ความสำคัญของความซื่อสัตย์ด้านการขายที่คุณต้องมี
บทความนี้หลายๆ คนคงขอข้ามไปอ่านทีหลังเพราะว่าคุณเองน่าจะมีความซื่อสัตย์และจริยธรรมอันดีงามอยู่แล้ว (ฮา) แต่ถึงอย่างไรก็ตาม เรื่องนี้มันมีอะไรมากไปกว่าการทำความดีหรือเป็นคนที่ซื่อตรงแน่นอนครับ
ลองมาดูความสำคัญของความซื่อสัตย์และจริยธรรมด้านการขายที่คุณต้องรู้และต้องมีกันเลยครับ
1. คุณต้องมีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับสินค้าและบริการ
เป็นไปไม่ได้ที่คุณจะเป็นนักขายที่ซื่อสัตย์ถ้ายังมีความสงสัยเกี่ยวกับสินค้าและบริการที่คุณขาย อารมณ์ประมาณคุณรู้อยู่แล้วว่าสินค้ามีคุณสมบัติที่ด้อยคุณภาพ หรือมีบริการหลังการขายที่ห่วยแตก ถ้าเป็นอย่างนี้ก็ไร้ความซื่อสัตย์ในการขายอย่างแน่นอน จงมีความจริงใจในการให้ข้อมูลอย่างตรงไปตรงมากับลูกค้า อันไหนทำได้ก็บอกว่าได้ แต่อันไหนทำไม่ได้ก็บอกว่าทำไม่ได้จะดีกว่าครับ ลูกค้าย่อมรับได้อย่างแน่นอนถ้าคุณพูดความจริง
2. ไม่บลัฟคู่แข่งและใช้เหตุผลในการอธิบายลูกค้าเวลาโดนเปรียบเทียบ
นักขายที่แย่คือนักขายที่ชอบหัวร้อนเวลาลูกค้าเอาคู่แข่งมาเป็นข้อโต้แย้ง นี่คือจุดอ่อนของนักขายที่พูดเก่งและพูดมาก บางทีพูดสนุกปากแล้วก็เผลอบลัฟสินค้าและบริการของคู่แข่งว่าไม่ดีเท่าคุณอย่างโน้นอย่างนี้ จงเลิกทำและระวังตัวเสมอนะครับ เพราะว่ามันไม่ได้ทำให้คุณดูดีขึ้นเลยแม้แต่น้อย บางทีลูกค้าพูดเกี่ยวกับคู่แข่งก็เพราะว่าพวกเขาชื่นชอบสินค้าของคู่แข่งเช่นกัน วิธีการอธิบายเวลาโดนลูกค้าบลัฟเรื่องคู่แข่งก็คือการให้เกียรติคู่แข่งอย่างจริงใจ แต่อันไหนที่คุณเด่นกว่าก็บอกไปตรงๆ ว่าเด่นกว่าโดยมีข้อมูลประกอบเพิ่มเติมนั่นเองครับ
3. ขอบคุณลูกค้าที่อุตส่าห์ใช้เวลากับคุณเสมอ
ลูกค้าคือบุคคลที่เอาเงินมาให้คุณ ไม่ว่าพวกเขาจะมีนิสัยอย่างไร บุคลิกเป็นแบบไหน หรือแม้กระทั่งพวกเขาพูดจาไม่ดีกับคุณ จงมองโลกในแง่ดีเสมอและบอกกับตัวเองว่าพวกเขาอุตส่าห์คุยกับคุณ ถ้าพวกเขาไม่ซื้อก็เป็นเพราะพวกเขายังไม่พอใจหรือประทับใจนั่นเอง แค่นี้ก็เพียงพอแล้วล่ะครับ
4. แสดงให้เห็นถึงความจริงใจแม้กระทั่งตอนแพ้ดีล
ถ้าลูกค้าปฎิเสธและไม่ซื้อ จงอย่าร้องไห้ฟูมฟายหรือเอาแต่ถามลูกค้ากลับว่าทำไมถึงไม่ซื้อคุณ จงกล่าวขอบคุณและสอบถามเกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการให้บริการโอกาสถัดไป รับรองว่าลูกค้าจะจดจำคุณและเมื่อถึงเวลาซื้อสินค้าใหม่ พวกเขาจะมีโอกาสซื้อคุณอีกครั้งอย่างแน่นอน
Comments
0 comments