เริ่มต้นการเป็นผู้จัดการได้แล้ว

ใครก็ตามที่เป็นนักขายมืออาชีพ อารมณ์ประมาณเป็นท็อปเซลล์มาหลายสมัย ผมเชื่อว่าคุณต้องคิดอยู่ในหัวแหละว่า “กูไม่อยากเป็นผู้จัดการ” เหตุผลก็เพราะดูนายทำงานแล้วค่อนข้างน่าหนักใจ ไหนจะต้องรับผิดชอบชีวิตการทำงานคนอื่น ค่าคอมฯ บางทีก็ไม่ได้ดีเท่าตอนเป็นนักขายอยู่แล้ว แล้วอย่างนี้จะเป็นผู้จัดการไปทำไม (วะ)

ขอบอกเลยว่ามีนักขายฝีมือดีที่คิดแบบนี้เป็นจำนวนมาก น่าเสียดายที่พวกเขาเหล่านั้นกำลังตกอยู่ใน Comfort Zone จากที่เป็นนักขายผู้กล้าก็กลายเป็นคนขี้กลัวซะงั้น ทั้งๆ ที่เหล่าผู้จัดการฝีมือดีนี่แหละที่ยกระดับตัวเองจนได้เป็นใหญ่เป็นโต บางคนขึ้นไปถึงขั้น Country Manager หรือ เจ้าของธุรกิจได้เลย ซึ่งเรื่องนี้คุณก็รู้อยู่แก่ใจอยู่แล้วแหละ

ผมจึงขอสอนให้พวกเขาคุณเปิดใจรับโอกาสการก้าวไปสู่ระดับผู้จัดการและผู้บริหารให้ได้ เพื่ออนาคตที่สดใส รับรองว่าคุณเป็นผู้จัดการที่ดีด้วย Platform ของผมได้อย่างแน่นอน

1. งานผู้จัดการคืองานคุมทีมขายเป็นหลัก

จำไว้ว่าหน้าที่หลักของคุณคือการทำให้ทีมขาย “บรรลุยอดขาย 100%” แล้วตัวเลขทั้งหมดที่นายคุณมอบให้ก็จะถึงเอง เพียงแค่ปรับ Mindset ว่าจากที่ตัวเองทำเอง ชงเอง กินเองจนได้ยอดขายเกินเป้า มาเป็นทำให้ลูกน้องได้ยอดขายถึงเป้ากันดีกว่าครับ หมายความคุณก็ต้องสอนและฝึกอบรมพวกเขา ถ่ายทอดวิชานักขายขั้นเทพที่เคยลงมือทำมาให้จนหมดสิ้น ได้เวลาที่คุณจะฝึกให้ “ลูกนกหัดบิน” และเหนือกว่าตอนที่คุณเป็นนักขายแล้วล่ะครับ

2. ควรฝึกคิดและวางแผนกลยุทธด้านการขายมากกว่าไปปิดการขายเอง

นี่คืองานหลักของคนระดับผู้จัดการอีกเช่นกัน มันไม่ใช่แค่รับคำสั่งเจ้านายว่าให้ขายสินค้าแบบนี้ หรือทำส่วนลดแบบนั้นไปได้เลย จากนั้นก็หลับหูหลับตาขาย แต่คุณเองนี่แหละที่ต้องวิเคราะห์ข้อมูลจากตลาดให้ขาด มองความเคลื่อนไหวของคู่แข่งอยู่ตลอดเวลา และรู้จักใช้ข้อมูลเพื่อประกอบการตัดสินใจ (Data-driven decision making) ได้อย่างเหมาะสม เพื่อต่อรองกับผู้บริหารและนำแผนการมาปรับใช้กับทีมขาย เช่น การลดราคา การเพิ่มสินค้าเพื่อนำมาขายใหม่ การขายเพิ่ม ฯลฯ นี่คือสิ่งที่สร้างกลยุทธการขายได้

3. คุณจำเป็นต้องเริ่มฝึกทักษะการเป็นผู้นำและการสื่อสาร

ทักษะ Leadership และ Communication คือสิ่งที่สำคัญ จริงอยู่ที่ตอนเป็นนักขาย คุณมักจะมีทรงเวลาพูดจากับลูกค้าเป็นอย่างดี แต่กับเพื่อนร่วมงานนั้นคงไม่ทราบแน่ๆ ว่าคุณทำได้ดีพอหรือยัง ดังนั้นทักษะความเป็นผู้นำจึงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก นอกจากทำให้ลูกน้องเชื่อใจ ไว้วางใจ และสามารถกระตุ้นกับปลอบประโลมเวลาลูกน้องมีปัญหาได้ คำพูดคำจาจึงเป็นสิ่งที่สำคัญเช่นกัน เพราะว่าคุณต้องระวังคำพูดของตนเองเป็นอย่างมาก ถึงจะทำให้ลูกน้องเชื่อใจ

4. เรียนรู้การใช้ CRM เพื่อวัดผลทีมขาย

CRM คือสิ่งที่ยอดเยี่ยมมากๆ และเป็นเครื่องมือที่เหล่าผู้จัดการต้องใช้งานให้เป็น เพราะความยอดเยี่ยมของมัน ทำให้คุณสามารถทราบข้อมูลสำคัญว่านักขายทำงานเป็นอย่างไร หลักๆ ที่ต้องรู้แล้วเคี่ยวเข็ญให้นักขายรู้จักใช้ CRM ให้เป็นเพื่ออัพเดทข้อมูล เช่น

– กิจกรรมการขายในแต่ละวัน เช่น สถานะการติดตามลูกค้า ฯลฯ
– จำนวนนัดหมายลูกค้าแบบเจอหน้าหรือเจอผ่านวีดีโอ
– จำนวน Pipeline หรือลีดลูกค้าที่ได้ส่งใบเสนอราคาไปแล้วและใกล้จะปิดดีลได้
– การทำ Sales Forecast ปิดการขายในแต่ละสัปดาห์หรือแต่ละเดือน
– ยอดขายที่ปิดได้
– จำนวนลูกค้าที่อยู่ในมือของนักขายแต่ละคน
– ฯลฯ

ซึ่งผมก็ต้องขอแนะนำ CRM ที่ยอดเยี่ยม ซึ่งถ้าองค์กรของคุณยังไม่มีหรือใช้ Microsoft Excel ซึ่งค่อนข้างยุ่งยากและไม่สามารถสร้าง Data Visualization เพื่อให้เห็นภาพและเอาไปวางกลยุทธได้ง่ายๆ ผมขอแนะนำ JUBILI by Builk ซึ่งเป็น CRM ที่ใช้งานง่าย รองรับภาษาไทย สามารถแสดงผลการทำงานของนักขายได้อย่างทุกซอกทุกมุม โดยคุณสามารถทดลองใช้ฟรีก่อนแนะนำให้เจ้าของบริษัทใช้งานแบบเต็มประสิทธิภาพได้ที่ คลิก: https://bit.ly/37kN9R9

5. นี่คือโอกาสแห่งการก้าวไปเป็นผู้บริหารหรือจุดสูงสุดของการทำงาน

ตำแหน่งผู้จัดการที่ยอดเยี่ยมจะได้ฐานเงินเดือนที่มากพออยู่แล้ว หรือไม่ก็ได้อำนาจการทำงานในระดับหนึ่ง ซึ่งแน่นอนว่ามันยอดเยี่ยมมากๆ ถ้าคุณเป็นผู้จัดการมือทอง ปั้นนักขายให้เป็นมืออาชีพได้แทบทุกคน เชื่อเถอะว่าคุณก็เป็นคนที่ใครก็ต้องการตัว อยากเอาไปบริหารบริษัท เนื้อคุณก็จะหอม และมันจะดีมากถ้ามีตำแหน่งที่ใหญ่กว่าระดับผู้จัดการ คุณก็จะมีโอกาสได้รับการคัดเลือก นอกจากเงินเดือนที่สูงแล้ว อำนาจในมือยังเยอะอีกต่างหาก ผมจึงอยากให้คุณคว้าโอกาสนี้ไปให้ได้นะครับ

Leave your vote

Comments

0 comments

Similar Posts