เป็นคนติ๋มๆ อินโทรเวิร์ท (Introvert) จะสามารถเป็นนักขายที่ดีได้มั้ย

เวลาคุณคิดถึงคนที่จะเป็นโคตรเซลล์ได้ คุณคิดว่าบุคลิกหรือลักษณะนิสัยของพวกเขานั้นน่าจะเป็นอย่างไรกันบ้างครับ ผมคิดว่าคุณคงต้องคิดว่าพวกเขาต้องเป็นหนุ่มมาดเท่ห์เจ้าเสน่ห์ พูดเก่ง มีอารมณ์ขัน เข้ากับคนง่าย เฟรนลี่ มีเพื่อนเยอะ แถมยังจีบสาวเก่งอีกต่างหาก (ฮา)

หรือจะให้พูดแย่กว่านั้นก็คงเป็นพวกที่กินเหล้าเก่ง เข้าสังคมเก่ง ถึงไหนถึงกัน หน้าม่อ หน้าด้านใจกล้า ถ้าเป็นผู้หญิงก็คงต้องเป็นสไตล์สวย เซ็กซี่ พูดเก่ง ขี้เม้า เข้ากับผู้ชายได้ดีและมีเพื่อนผู้ชายมาก อะไรทำนองนี้แน่ๆ เลย คนที่มีบุคลิกหรือนิสัยเหล่านี้น่าจะเป็นนักขายที่เก่งหรือมีควรทำงานขาย

คำตอบของผมคือ “ไม่จริงเลยครับ” เพราะช่วงชีวิตการเป็นนักขายของผมกลับมองเห็นว่ากลุ่มคนที่เป็นตามที่พูดมานั้นเป็นประเภทเอ็กโทรเวิร์ท (Extrovert) ส่วนใหญ่ หลายๆ คนก็ยังเป็นนักขายลุ่มๆ ดอนๆ อยู่เลยครับ แถมสภาพร่างกายก็ยังช้ำ แก่ตามอายุแต่ฝีมือกับตำแหน่งไม่ได้เพิ่มขึ้นเลย มักถูกเหมารวมว่าเป็นพวก “หมาล่าเนื้อ”

แต่นักขายอีกประเภทที่ถูกเรียกว่าอินโทรเวิร์ท (Introvert) ซึ่งมีบุคลิกและนิสัยตรงกันข้ามกับนักขายประเภทเอ็กโทรเวิร์ทแทบทุกอย่าง แต่กลับกลายเป็นนักขายระดับท็อปเซลล์ที่มีความสามารถสูงมาก หลายๆ คนก้าวขึ้นไปสู่ระดับผู้บริหารฝ่ายขายได้สำเร็จด้วยซ้ำไป พวกเขามีดีอะไรถึงทำให้พวกเขาเป็นนักขายที่ดีและประสบความสำเร็จ

1. ความนิ่งเฉยย่อมทำให้เกิดความน่าเชื่อถือที่มากกว่า

คนที่น่าเชื่อถือมักมีบุคลิกที่สุขุมนุ่มลึก คุณเคยเห็นเจมส์ บอนด์ 007 เป็นคนที่พูดมากงั้นหรือครับ (ฮา) บุคลิกระดับผู้บริหารชั้นนำย่อมมาพร้อมกับความนิ่ง สุขุม ไม่พูดมาก เป็นคนที่คิดก่อนพูดเสมอ ซึ่งคุณสมบัติเด่นของคนอินโทรเวิร์ทนี่เองที่ทำให้พวกเขาแค่อยู่เฉยๆ แสดงสีหน้าที่นิ่ง พวกเขากลับเป็นฝ่ายที่ทำให้ลูกค้าให้ความไว้วางใจมากกว่านักขายที่พูดมาก เพราะยิ่งพูดมาก พูดเก่งเท่าไหร่ ลูกค้าในยุคนี้อาจจะมองว่านักขายเหล่านั้นมีความขี้โม้และไม่น่าเชื่อถือนั่นเองครับ ทำให้คนอินโทรเวิร์ทมีจุดแข็งในการเป็นนักขายที่ยอดเยี่ยม

2. การเป็นนักฟังที่ดีจึงทำให้กลายเป็นนักถามคำถามที่ดี

คุณสมบัติอีกอย่างของคนอินโทรเวิร์ทคือการเป็นนักฟังที่ดีนี่แหละครับ ซึ่งความจริงก็คือพวกเขาไม่ชอบพูดหรือขี้เกียจพูดมากกว่า (ฮา) เกิดมาก็ไม่รู้จะพูดมากไปทำไม การพูดมากเป็นเรื่องที่น่าเบื่อสำหรับพวกเขา จึงทำให้คนกลุ่มนี้ชอบที่จะเป็นฝ่ายฟังมากกว่า แถมพวกเขามีแนวโน้มว่าจะฟังแล้วจับใจความได้ดี จึงทำให้เกิดการถามคำถามที่ต่อเนื่องจากสิ่งที่ผู้พูดได้เล่าให้ฟัง โดยเฉพาะลูกค้า ทำให้ลูกค้าคายข้อมูลที่สำคัญเกี่ยวกับการขายมากยิ่งขึ้น เมื่อได้ข้อมูลที่ดีทั้งๆ ที่ไม่ได้เป็นฝ่ายพูดมาก จึงทำให้ลูกค้าให้ความไว้วางใจได้มากกว่านั่นเองครับ

3. ในเมื่อเป็นคนพูดน้อย จึงเลือกพูดให้ตรงประเด็น ไม่อ้อมค้อม

บางทีความจริงใจโดยไม่ต้องใส่ไข่แบบนักขายช่างพูดที่ต้องพยายามโน้มน้าวลูกค้าด้วยคำพูดคำจามากมาย อาจได้ผลต่อการขายมากกว่า โดยเฉพาะการขายที่ต้องใช้ข้อมูลจริง ขายสินค้ามูลค่าสูง ความเสี่ยงสูง ต้องการความน่าเชื่อถือของข้อมูลเป็นหลัก คนพูดน้อยสไตล์อินโทรเวิร์ทจึงเลือกที่จะพูดเนื้อๆ ตรงประเด็น เน้นๆ ไม่ตองอ้อมค้อมอะไรมากมาย ผลที่ได้กลับดีกว่าในการขาย ลูกค้ามองเห็นถึงความจริงใจ แถมยังได้ประโยชน์มากกว่า ส่งผลให้การขายและการเป็นที่ปรึกษานั้นมีประสิทธิภาพสูงกว่านักขายประเภทเอ็กโทรเวิร์ท

4. คนพูดน้อยเก็บตัวมักมีคุณสมบัติที่ดีในการเป็นที่ปรึกษา

ที่ปรึกษาที่ไหนเป็นคนที่พูดมาก พูดอยู่คนเดียวกันบ้างครับ คุณเคยเห็นคนทำอาชีพหมอหรือสถาปนิกออกแบบบ้านช่างจ้อที่มัวแต่พูดสรรพคุณให้ฟังกันเหรอครบ คำตอบคือไม่เลย ที่ปรึกษาจะเป็นฝ่ายสอบถามและตั้งใจฟังคุณเพื่อคิดหรือออกแบบสิ่งที่ตอบโจทย์ตามที่คุณเสนอ ซึ่งการขายในปัจจุบันนั้น ผู้ขายต้องมีความรู้และเป็นที่ปรึกษาที่ดีเกี่ยวกับสินค้าและบริการให้กับลูกค้าได้ ลูกค้าถึงจะมอบความไว้วางใจและจ่ายเงินให้คุณ ดังนั้นคนที่มีบุคลิกติ๋มๆ เก็บตัว ไม่ค่อยพูด จึงมีแน้วโน้มที่จะเป็นผู้ฟังที่ดีและเป็นที่ปรึกษาที่ดีเพราะเก่งการถามคำถามนั่นเองครับ

นี่คือจุดแข็งของคนที่มีบุคลิกเก็บตัว อินโทรเวิร์ท ที่สามารถเป็นโคตรเซลล์ประสบความสำเร็จได้ จริงๆ แล้วไม่ว่าบุคลิกไหนก็ประสบความสำเร็จได้ทั้งนั้นครับ เพียงแต่ว่าคุณจะต้องเข้าใจจุดอ่อน จุดแข็งของตัวคุณเป็นอย่างดีนั่นเองครับ

Leave your vote

Comments

0 comments

Similar Posts

ใส่ความเห็น