ทำอาชีพอื่นจนเบื่อแล้ว ลองเป็นนักขายดูบ้างมั้ย

อาชีพนักขาย (Sales) มักมีความแปลกอยู่อย่าง คือวุฒิที่จบมาทั้งประเทศ (หรือทั้งโลกใบนี้) “ไม่มีใครจบคณะการขายศาสตร์มาแม้แต่คนเดียว”

ผมไม่ได้พูดให้คุณด่าว่าผมถามอะไรโง่ๆ หรอกนะครับ ในเมื่อคณะนักขายหรือคณะเซลล์ศาสตร์มันไม่มีอยู่แล้วตั้งแต่ต้น แล้วมันจะมีบัณฑิตที่จบคณะนี้มาได้ยังไง

ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องแปลกที่หนึ่งในอาชีพที่มีตำแหน่งว่างและเปิดรับสมัครงานอยู่เป็นประจำก็คือตำแหน่งนักขาย แต่กลับมีคนที่จบสาขาคนละโลกกับการขายอย่างพวกคณะวิทย์ฯ วิศวะฯ เภสัช อุตสาหกรรมเกษตร คอมพิวเตอร์ ฯลฯ มาทำอาชีพนักขายอยู่เป็นกระบุงโกย

แสดงว่าอาชีพนี้เปิดโอกาสให้กับ “ใครก็ได้” และไม่เกี่ยงว่าคุณจะจบอะไรมา ขอให้จบปริญญาตรีมอดังระดับนึงด้วยเกรดที่โอเคก็เป็นอันใช้ได้ (ในกรณีที่อยากสมัครงานบริษัทใหญ่)

แต่อย่างไรก็ตาม ใครที่เรียนจบในสาขาที่เกี่ยวกับธุรกิจ เช่น บริหารธุรกิจ การตลาด บัญชี ไฟแนนซ์ เศรษฐศาสตร์ เป็นต้น ก็มักจะมีภาษีที่ดีในการเริ่มต้นอาชีพนักขาย เพราะคุณได้เรียนรู้พื้นฐานธุรกิจที่จะเข้าไปทำความเข้าใจธุรกิจของลูกค้าและขายสิ่งที่ได้คุณค่าไงล่ะ

ผมจึงขอผายมือเชิญเหล่าบุคคลที่ต้องการ “จุดเปลี่ยน” ในชีวิต รู้สึกเบื่อกับงานประจำที่กำลังทำอยู่ รู้สึกว่ายังมองไม่เห็นอนาคตข้างหน้าว่าจะยกระดับชีวิตของตนเองได้อย่างไร ด้วยการลองเปลี่ยนเส้นทางอาชีพมาเป็นนักขายมือโปรกันดีกว่า เพราะอะไร มาดูกันเลย

1. เป็นอาชีพที่ทำมากได้มากอย่างแท้จริง

อาชีพนักขายมีสิ่งหนึ่งที่สร้างความมั่งคั่งให้กับคุณด้วยหนึ่งสมองและสองมือ วินัยและความขยันขันแข็งอย่างถูกวิธีจะทำให้คุณล่ายอดขายได้ไม่หยุด สิ่งที่เพิ่มความมั่งคั่งนอกจากเงินเดือนก็คือค่าคอมมิชชั่นกับค่า Incentive ยิ่งรวมโบนัสเข้าไปอีกต้องขอบอกว่าคุณสามารถสร้างรายได้เกิน 1 ล้านต่อปีแบบสม่ำเสมอได้เลย (เซลล์ร้อยล้านทำได้ 3 ล้านต่อปี 5 ปีก็ประมาณ 15 ล้านบาท ภาษีไม่ต้องพูดถึง ฮา)

2. ถ้าอยากทำงานฝ่ายบริหารไวๆ ต้องเลือกเส้นทางนี้

อาชีพนี้ทำให้ผมเป็น MD บริษัทตั้งแต่อายุไม่ถึง 30 ก็เพราะฝีมือการขายล้วนๆ เลยครับ ความจริงก็คือเมื่อคุณเป็นนักขายระดับท็อปเมื่อไหร่ คุณจะกลายเป็นที่จับตามองของหัวหน้าและเจ้าของบริษัทในฐานะกองหน้าซูเปอร์สตาร์ทำเงินเข้าบริษัท พวกเขาจะรีบยัดลูกน้องใส่มือคุณเพื่อสร้างนักขายขั้นเทพมาให้ได้ คุณจะกลายเป็นผู้จัดการทีมขายเร็วมากเลยล่ะ แล้วเมื่อคุณปั้นนักขายขั้นเทพได้สำเร็จแล้ว ตำแหน่งผู้บริหารก็จะเป็นของคุณต่อทันที

3. ไม่ต้องกลัวเวลาเศรษฐกิจไม่ดีและจะถูกเฉดหัวส่ง

มีแค่เหตุผลเดียวที่คุณจะถูก Lay off ก็คือค่าตัวคุณแพงจนองค์กรต้องลดค่าใช้จ่ายเพียงเท่านั้น นอกจากนี้ไม่มีแล้ว เพราะไม่มีบริษัทไหนโง่พอที่จะปล่อยนักขายมือทองออกไปหรอกครับ หรือถ้าบริษัทโง่จริงๆ และคุณไปทำอะไรไม่เข้าท่าจนเจ้านายไม่ชอบขี้หน้า คุณยังมีทางเลือกด้วยการออกไปหางานใหม่ๆ และมันก็ง่ายเหลือเกินที่จะได้งานใหม่ เพราะคุณก็ยังเนื้อหอมอยู่เหมือนเดิมแถมยังมีคอนเนคชั่นอีกเต็มมือ บริษัทแวดวงเดียวกันย่อมอยากได้เป็นธรรมดา

4. เป็นอาชีพที่ไม่ต้องพึ่งพาพรสวรรค์ด้านความฉลาดแต่อย่างใด

พรสวรรค์ด้านความเฉลียวฉลาดที่ว่าก็อย่างเช่น อัจฉริยภาพทางคณิตศาสตร์ คำนวณ ศิลปศาสตร์ การแพทย์ อะไรทำนองนั้น ทำให้ใครก็ตามที่เป็นสายถึก มีพรแสวง ต้องดีใจกันยกใหญ่ เพราะขอเพียงแค่คุณอึดและหมั่นฝึกฝนทักษะการขายอย่างถูกวิธี คุณสามารถเป็นนักขายมือทองได้ราวกับปั้นหุ่น 6 Packs ยังไงยังงั้นเลย เหตุผลก็เพราะอาชีพนี้ไม่ต้องพึ่งพาพรสวรรค์ที่คนทั่วไปมักเข้าใจผิด เช่น พูดเก่ง โน้มน้าวเก่ง นำเสนอเก่ง หน้าตาดี ฯลฯ เพราะมหาเศรษฐีชาวไทยหลายๆ คน ไม่ได้เกิดมามีคุณสมบัติที่ว่านั้นเลยล่ะครับ

5. อยากเป็นเจ้าของธุรกิจ ต้องเรียนรู้ตำราธุรกิจจากของจริง

อาชีพนี้เป็นอาชีพเดียวที่แทบจะเห็นวงจรธุรกิจ ไล่ตั้งแต่การหาลูกค้า นำเสนอขาย ส่งมอบสินค้าและบริการ เข้าใจที่มาที่ไปของสินค้า มีความรู้ธุรกิจในวงการ กำไร ราคาขาย ส่วนลด ฯลฯ จึงทำให้คุณเห็นต้นน้ำยันปลายน้ำเลยว่าธุรกิจเริ่มต้นไปถึงจุดจบได้อย่างไร ที่สำคัญคือถ้าใครเก่งอาชีพนี้ คุณสามารถทำธุรกิจโดยไม่ต้องใช้เงินเลยแม้แต่บาทเดียว เริ่มต้นจากอาชีพนายหน้า เป็นตัวแทนจำหน่าย ล็อบบี้ยิสต์ ฯลฯ ก็สามารถเปิดบริษัทเองได้เลยด้วยซ้ำ

Leave your vote

Comments

0 comments

Similar Posts