สถานที่ปิดดีลระดับ Luxury สุดหรูที่นักธุรกิจระดับสูงเขานิยมไปกัน (และคุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน)
จากประสบการณ์ด้านการขายที่ผ่านมา ธุรกิจมันก็เหมือนผ้านี่แหละครับ ที่มันมีทั้งสีขาว เทา ดำ ดังนั้นคงไม่ใช่แค่การขายของหรือทำธุรกิจในห้องประชุมแบบธรรมดาๆ เท่านั้น การทำธุรกิจและคุยงานตามบริบทของแต่ละรูปแบบย่อมมีเรื่องของกิจกรรมและสถานที่ที่แตกต่างกันไป เพื่อให้คุณได้ ‘เปิดโลก’ การขายและการธุรกิจเพิ่มเติม นี่คือความรู้ที่อนาคตคุณอาจจะได้มีส่วนร่วมก็ได้และควรมีไว้ใส่สมองของคุณครับ
1. สนามกอล์ฟ Exclusive พร้อม Private Lounge
ถ้าลูกค้าคุณชอบตีกอล์ฟ (และคุณก็ตีได้ด้วย) สนามกอล์ฟคือจุดหมายต้นๆ ของการหารือหรือปิดดีลธุรกิจสำคัญๆ เลยก็ว่าได้ เหมาะทั้งโปรเจคราชการและเอกชน นอกจากบรรยากาศที่ผ่อนคลายและเป็นส่วนตัวตาม ‘ความแพง’ ของแต่ละสนาม ยังได้เรื่องความเป็นกันเองและช่วงเวลาที่สามารถอยู่กับลูกค้าได้อย่างจุใจที่สุด แถมยังดูดี ไม่ใช่กิจกรรม ‘สีเทาๆ’ อีกด้วยครับ แนะนำว่าควรเลือกสนามระดับ 5 ดาว หรือที่เรียกว่า Championship Course ที่มีห้องส่วนตัวสำหรับคุยงานหลังตีกอล์ฟ เช่น
– Alpine Golf Club
– Thai Country Club
– Nikanti Golf Club
– Summit Windmill Golf Club
– Navathanee Golf Course
– Robinswood Golf Club
จริงๆ แล้วมีอีก ถ้าใครชอบสนามกอล์ฟมากกว่ารายชื่อนี้ก็พิมพ์เข้ามาแชร์กันได้นะครับ
2. Exclusive Lounges และ Member’s Club
เล้าจน์ ในที่นี้ไม่ใช่เล้าจน์สาวสวยนะครับ แต่เป็นคลับสำหรับการพูดคุยและหารือทางธุรกิจจริงๆ ให้นึกถึงในหนังที่เป็น Private Business Club สุดหรูบนอาคารสูงๆ ที่จะมีห้องประชุมส่วนตัว บริกร บาร์เล็กๆ ถ้าให้เห็นภาพจะเป็นธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสายการเงินและการธนาคาร ห้องค้าหุ้น เหมือนในหนังอเมริกันแนวๆ เล่นหุ้นที่สูบซิการ์ได้ ตัวอย่างเช่น
– The Bangkok Club: สถานที่ในตำนานตั้งแต่ก่อนยุค 40 ที่โบรกเกอร์คือมนุษย์ทองคำเลยก็ว่ไาด้
– Private Suites ในโรงแรมหรู: เช่น The Athenee, Banyan Tree, St. Regis, etc.
– Rooftop Bar ที่มีห้องไพรเวทในโรงแรม 5 ดาว ทั้งหมด
3. อัครสถานบันเทิงระดับ Exclusive พร้อม Private Room
ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าเป็นสถานบันเทิง แสดงว่ากิจกรรมที่จะพาลูกค้าไปด้วยจะต้องเป็นแสงสี ดื่มกิน ปาร์ตี้ยามค่ำคืน มีความเป็นสีเทาเข้ามาเพราะต้องดื่มเหล้าเคล้านารีจนเป็นเรื่องธรรมดาเพื่อเปิดใจและเป็นกันเองกับลูกค้าถึงขีดสุด เป็นที่นิยมกันมากสำหรับโครงการราชการและเอกชนที่เป็นงานโปรเจคมูลค่าสูง หรือแม้แต่การเลี้ยงรับรองลูกค้าต่างชาติเพื่อให้พวกเขารู้ว่าคนไทยน้ำใจงามและ ‘มีของดี’ มากแค่ไหน 555 ตัวอย่างเช่น
– อ่างอบนวดย่านรัชดาเรตระดับ 10,000 ขึ้นไป: ลองไปค้นกูเกิ้ลเองนะครับ
– Barhost ระดับสูงสำหรับสุภาพสตรีและกลุ่ม LGBTQ+
– Elite Club Thonglor: มาแทน The Crystal หรือที่สื่อไทยเรียกว่า ‘ไทยคู่ฟ้า 2’ หรูหรา พร้อม KTV ส่วนตัว สาวๆ 5 ดาว
– Sherbet Club: ตำนานเล้าจน์ระดับเทพตั้งแต่รุ่น Baby Boom (นายผมเคยพาไปครับ) ย่านเอกมัย
– Czech Club: อยู่ใกล้ๆ กลับเชอร์เบท
– The PIMP Bangkok: ตำนานอีกเช่นกัน
จริงๆ ยังมีอีกเยอะเลยที่ไม่ได้กล่าวถึง ลองไปทำการบ้านดูนะครับ ส่วนใหญ่ดูง่ายๆ คือราคาค่าใช้จ่ายกับความหรูหรา ความสวยของน้องๆ เป็นหลัก
4. ร้านอาหารระดับ Private Fine Dining
เป็นอีกหนึ่งสถานที่ ‘สะอาดๆ’ แถมยังอิ่มท้อง รสชาติเยี่ยม ไวน์รสเลิศ และควรมีห้อง Private Room ที่ต้องจองเพื่อรักษาสิทธิ์ก่อนโดยเฉพาะ ยิ่งทางร้านมีสตอรี่เด็ดๆ ก็ยิ่งสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าได้พอสมควร ร้านระดับนี้มีตั้งแต่อาหารไทย อิตาเลี่ยน ญี่ปุ่น จีน ฝรั่ง ฯลฯ ให้เลือกตามรสนิยมของลูกค้าได้เลย สถานที่น่าสนใจ มีดังนี้
– R-HAAN: อาหารไทยระดับมิชลิน
– Sorn: อาหารไทยระดับมิชลินเช่นกัน
– Mezzaluna: ร้านเทพบน Lebua State Tower ที่โคตรได้ฟีลในหนัง The Hangover
– Sushi Masato: ร้านญี่ปุ่นระดับมิชลิน มีห้องส่วนตัวด้วย
เรื่องร้านอาหารจริงๆ มีเป็นโหลเลยล่ะครับ ลองดูตามรสนิยมและความสะดวกในเว็ปรีวิวอาหารได้เลย
5. สถานที่ที่ทำกิจกรรมกลางแจ้งได้
กิจกรรมกลางแจ้งที่ว่าจะวนเวียนอยู่กับเรื่องกีฬาหรือสันทนาการและจำเป็นต้องมี ‘Event’ ที่น่าสนใจ ผ่อนคลาย สนุกสนาน จะเห็นภาพได้ง่ายๆ เลยคืองานแข่งกีฬา ล่องเรือ เทศกาลดนตรีที่ให้สิทธิ์ลูกค้าได้มีกิจกรรมแบบ Exclusive ตัวอย่างเช่น
– VIP Box ของสนามฟุตบอลและสนามแข่งรถชื่อดัง ทีมบางกอกกลาส บุรีรัมย์ ช้างเซอร์กิต ฯลฯ
– เรือยอร์ชพร้อมกิจกรรมล่องเรือ
– Pool Villa ระดับ 5 ดาวที่มีสุรา นารี หรือไพรเวทเชฟมาทำอาหารให้
ถ้าใครมีสถานที่ที่น่าสนใจ สามารถบอกเพิ่มเติมได้เลยครับ
Comments
0 comments
