่ขั้นต่ำ 500 บาท ถ้าไม่สะดวกเป็นคูปองก็ใช้ระบบสะสมแต้มจากยอดซื้อเพื่อให้ลูกค้าใช้แต้มส่วนลดราคา เช่น 1,000 แต้ม ลด 100 บาท เป็นต้น

3. แฟลชเซลล์ (Flash Sales)

เป็นการทำโคตรโปรโมชั่นในระยะเวลาที่สั้นสุดๆ มุกยอดฮิตในชั่วโมงนี้ก็เช่น 8.8 9.9. 10.10 แต่มีไอเดียเพิ่มเติมคือไม่จำเป็นต้องให้ส่วนลดปังๆ แค่วันเดียว อาจจะเป็น 9.9 และหมดเขตภายในสามวันหลังจากนั้นก็ได้ ข้อแม้คือส่วนลดต้องสุดตีนจริงๆ และมีช่องทางการขายที่หลากหลายทั้งออนไลน์และออฟไลน์

4. ลดล้างสต๊อก

เป็นวิธีการเคลียร์สินค้าคงคลังที่ขายไม่ค่อยดีหรือกำลังตกรุ่นแบบได้ผลมากๆ ไหนๆ ก็ต้องโละทิ้งหรือหมดอายุอยู่แล้ว สู้เอามาเคลียร์โกดังให้ได้เงินสดติดมือยังดีกว่าครับ

5. Loyalty Program สำหรับลูกค้าขาประจำ

ไม่มีไม่ได้เลยสำหรับยุคนี้ คุณจะต้องคิดโปรโมชั่นหรือสิทธิพิเศษใหม่ๆ ให้ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำเรื่อยๆ เช่น ส่วนลดสำหรับลูกค้าที่สะสมยอดซื้อถึงกำหนด ระบบสะสมแต้มเพื่อเลื่อนยศลูกค้าในการได้สิทธิพิเศษต่างๆ คุณจึงจำเป็นต้องลงทุนระบบหลังบ้านหรือไอที CRM เพื่อให้ลูกค้ารับรู้แต้มกับยศของตนเองแบบ Real Time

6. ขายพ่วงแบบ Bundle

เพื่อให้ลูกค้าซื้อสินค้าแบบเหมาๆ แบบไม่ต้องแยกชิ้น วิธีการก็คือตอนทำราคาถ้าแยกชิ้นก็จะแพงกว่า แต่ถ้าซื้อรวมกันก็จะได้ถูกกว่าแบบกดเครื่องคิดเลขให้ดูเลย เช่น ซื้อคอมพิวเตอร์อย่างเดียวราคา 30,000 วินโดวส์ 5,000 เมาส์ 1,000 แต่ถ้าซื้อแบบยกเซ็ตจะราคา 32,500 บาท เป็นต้น อารมณ์ประมาณชุด Happy Meal ที่คุณจ่ายเป็นเซ็ตจะได้ทั้งเบอร์เกอร์ น้ำ เฟรนช์ฟราย นั่นเองครับ ถูกกว่าแยกชิ้นแน่นอน

7. จัดส่งฟรีเสมอ

ถ้าคุณขายออนไลน์หรือมี Delivery ก็ควรแปะบริการนี้ว่าฟรี ส่งฟรี ราคาก็แยกมา เป็นวิธีการตั้งราคาเชิงจิตวิทยาอย่างง่าย เช่น สินค้า 190 บาท (ฟรีค่าส่ง) กับ สินค้า 150 บาท ค่าส่ง 40 บาท ลองคิดดูครับว่าลูกค้าจะรู้สึกคุ้มค่าและตัดสินใจซื้อการตั้งราคาแบบไหนก่อน (จริงๆ เรื่องนี้มีงานวิจัยนะครับว่าคนเอเชียชอบการซื้อสินค้าแบบ One-Price รวมทุกอย่าง ต่างจากฝรั่งที่ชอบให้แตกรายการออกมาเป็นไอเท็มว่าราคาเท่าไหร่บ้าง)

8. แข่งขันชิงโชค ชิงรางวัล

เหมาะกับคนไทยเป็นอย่างยิ่งที่ชอบเรื่องของดวงชะตาและชอบเสี่ยงโชค จงลองสร้างเกมอะไรซักอย่างเพื่อให้ลูกค้าลุ้นรางวัล มุกง่ายๆ ก็เช่น ซื้อแล้วเขียนชื่อ ที่อยู่ติดฉลาก ส่งจับรางวัลชิงโชค หรือมุกกล่องสุ่ม อะไรก็ว่ากันไป คุณจึงสามารถก็อปปี้มุกชิงโชคสินค้าอื่นที่อยู่ในกระแสมาสร้างเป็นเกมได้ ลูกค้าจะรู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมาก

9. ซื้อแล้วได้ของแถม

ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ทำให้ลูกค้ารู้สึกคุ้มค่าและบางทีพวกเขาซื้อเพราะได้ของแถมมากกว่าตัวหลักด้วยซ้ำ ตัวอย่างดีๆ ก็มีอยู่รอบตัว

10. เครดิตเงินคืนหรือ Rebate

ก็เหมือนกับการรูดบัตรถึงเป้าก็จะได้เงินคืน (เท่าไหร่ก็ว่ากันไป) หรือในเชิง B2B ที่ลูกค้าซื้อด้วยจำนวนมากก็จะมีสิทธิ์ได้เงินคืนกลับมา หรือจะเปลี่ยนจากเงินเป็นทอง ทัวร์ ของรางวัล ที่ดูเข้าท่าก็ได้ครับ

11. โปรแกรมแนะนำและบอกต่อ

เป็นไอเดียที่ดีถ้าคุณจะมอบผลประโยชน์เป็นเงิน ส่วนลด หรือของแถม อะไรก็ตามแต่ให้กับลูกค้าชั้นดีเพื่อให้เขาแนะนำเพื่อน คนรู้จัก มาซื้อกับคุณต่อ ซึ่งมันจะเวิร์กมากๆ กับการใช้กลยุทธให้สอดคล้องกับวิธีทำตลาดแบบปากต่อปาก ยุคนี้ต้องยัดเงินเข้าไปด้วยครับถึงจะดังเร็ว

12. โปรโมชั่นตามเทศกาลต่างๆ

วันปีใหม่ วันแม่ วันพ่อ วันสงกรานต์ ฯลฯ สามารถเอามาล้อกับสถานการณ์เพื่อจัดโปรโมชั่นแบบสม่ำเสมอได้ทั้งนั้น ข้อดีคือสามารถวางแผนตั้งแต่การสต๊อกสินค้า การออกแคมเปญการตลาด หรือการคาดคะเนยอดขายได้อย่างแม่นยำครับ

13. โปรแกรมแบบ Exclusive สำหรับลูกค้าชั้นนำ

เพื่อสร้างฐานันดรในกลุ่มลูกค้าของคุณขึ้นมาและให้สิทธิพิเศษแบบ VIP กับกลุ่ม Top Spender ก่อน จากนั้นก็ประกาศให้โลกรู้เพื่อให้ลูกค้าฐานันดรต่ำกว่ารีบใช้จ่ายเพื่อให้ได้เลื่อนยศมาเป็น VIP

14. ซื้อตอนนี้ จ่ายทีหลัง

กำลังเป็นกลยุทธที่มาแรงสำหรับยุคนี้ วิธีการก็คล้ายๆ กับเอาสินค้าให้ลูกค้าใช้ฟรี แต่พอถึงเวลาที่กำหนด ลูกค้าต้องเริ่มจ่ายตังทันที คุณจะเห็นกลยุทธนี้บ่อยมากๆ เช่น คอนโดมิเนียม รถยนต์ โปรแกรมซอฟท์แวร์ เป็นต้น

Leave your vote

Comments

0 comments

Similar Posts