|

ทำอย่างไรถึงจะมีวินัยแบบนักขายขั้นเทพ

นี่คือบทความที่จะทำให้คุณกลายร่างเป็นนักขายขั้นเทพ ซึ่งผมมีข้อแม้เพียงแค่อย่างเดียวเท่านั้นคือ “คุณต้องลงมือทำ” ตามขั้นตอนด้วยมาตรฐานเดียวกันซ้ำๆ ทุกวัน รับรองว่าชีวิตคุณจะเปลี่ยนเพียงแค่อ่านบทความนี้แน่นอน


1. ลงมือสร้างวินัยของนักขายขั้นเทพ

วินัยคือสิ่งที่สร้างความแตกต่างระหว่างคนธรรมดากับยอดฝีมือ ทุกวงการจะมี “มือหนึ่ง” (Master) ไม่ว่าจะเป็นนักกีฬาอาชีพ นักร้อง นักแสดง แพทย์ นักกีฬา เป็นต้น สุดยอดนักขายขั้นเทพก็จะต้องทำงานตามวินัยของตนเองราวกับว่าคุณ “ตื่นขึ้นมาแปรงฟันทุกเช้า” โดยเฉพาะกิจกรรมการขายที่ต้องมีวินัยสูงตั้งแต่การหาลีดใหม่ๆ มาเติมอยู่ตลอดเวลา การเข้าพบลูกค้าเฉลี่ยต่อวันในตัวเลขที่สูงเกินธรรมดาทุกวัน คุณภาพการนำเสนอที่มีมาตรฐานสูงและทำการบ้านก่อนเข้าพบลูกค้าทุกครั้ง ไปจนถึงการติดตามงานอย่างเป็นระบบและอัพเดทสถานะการทำงานตลอดเวลา ผลลัพธ์ที่ตามมาก็คือยอดขายที่มาจากวินัยที่คุณทำซ้ำๆ ทุกวันนั่นเอง

2. มองหาลีดลูกค้าใหม่มาเติมในไปป์ไลน์ตลอดเวลา

หายนะของนักขายคือการชะล่าใจว่าลูกค้าซื้อคุณไปตลอด คุณจะต้องไม่ประมาทในเรื่องนี้ถึงแม้ว่าจะมีลูกค้าเต็มมือและมีตัวเลข 100% ทุกเดือนก็ตาม นักขายขั้นเทพจะกล้าท้าทายตัวเองเพื่อเพิ่มตัวเลขให้สูงเกิน 120% หรืออัดหมดพอร์ทจนทะลุ 200% โดยไม่กั้กดีล คุณสามารถทำได้ด้วยการหาลีดใหม่ๆ มาเติมในไปป์ไลน์และบริหารเวลาเรื่องการดูแลลูกค้าปัจจุบันอย่างทั่วถึง คุณจะต้องใช้เวลาที่มีอยู่ช่วงเวลางาน 8 ชั่วโมงอย่างคุ้มค่า เช่น คุณมีนัดลูกค้าวันละ 4 นัดก็จริง แต่ระหว่างวันสามารถแบ่งเวลาอันน้อยนิดในการโทรทำนัดลูกค้าใหม่โดยไม่เกี่ยงสถานที่ นี่คือวินัยและสามารถใช้เวลาได้อย่างคุ้มค่ามากที่สุ

3. อัพเดทรายงานการขาย (Sales Report) อย่างสม่ำเสมอ

จงอย่าคิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่น่าเบื่อเป็นอันขาด เพราะรายงานการขายที่ละเอียดและอัพเดทสดใหม่อยู่เสมอจะช่วยให้คุณมียอดขายไหลเข้ามาและไม่พลาดดีลสำคัญๆ เหตุผลเพราะ “ลืมติดตามงาน” อย่างแน่นอน รายงานการขายที่ดีจะบ่งบอกถึงสถานะล่าสุดหรือฟีดแบกจากลูกค้าและ “Next Step” ที่คุณจะต้องติดตามงานเพื่อให้งานมีความคืบหน้า รายงานการขายที่ดีจะต้องมี “Action Plan” ที่ระบุวันชัดเจนว่าในวันนั้นคุณจะติดตามลูกค้าแบบไหน ไม่ว่าจะเป็นการโทรไปสอบถาม หรือการทำนัดเพื่อนำเสนอแบบเจอหน้า การหมั่นดูรายงานการขายว่าสถานะแต่ละไปป์ไลน์ล่าสุดจะต้องทำอะไรถึงจะทำให้งานคืบหน้าคือหนึ่งในวินัยที่นักขายขั้นเทพต้องลงมือทำ

4. ทำกิจกรรมติดตามงาน (Follow Up) ลูกค้าทุกราย

การติดตามงานที่ดีไม่ใช่การโทรตามตื๊อหรือพยายามทำนัดเจอหน้าโดยไม่มีหัวข้อหรือวาระ (Objective) แต่มันคือการคิดไอเดียที่จะช่วยให้ลูกค้าได้ประโยชน์และทำให้พวกเขาง่ายขึ้นในการพิจารณาและเข้าใกล้กระบวนการตัดสินใจซื้อมากขึ้น ที่สำคัญคือการติดตามงานจะต้องมีการวางแผนที่ดี ไม่ว่าจะเป็นเรื่องช่วงระยะเวลาที่เหมาะสมในการติดตามงานที่ไม่ถี่เกินไปหรือทิ้งช่วงมากเกินไปจนลูกค้ารู้สึกว่าคุณหายหัว นักขายขั้นเทพจะต้องเป็นฝ่ายสอบถามลูกค้าถึงช่วงเวลาที่เหมาะสมในการติดตามงานครั้งถัดไปเพื่อให้ลูกค้าเป็นตัวตั้ง (Customer Centric) อยู่เสมอ หรือแม้แต่ลูกค้าที่ไม่ซื้อคุณในระยะเวลาหนึ่ง การกลับไปติดตามงานใหม่ก็อาจจะช่วยให้การซื้อขายกลับมาอีกครั้ง

5. ทำการบ้านเกี่ยวกับธุรกิจของลูกค้าก่อนนำเสนองานทุกครั้ง

นักขายขั้นเทพไม่ได้เก่งเรื่องการขายเพียงอย่างเดียว แต่พวกเขายังเก่งเรื่องการหาข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจของลูกค้าเพื่อหาจุดเชื่อมโยงว่าสินค้าและบริการที่พวกเขามีจะตอบโจทย์และให้ประโยชน์ทางธุรกิจหรือชีวิตลูกค้าอย่างไรบ้าง พวกเขาจะใช้เวลาในการดูภาพรวมของธุรกิจลูกค้าคร่าวๆ ว่าทำอะไร มีเป้าหมายอย่างไร มีนวัตกรรมไหนที่น่าจะช่วยพวกเขาให้มีธุรกิจที่ดีขึ้นได้ หรือแม้แต่การวิเคราะห์ปัญหาของลูกค้าจากข่าวสารต่างๆ ซึ่งคุณสามารถค้นหาได้ง่ายๆ เพียงแค่ปลายนิ้วจากอินเทอร์เน็ต การทำการบ้านเรื่องข้อมูลส่วนตัวของลูกค้าก่อนเข้าพบก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่นักขายขั้นเทพจะลงมือค้นคว้าเพื่อรู้จักตัวตนของลูกค้าผ่านเฟซบุ้คและลิ้งก์อินทุกครั้งเพื่อสร้างข้อได้เปรียบการขาย

6. แก้ไขปัญหาให้ลูกค้าอย่างเร่งด่วนพร้อมกับหามาตรการป้องกันปัญหาให้ลูกค้าทุกครั้ง

นักขายขั้นเทพเมื่อพบว่าลูกค้ามีปัญหาจากการใช้สินค้าและบริการ พวกเขาจะเข้าพบลูกค้าเพื่อแก้ปัญหาทันที พร้อมกับวิธีแก้ปัญหาแบบระบุเวลา ที่สำคัญคือมีการติดตามสถานะการแก้ปัญหาให้ลูกค้าแบบอัพเดทวันต่อวัน ในช่วงที่ไม่มีปัญหา พวกเขาจะสร้างกิจกรรมเข้าเยี่ยมเพื่อตรวจสอบการใช้งานก่อนเกิดปัญหา หรือมาพร้อมกับบริการหลังการขายที่มีไว้ป้องกันสถานการณ์ไม่คาดคิด ประโยชน์จากกิจกรรมนี้จะทำให้นักขายขั้นเทพสามารถรักษาลูกค้าเอาไว้ในมือได้ตราบนานเท่านั้น

7. วัดผลการทำงานของตัวเองทุกขั้นตอน

นักขายขั้นเทพจะประเมินผลการทำงานด้วยตนเองและให้ผู้อื่นเป็นผู้ประเมินพวกเขาอยู่เสมอ พวกเขาจะรู้ดีว่าจุดอ่อนที่ต้องเติมเต็มนั้นคืออะไร และควรทำอะไรถึงจะเพิ่มตัวเลขผลการทำงานให้สูงขึ้น เช่น ยอดขายตก พวกเขาจะรู้ดีว่าปัญหามาจากการหาลีดใหม่ๆ ที่มีน้อยเกินไป เข้าพบลูกค้าน้อยเกินไป ติดตามงานไม่ละเอียดและน้อยเกินไป พวกเขาจึงเพิ่มกิจกรรมเหล่านั้นให้สูงขึ้น ซึ่งการลดหรือเพิ่มกิจกรรมนั้นจะต้องมาจากการวัดผลการทำงานของตัวเองล่วงหน้า หรือลองให้ผู้อื่นเป็นผู้ประเมินว่าอะไรควรเป็นสิ่งที่ปรับปรุง พวกเขาจึงพัฒนาตัวเองได้และมีผลการทำงานที่ยอดเยี่ยมขึ้นตลอดเวลา

8. หมั่นเติมความรู้ด้านการขายทุกวัน

จริงอยู่ที่การขายไม่มีสอนในมหาวิทยาลัย แต่โลกแห่งอินเทอร์เน็ตสามารถทำให้คุณค้นคว้าหาความรู้เพื่อพัฒนาทักษะด้านการขายด้วยตนเองง่ายๆ เพียงแค่ปลายนิ้ว ไม่ว่าจะเป็นการเข้ามาอ่านบทความนี้ การดูยูทูปนักขายตัวเทพทั้งไทยและฝรั่ง เว็บไซต์ธุรกิจที่มีความรู้ด้านการขายทุกอย่าง หรือแม้แต่ Podcast ที่คุณสามารถติดตามนักขายหรือนักสร้างแรงบันดาลใจเพื่อฟังยามที่คุณเดินทางไปหาลูกค้าเวลารถติดได้ทุกวัน นี่คือสุดยอดวินัยที่เปรียบเสมือนแบบฝึกหัดนอกสนามที่ทำให้คุณกลายเป็นนักขายที่สุดยอดมากขึ้น


นี่คือวินัยของนักขายขั้นเทพที่คุณต้องลงมือทำทุกวันครับ

Leave your vote

Comments

0 comments

Similar Posts

ใส่ความเห็น