“The Art of Closing” เมื่อการจีบหญิงคือการปิดดีลร้อยล้าน
นักขายลูกศิษย์หลายๆ คน มักถามผมว่า “พี่แพนครับ ทำไมนักขายระดับท็อปถึงดูเป็นคนมีเสน่ห์จัง จีบสาวก็เก่ง” คำตอบมันง่ายมากครับ… เพราะว่า “จิตวิทยาการขาย” กับ “ศิลปะการเข้าหาผู้หญิง” มันคือเหรียญเดียวกันแต่อยู่คนละด้านกันเพียงแค่นั้น (ฮา) ซึ่งถ้าคุณสามารถปิดดีลร้อยล้านได้ คุณก็จะสามารถจีบใครในโลกนี้ก็ได้ (แต่ไม่ได้ติดทุกคนนะ ฮา) และนี่คือ 5 บทเรียนเชิงลึกจากประสบการณ์ “จีบสาวและขายของจนมือด้าน” จากผมครับ
1. Lead Qualification: อย่า Pitch งานผิดคน อย่าจีบคนที่ไม่ใช่
นักขายระดับกระจอกมักจะวิ่งเข้าหาลูกค้าทุกคนที่ขวางหน้า ที่สำคัญคือไม่ตรงสเปคแถม “มือไม่ถึง” สุดท้ายก็เสียเวลา แต่เซลล์ร้อยล้านจะเลือก “สนามรบที่ตัวเองมีแต้มต่อ” ดังนี้
– ในการสนามขาย: ถ้าลูกค้าไม่มี Budget หรือไม่มี Pain Point ไม่ตรงสเปค หรือความสามารถเราไม่ถึง สิ่งที่คุณแก้ได้คือ “การถอยครับ”
– ในการจีบสาว: ถ้าไลฟ์สไตล์ต่างกันคนละขั้ว คุณชอบเล่นเกมออนไลน์ไปวันๆ แต่ผู้หญิงเขาชอบเข้ายิมทุกวัน… สิ่งนี้จะทำให้คุณ “เสียเวลาครับ” นอกจากนี้ยังมีพวก “ศีลที่ต้องเสมอกัน” การศึกษา ฐานะ ชีวิตความเป็นอยู่ ฯลฯ ถ้าแตกต่างกันมากก็ยิ่งไม่ใช่ แต่ถ้าคล้ายคลึงกันมากก็หมายถึง “ตรงสเปค” นั่นเองครับ
– บทเรียนคือ คัดเกรด Lead ให้ตรงสเปคเป็น คุณจะได้ไม่ต้องเสียเวลาทำ Proposal หรือจีบสาวที่ชาตินี้ก็ไม่มีทางจีบติดครับ
2. Prospecting with Power: เปลือกต้องเนี้ยบ เนื้อในต้องเเน่น
ทุกครั้งที่พึ่งเจอหน้าลูกค้าครั้งแรก ก่อนลูกค้าจะดูคุณสมบัติสินค้า พวกเขาจะดู “หน้าตาคนขาย” รวมถึงบุคลิกภาพที่น่าเชื่อถือก่อนเสมอครับ
– ในสนามการขาย: ถ้าคุณเป็นนักขายหรือนักธุรกิจแล้วขับ Mercedes-Benz E220d ถือกระเป๋าหลุยส์ วิตตอง Graphite เป็นกระเป๋าทำงานซึ่งไม่ใช่เพื่ออวดรวย แต่เพื่อเป็นการบอกลูกค้าว่า “ผมเป็นมืออาชีพที่ดูแลตัวเองได้” ความน่าเชื่อถือย่อมสูงกว่าเหล่านักขายธรรมดาๆ เป็นร้อยเท่า
– ในการจีบสาว: ต่อให้ฝ่ามือคุณจะด้านจากการเล่นเวท ตีกอล์ฟจนตัวดำ เข้ายิมหนักแค่ไหนก็ได้ แต่เล็บมือคุณต้องสะอาด ตัวต้องหอม และบุคลิกต้องนิ่ง ไปจีบสาวก็ต้องแต่งตัวดีมีกาละเทศะ สิ่งเหล่านี้ผู้หญิงเขาจะสนใจคุณมากกว่าแค่ใส่เสื้อบอลแล้วไปจีบสาวในห้างหรูแบบไม่มีกาละเทศะครับ
– บทเรียนคือ ถ้าตัวคุณมีเปลือกที่ดี สิ่งนี่จะเป็น Packaging ขั้นเทพ ซึ่งก็คือใบเบิกทางที่ทำให้คุณไม่ต้องตะโกนพรีเซนต์ตัวเอง บารมีที่แผ่ออกมาจะทำหน้าที่ปิดการขายให้คุณไปแล้ว 50% ไม่ว่าจะเป็นการขายหรือการจีบสาวครับ
3. The Discovery Call: เลิกพูดเรื่องตัวเอง แล้วเริ่ม “ขุด” หาความต้องการหรือปัญหาที่ซ่อนอยู่
ความผิดพลาดที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของการขายและการจีบสาว คือการเอาแต่ “ขิง” ว่าตัวเองดีหรือเจ๋งแค่ไหน
– ในสนามการขาย: ยิ่งคุณรู้ความเจ็บปวด (Pain Point) หรือปัญหาของลูกค้ามากเท่าไหร่ คุณยิ่งคุมเกมได้มากขึ้นเท่านั้น ที่สำคัญคือพรีเซนต์สิ่งที่ตอบโจทย์ไม่กี่คำก็จะทำให้ปิดการขายได้
– ในการจีบสาว: เดทแรกไม่ใช่การโชว์ใบประกาศนียบัตรว่ากูเจ๋ง กูเก่ง กูเทพ ติดแอ็ค (ฮา) แต่คือการ “ฟัง” ให้มากที่สุด ด้วยการถามคำถามที่ฉลาด น่าสนใจ มีบริบทร่วมกันและมีกาละเทศะเพื่อให้ผู้หญิงเผยตัวตนออกมาและไว้วางใจคุณมากยิ่งขึ้น (ทักษะ SPIN Selling ขั้นสูง)
– บทเรียนคือ: ใครที่เป็นฝ่ายตอบคำถามบ่อยกว่า พูดมากกว่า คือคนที่เสียเปรียบอยู่วันยังค่ำ โดยเฉพาะการขายที่ถ้าลูกค้าพูดมากขึ้นเท่าไหร่ก็ยิ่งตกหลุมพรางคุณมากขึ้นเท่านั้น การจีบสาวก็เหมือนกัน ผู้หญิงพูดมากหรือยอมเล่าเรื่องส่วนตัวให้ฟังแบบหมดเปลือก คุณก็ยิ่งรู้สึกว่าเขาไว้วางใจเรามาก ดังนั้นใครที่เป็นฝ่ายถามบ่อยและฉลาด คือ “คนคุมเกม” อยู่เสมอครับ
4. Handling Objections: ความนิ่งสยบแรงต้าน
แน่นอนว่าทั้งการขายและการจีบสาว ไม่มีทางที่จะมี “Winrate 100%” ดังนั้นวินาทีที่โดนปฏิเสธ คือวินาทีที่วัดว่าคุณคือ “จ่าฝูง” หรือ “ลูกกระจ๊อก” ครับ คนเรามักกลัวการปฎิเสธจนทำให้ลนลาน ไม่นิ่งพอ ผลก็คือขาดความน่าเชื่อถืออย่างรุนแรง
– ในการสนามขาย: ข้อโต้แย้งยอดฮิต เช่น ลูกค้าบอกว่าราคา “แพงไป” แถมขู่ว่าจะไม่ซื้อ จงอย่าพึ่งรีบลดราคา แต่ให้นิ่งแล้วถามหาคุณค่าหรืออธิบายที่มาที่ไปว่าทำไมราคาถึงแพง พูดง่ายๆ ก็คือเมื่อไหร่ที่เจอข้อโต้แย้ง คุณจะต้องนิ่งและประเมินที่มาที่ไป พร้อมกับนำเสนอเหตุผลที่ชาญฉลาดจนสามารถขจัดข้อโต้แย้งได้ครับ ต่อให้ลดไม่ได้แล้วและลูกค้าไม่ซื้อจริง คุณก็นิ่งพอที่จะกล่าวคำขอบคุณและไปใช้เวลากับลูกค้ารายใหม่ที่มีคุณค่ามากกว่าแบบเท่ห์ๆ ครับ
– ในการจีบสาว: ผู้หญิงบอกว่า “ยังไม่ว่าง” หรือไม่สะดวก จงอย่าตื้อจนดูน่ารำคาญ แค่นิ่ง สบตา กล่าวคำอำลาซักเล็กน้อย จากนั้นก็ไปทำงานหรือทำหน้าที่ของคุณต่อแบบเท่ห์ๆ คุณไม่ได้ยึดติดหรือเสี้ยนอยากได้ผู้หญิงและกลัวว่าจะเสียเธอไปขนาดนั้น ต่อให้โดนตอกหน้าว่า “อย่ามายุ่งกับฉัน” คุณก็เพียงแค่ผิดหวังนิดหน่อย เดินจากไปทำหน้าที่ของคุณ แล้วไปจีบสาวคนใหม่โดยที่คุณพัฒนามากกว่าเดิม
– บทเรียนคือ: ความนิ่งของคุณในนาทีที่โดนปฏิเสธ หรือกล้าที่จะถอนตัว จะสร้างความสงสัยและเสน่ห์ที่เรียกว่า “High Value Man” จนลูกค้าหรือผู้หญิงในบางสถานการณ์ต้องเป็นฝ่ายเดินกลับมาหาคุณเอง เชื่อเถอะว่ามือเก๋าต้องเคยเจอเวลาลูกค้าปฎิเสธ ผ่านไปซักพักก็กลับมาคุยกับเรา หรือผู้หญิงบางคนเห็นว่าเราท็อปฟอร์ม รวยขึ้น ดูดีขึ้น งานการดีขึ้น เผลอๆ พวกเธอกลับเป็นฝ่ายทักคุณมาด้วยซ้ำครับ
5. The Closing: กล้าขอในสิ่งที่คู่ควร
นักขายหลายคนเก่งทุกอย่าง บุคลิกดี นำเสนอดี ความรู้แน่น แต่ดันตายตอนจบคือ “ไม่กล้าขอ PO” หรือบอกให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อ
– ในสนามการขาย: พรีเซนต์จบแล้ว ตอบโจทย์ ขจัดข้อโต้แย้งได้ดี โปรเจคมีความคืบหน้าต่อเนื่อง ผลทดสอบออกมาดี ทำดีแล้วก็ต้องกล้าถามว่า “พี่จะเซ็นเริ่มงานกับผมวันไหนดีครับ”
– ในการจีบสาว: ได้เบอร์หรือไอจี คุยมาตั้งนาน ความสัมพันธ์ต้องคืบหน้าด้วยการขอไปเดท และเดทหลายๆ ครั้ง ไล่ระดับการสัมผัส จับมือ จูบ xxx จนกลายเป็น Lover แบบชัดเจน ซึ่งคุณต้องประเมินจากความรู้สึกด้วยตนเอง ทุ่มเททั้งเวลา ประสบการณ์ ก็ต้องได้ในสิ่งที่ควรได้ครับ
– บทเรียนคือ สิ่งที่ทำมาจะไร้ค่าถ้าคุณไม่ปิดดีล อย่าเป็นแค่นักนำเสนอที่พูดจาเก่ง แต่จงเป็น “นักปิดดีล” ที่ทำให้เขาตัดสินใจทำสัญญากับคุณให้ได้ครับ
ไม่ว่าจะเป็นการขายหรือความรัก “วินัยและการวางตัว” คือคำตอบ ถ้าคุณมีวินัย คุณจะมีพลังที่จะกำความสำเร็จไว้ในมือได้ทุกอย่าง “มือต้องสาก (จากการทำงานหนัก) ยอดต้องถึง และบารมีต้องชัด… แล้วโลกนี้จะเป็นของคุณครับ”
Comments
0 comments
