4 เทคนิคการใช้ภาษากายที่ทำให้คุณกลายเป็นนักขายที่ดีขึ้น

มีงานวิจัยจากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ลอสแอนเจลิส (University of California, Los Angeles:UCLA) โดยดอกเตอร์ อัลเบิร์ต เมราห์เบียน (Albert Mehrabian) ที่ได้ทำการวิจัยพฤติกรรมของมนุษย์ พบว่ามี 3 องค์ประกอบหลักที่ทำให้คู่สนทนาเกิดการรับรู้และจดจำข้อความหรือการสื่อสารจากฝ่ายตรงข้ามที่ส่งผลมากที่สุด โดยได้เสนอกฎ “93-7” ซึ่งมีองค์ประกอบดังนี้

  • 7% คือคำพูด

  • 38% คือน้ำเสียง

  • 55% คือภาษากาย

ซึ่งผมเห็นด้วยทุกประการ ผมลองให้คุณถามตัวเองนะครับว่าเคยรับสายโอเปอเรเตอร์ของค่ายมือถือกันบ้างรึปล่าวครับ เห็นด้วยกับผมมั้ยครับว่าสิ่งที่ทำให้คุณเกิดการรับรู้ที่ดีและเกิดความรู้สึกดีๆ กับพวกเขาคือ “น้ำเสียง” โดยเฉพาะน้ำเสียงสุภาพและน่ารักๆ เล็กๆ ใสๆ (ทันใดนั้นคุณจินตนาการหน้าโอเปอเรเตอร์เลยว่าต้องน่ารักแหงๆ ฮา) เก็ตไหมครับว่าแค่น้ำเสียงก็กินขาด ทำให้คุณเกิดความรู้สึกดีๆ ทั้งๆ ที่ไม่ได้เจอหน้าและจำสิ่งที่พูดไม่ได้ด้วยซ้ำ

น้ำเสียงและภาษากายคือสิ่งที่สำคัญมากกว่าคำพูดที่คุณใช้สื่อสารเสียอีก ต่อให้สคริปดีแค่ไหน แต่น้ำเสียงไม่ดี โมโนโทนเกินไป แหลมเกินไป ห้าวเกินไป ห้วนเกินไป แถมภาษากายยังไม่ได้เรื่อง หน้าบึ้งตึง ขาดรอยยิ้ม ล้วงแคะแกะเกา เรื่องเหล่านี้จะส่งผลให้คุณขาด “ความน่าเชื่อถือ” โดยทันที ต่อให้สินค้าและบริการของคุณเจ๋งแค่ไหนก็ตาม สิ่งที่คุณเตรียมมาจะไร้ผลทันทีถ้าองค์ประกอบ 93% ของคุณนั้นไม่ได้เรื่อง

ภาษากายมีสัดส่วนความสำคัญมากที่สุดถึง 55% ดังนั้นจึงบอกได้ว่าทำไมนักธุรกิจหรือนักขายที่ประสบความสำเร็จ พวกเขาจะมาพร้อมกับบุคลิกที่ดูดี วางตัวถูกกาละเทศะ เลือกใช้สินค้าที่ส่งเสริมบุคลิกภาพ มีการใช้มือ หน้าตา และท่าทางที่เหมาะสม สิ่งเหล่านี้แหละครับที่คุณต้องฝึกฝนตัวเองอยู่ตลอดเวลา

นี่คือสิ่งที่ใช้แยกแยะนักขายธรรมดากับนักขายขั้นเทพ ไม่เชื่อคุณลองดูบุคลิกนักขายตัวท็อปหรือเจ้าของบริษัท เทียบกับนักขายที่อยู่มานานและไม่ค่อยประสบความสำเร็จดูนะครับ เวลาอยู่ต่อหน้าลูกค้าจะเห็นชัดเลย ความมั่นใจไม่ค่อยมี เน้นเฮฮา สนุกสนาน อ้อร้อมากเกินพอดี ขาดความนิ่ง จึงทำให้เสียอำนาจการเจรจาต่อรองและขาดความน่าเชื่อถือ

มาดูวิธีใช้ภาษากายที่เหมาะสมทั้ง 4 รูปแบบกันเลยครับ

1. จงรักษาท่าทางของคุณให้มีความนิ่งอยู่เสมอ

ความนิ่งที่ว่านี่นับตั้งแต่การยกมือไหว้สวัสดีลูกค้าที่ต้องมีระดับและองศาที่ถูกต้อง การมอบนามบัตรที่ต้องรักษาระดับของแขน ท่ายืน และสายตา ท่านั่งที่ส่งเสริมบุคลิกภาพด้วยการนั่งหลังตรง เบนหลังเล็กน้อย พยายามยืดคอให้ดูสง่าผ่าเผย การวางมือไม้ระหว่างการสนทนา การใช้สายตาสบตาลูกค้าอยู่เป็นระยะๆ แบบเป็นธรรมชาติ คุณสามารถฝึกฝนบุคลิกของตัวเองหน้ากระจกวันละ 5 นาที ลองทำดูสิครับ ตั้งแต่การยืน นั่ง การใช้ภาษามือ การมอบนามบัตร ฯลฯ ลองฝึกจนได้บุคลิกท่าทางที่ดีและเป็นตัวของตัวเองมากที่สุด นี่คือการลงทุนกับตัวเองที่ไม่เสียเงินแม้แต่บาทเดียว สิ่งเหล่านี้จะส่งผลต่อบุคลิกการงานและความมีเสน่ห์ของคุณอย่างมหาศาล ผมทำมาแล้วครับ

2. จงฝึกทักษะการใช้ภาษามือ

ภาษามือเป็นทักษะในการชี้นำลูกค้าให้เกิดการโฟกัสและเพิ่มความสนใจให้กับการนำเสนอของคุณ ลองดูการพูดของเหล่าวิทยากรมืออาชีพอย่างรายการ “Ted Talk” ที่นำคนเทพๆ วงการต่างๆ มาพูดให้ความรู้กันดูนะครับ พวกเขาใช้ “ภาษามือ” ประกอบการพูดได้อย่างน่าทึ่ง คุณสามารถนำเรื่องนี้มาประยุกต์กับการนำเสนอของตัวเองด้วยการฝึกหน้ากระจก วันละ 5 นาที ด้วยการเลียนแบบนักพูดของ Ted Talk ตามด้านล่างนี้เลยครับ สิบปากว่า ไม่เท่าตาเห็น ขอบอกเลยว่าเรื่องนี้ถึงกับนำมาพูดในรายการ Ted Talk เลย เพราะมันสำคัญมากๆ ยังไงล่ะครับ

วีดีโอการใช้ภาษากายสื่อสารต่อหน้าผู้ฟังที่ยอดเยี่ยม 

3. จงฝึกการแสดงสีหน้าผ่านหน้าตา

ใบหน้าและการแสดงสีหน้าคือที่สุดของการทำให้อีกฝ่ายประทับใจ ต่อให้คุณจะเกิดมาหน้าตาแย่ก็ตาม คุณจะกลายเป็นบุคคลที่ดูดีทันที ถ้าคุณเกิดมาหน้าตาหล่อสวย แต่แสดงสีหน้าไม่ได้เรื่อง ลูกค้าจะไม่ชอบขี้หน้าคุณ คุ้นๆ กับคำพูดว่า “สวยแล้วหยิ่ง” กันมั้ยครับ (ฮา) การแสดงสีหน้าที่ดีที่ง่ายที่สุดคือ “สีหน้าที่แฝงด้วยรอยยิ้ม” แต่ไม่ได้ยิ้มมากเกินไปเหมือนคนบ้านะครับ ห้ามชักสีหน้าหรือทำหน้าบึ้งตึงไม่พอใจเด็ดขาด สายตาต้องดี มีจุดโฟกัส ไม่ใช้มองบนมองล่าง ล่อกแล่กจนเสียบุคลิก เทคนิคอีกอย่างหนึ่งคือการมองลูกค้าโดยโฟกัสไปที่ “หว่างคิ้ว” ของลูกค้า จะทำให้คุณไม่ได้จ้องตากับลูกค้าโดยตรง ซึ่งแลดู “โรคจิต” เกินไป แถมยังทำให้ลูกค้ารู้สึกอึดอัดอีกด้วย

4. จงพูดจาให้ชัดถ้อยชัดคำอยู่เสมอ

การพูดคือสิ่งที่คุณถูกสอนกันมาตั้งแต่แบเบาะ ใครที่ตั้งใจเรียนภาษาไทยโดยเฉพาะการพูด การอ่านบทร้อยกรอง ร้อยแก้ว การนำเสนอหน้าชั้นเรียนบ่อยๆ คุณคงได้ทักษะการพูดภาษาไทยที่ยอดเยี่ยมมิใช่น้อย แต่ถ้าคุณพลาดเรื่องนี้ จงฝึกฝนตัวเองในระหว่างที่อยู่กับลูกค้าจริง ตอนคุณพูดก็โฟกัสตัวเองไปด้วยว่าคุณจะพูดให้ชัดขึ้น เคลียร์ขึ้น เริ่มจากการพูดด้วยน้ำเสียงที่ดี ชัดเจน เน้นคำควบกล้ำให้ถูกต้อง น้ำเสียงคือสิ่งที่สำคัญที่สุด ถ้าคุณเป็นผู้ชาย จงพยายามใช้น้ำเสียงที่ทุ้มแต่ไม่โมโนโทน เน้นเสียงสูงเสียงต่ำบ้าง ส่วนคุณผู้หญิงก็เช่นกัน คนที่น้ำเสียงห้าว ทุ้ม ก็ควรควบคุมเรื่องนี้ให้ดี สิ่งเหล่านี้จะทำให้การสื่อสารและการนำเสนอของคุณทรงพลังมากขึ้น

จงฝึกฝนเรื่องบุคลิกภาพส่วนตัวด้วยตนเองทุกวันนะครับ พยายามหาคลิปยูทูปมาดู ฝึกตัวเองหน้ากระจกวันละ 5 นาที นี่คือทักษะการพัฒนาตัวเองที่สุดยอดที่สุดสำหรับนักขายเลยล่ะครับ

แรงบันดาลใจเพิ่มเติม: http://inc-asean.com/grow/4-body-language-tricks-can-use-improve-sales/

Leave your vote

Comments

0 comments

Similar Posts

ใส่ความเห็น