ใครที่รู้ตัวว่าแบ่งเวลาไม่ได้เรื่อง…จงฟังทางนี้

“การบริหารเวลา” เป็นคำที่ผมเชื่อว่าคุณคงได้แบบหลอกหลอนมาตลอด กูรูที่ประสบความสำเร็จหลายคนมักพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า 

“คุณควรบริหารเวลาชีวิตให้ดี แล้วคุณจะประสบความสำเร็จ”

ทุกคนมีเวลาคือ 24 ชั่วโมงเท่ากัน มีเวลาทำงานมาตรฐานเฉลี่ยวันละ 8 ชั่วโมงเหมือนกัน แต่ทำไมสิ่งแต่ละคนทำออกมาถึงได้แตกต่างกันเหลือเกิน ลองสังเกตเพื่อนนักขายทีมเดียวกับคุณดูนะครับ จะต้องมีประเภท A กับ B อยู่แน่ๆ

นักขาย A: งานดูยุ่งตลอดเวลา หัวฟูทุกเย็น ทำงานล่วงเวลา (โดยไม่ได้เงินเพิ่ม) เป็นประจำ กลับบ้านช่วงค่ำๆ แทบไม่มีเวลาออกกำลังกายเลย
นักขาย B: งานยุ่งเฉพาะช่วงเวลางาน พบลูกค้าได้หลายนัดต่อวัน กลับบ้านตรงเวลาเสมอ ไม่ค่อยมีงานค้าง มีเวลาออกกำลังกาย มีเวลาไปเจอหน้าแฟนเป็นประจำทุกวัน

คำถามคือคุณอยากเป็นแบบนักขาย A หรือนักขาย B ครับ? คงเลือกได้ไม่ยากนะครับ

“การบริหารเวลา” เป็นหัวใจสำคัญที่จะทำให้คุณเป็นนักขายที่ประสบความสำเร็จ มีค่าคอมฯ มหาศาล แถมยังมีเวลาเอาไปทำยังอื่นโดยเฉพาะงานเสริม งานอดิเรก การออกกำลังกาย การใช้ชีวิตกับคนที่คุณรักได้อย่างมีประสิทธิภาพ มาฟังวิธีกันเลยครับ

1) จัดลำดับความสำคัญของงาน

ชัดเจนในตัวของมันเองครับว่าคุณควรเรียงลำดับความสำคัญของงานให้ดี ควรรู้ว่างานไหนสำคัญที่สุดและต้องรีบเคลียร์ทันที ผมแบ่งให้คร่าวๆ ดังนี้

สำคัญมาก = งานเกี่ยวกับลูกค้า ใกล้ถึงเส้นตาย
สำคัญปานกลาง = งานที่เกี่ยวกับลูกค้าแต่ยังพอมีเวลาให้ทำงาน
สำคัญน้อย = งานที่เกี่ยวกับคุณเช่นงานแอดมิน งานเอกสารฯ

สังเกตง่ายๆ ว่าในฐานะนักขาย คุณควรให้ความสำคัญกับงานของลูกค้ามากที่สุด อันไหนด่วนเช่นใกล้ถึงช่วงยื่นข้อเสนอ (Proposal) ช่วงประมูลงาน (Bidding) ก็ควรเคลียร์ให้จบโดยเร็วที่สุด จากนั้นค่อยทำงานที่สำคัญรองลงมา เพียงแค่นี้ก็จะทำให้การทำงานของคุณรวดเร็วและง่ายขึ้นเป็นกอง

2) จัดตารางเวลานัดหมายและลงมือทำตามอย่างมีวินัย

เชื่อว่าชายไทยเกือบทุกคนเคยเรียน รด. หรือเคยเกณฑ์ทหาร คุณต้องเคยถูกควบคุมโดยตารางเวลาอย่างเคร่งครัดตั้งแต่ 6 โมงเช้า คุณเคยทำได้ แล้วทำไมในชีวิตประจำวันคุณถึงทำไม่ได้ล่ะครับ?

ข้อนี้ผมจะให้คำแนะนำเป็นสูตรไปเลยในฐานะนักขายด้วยกัน แล้วคุณจะพบว่าสูตรของผมทำให้ชีวิตคุณง่ายขึ้นมากเลย ลองเอาไปปรับใช้ดูนะครับ

ตารางเวลาสำหรับการทำนัดลูกค้าใหม่และเก่าให้ได้วันละ 4-5 นัด สัปดาห์ละ 4 วัน คุณจะมีค่าเฉลี่ย 80 นัดต่อเดือน ตีกลมๆ 50-50 รวมลูกค้าใหม่และเก่าจะได้นัดละ 40 นัดต่อเดือนสำหรับลูกค้าใหม่ ปีนึงก็ >400 นัด (ไปป์ไลน์ใหม่) ต่อปี (หักวันหยุดแล้ว)

ถ้าลูกค้าใหม่ 1 นัด เราสร้างไปป์ไลน์ให้ได้นัดละ 1 ล้าน ปีนึงคุณจะมีตัวเลข 400 ล้านฯ รอทันที ถ้าคุณปิดงานได้เพียง 25% คุณจะได้รับตัวเลขยอดขาย 100 ล้านฯ บาท เห็นมั้ยครับว่านักขายควรมองอะไรให้เป็นตัวเลขเสมอแล้วคุณจะเห็นความเป็นไปได้ที่ซ่อนอยู่ ตารางเวลาพวกนี้จะทำให้คุณไปเป็นนักขายของ Google, Amazon, Facebook, Apple, etc. ได้เลย ฝรั่งจะชอบมากๆ

ตัวอย่างตารางเวลานัดในแต่ละวัน

นัดแรก 9.00-10.00น.
นัดที่สอง 11.00-12.00น.
นัดที่สาม 13.00-14.00น.
นัดที่สี่ 15.00-16.00น.
นัดที่ห้า 17.00-18.00น.

โดยบางวันอาจจะทำนัดแค่ 4 นัดก็พอ เพื่อใช้เวลาว่าง 1 ชั่วโมงของตารางวินัยของเราเป็นเวลาเคลียร์งานเอกสาร เช่น ใบเสนอราคา Proposal ประสานงานกับทีม เป็นต้น

……(ความลับคือถ้าคุณนัดได้สูงเกินค่าเฉลี่ย หรือนำเสนอได้เร็ว จบภายใน 30 นาที คุณยังสามารถทำงานเสริมแบบ B2B ขายอย่างอื่นที่คุณเป็นนายหน้าเพิ่มเงินได้เพิ่มอีกต่างหาก)……

ไม่จำเป็นต้องได้ตามสูตรนี้ทั้งหมดนะครับ เข้าใจว่าแต่ละอุตสาหกรรมนั้นไม่เหมือนกัน ข้อดีของตารางเวลานัดนี้คือ

1. เป็นการควบคุมเวลาในแต่ละนัดไม่ให้เกินนัดละ 30 นาที-1 ชั่วโมง ซึ่งจะทำให้คุณคิดเป็นระบบว่าถ้ามีเวลาแค่ 1 ชั่วโมง คุณจะทำให้นัดในเวลาที่จำกัดมีประสิทธิภาพสูงสุดได้อย่างไร
2. เป็นสูตรการเพิ่มค่าเฉลี่ยในการหาไปป์ไลน์ (Pipeline) ซึ่งทำให้คุณเหนือคู่แข่งทันที เพราะคนส่วนใหญ่ทำนัดได้เพียง 2-3 นัดต่อวัน คุณทำได้ 5 นัดก็แสดงว่าคุณเหนือกว่าคนอื่น 2 เท่าทันที
3. ในกรุงเทพฯ มีการจราจรที่ติดขัด ก่อนจัดตารางเวลานัดควรศึกษาเส้นทางลูกค้าให้อยู่ในละแวกเดียวกันก่อน จะช่วยลดเวลาเดินทางลงได้มาก

3) จงพูดปฎิเสธคนอื่นให้เป็น

จงกล้าตอบปฎิเสธว่า “ไม่” ถ้าคุณรู้สึกว่ามีใครกำลังเข้ามา “ปล้น” เวลาของคุณไปกับสิ่งที่ไม่ค่อยสำคัญ โดยเฉพาะหลังเวลาเลิกงาน เช่น กินเหล้า เที่ยว ฯลฯ ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนร่วมงาน แฟน หัวหน้า ลูกค้า จงหนักแน่นและไม่ต้องกลัวว่าอีกฝ่ายจะโกรธหรือเกลียดคุณ

ในกรณีที่คุณกลัวหัวหน้าจะเกลียดคุณ อาชีพนักขายมีความโชคดีอยู่อย่างนึงคือถ้ากิจกรรมการขายของคุณดีมาก จากการทำตารางนัดในข้อ 2) และคุณมีไปป์ไลน์กับยอดขายเข้ามาอย่างสม่ำเสมอ หัวหน้าจะไม่ชอบคุณยากมากครับ เผลอๆ คุณจะกลายเป็นลูกรักตัวทำเงินที่ขออะไรก็มักจะได้รับความช่วยเหลือซะอีก (ฮา..)

4) หลังเวลาเลิกงาน ควรเลิกทำงานทันที

นี่เป็นยุค 4G ที่หลายๆ บริษัทฯ มีการปรับตัวและเอื้อประโยชน์ให้พนักงานเลิกงานให้ตรงเวลา บางบริษัทฯ ปิดไฟไล่พนักงานไปเลยเพราะอยู่ทำงานไปก็เปลืองไฟ แถมยังแสดงถึงประสิทธิภาพการทำงานที่ไม่ดีเพราะการที่คุณยังนั่งทำงานอยู่แสดงว่าคุณแบ่งเวลาไม่เป็น ทำงานเชื่องช้า ก็เป็นได้ (แต่บางที่งานหนักจริง) ถ้าคุณอยู่ในวัฒนธรรมองค์กรแบบนี้ก็นับว่าเป็นโชคของคุณแล้วครับ

แต่ก็ยังมีอีกหลายแห่งที่มักจะมีดราม่าเรื่องนี้ โดยเฉพาะในพันทิปที่มีคนออกมาบ่นเป็นประจำ ผมก็ยังยืนยันคำเดิมครับว่าอาชีพนักขายสามารถแบ่งเวลาได้ คุณลองคิดดูดีๆ ว่าเพราะอะไรคุณถึงทำงานไม่เสร็จ ถ้าเป็นเพราะงานเอกสาร Proposal คุณควรให้หัวหน้ามีทีม Sales-Coordinator คอยช่วยเรื่องนี้ อย่างน้อยก็ขอให้แบ่งเบาภาระตรงนี้ให้มากที่สุด เพราะจริงๆ แล้วไม่ใช่หน้าทีของคุณเลย ที่สำคัญคือไม่ได้ชี้ขาดผลแพ้ชนะโดยตรง

สิ่งที่คุณควรทำคือเคลียร์งานให้เสร็จและเตรียมตัวเลิกงาน อาจจะออกช้าอีกซัก 15-30 นาทีเพื่อทบทวนงานค้างกับกรอกเซลล์รีพอร์ทซึ่งใช้เวลาไม่นาน เช็คอีเมลล์ลูกค้าให้เรียบร้อย เพื่อไม่ให้ดูแรงเกินไป (ฮา..) แล้วจากนั้นคุณจะเอาเวลาไปทำอย่างอื่นก็เป็นสิทธิของคุณครับ ส่วนใหญ่ถ้าคุณมีกิจกรรมการขายดี สม่ำเสมอ ตัวเลขดี คนอื่นโดยเฉพาะหัวหน้ามักจะไม่ค่อยยุ่งกับคุณอยู่แล้ว

5) แบ่งตารางเวลาหลังเลิกงานและลงมือทำอย่างมีวินัย

เราแบ่งตารางเวลาระหว่างทำงานแล้วยังไม่พอ ถ้าคุณอยากเทพกว่านั้นเช่นมีเป้าหมายในการออกกำลังกาย ทำอาชีพเสริม เรียนเพื่อเพิ่มทักษะ จงวางแผนให้เป็นระบบและมีประสิทธิภาพคล้ายๆ กับการทำงานจริง เช่น

18.00-19.00น. กินข้าวเย็น + เจอแฟน
19.00-20.00น. ออกกำลังกาย Workout หรือไปเรียนพิเศษ
20.00-21.00น. เล่นมือถือ แชต คุยกับเพือน
21.00-22.00น. ทำเพจ ทำ content การตลาดขายของออนไลน์
23.00-24.00น. อ่านหนังสือ ดูยูทู้ป ดูหนัง นอน

อะไรประมาณนี้ ซึ่งสามารถยืดหยุ่นได้ จากตัวอย่างที่ผมยกขึ้นมาเพื่อให้คุณลองออกแบบตารางเวลาหลังเลิกงานเอาไว้ด้วยครับ

การบริหารเวลาโดยวิธีการออกแบบตารางเวลาชีวิตด้วยตนเอง ฝึกควบคุมเรื่องวินัยให้เคร่งครัด ถ้าคุณเริ่มทำไปซักพัก ชีวิตคุณจะเริ่มเปลี่ยนไปได้โดยสิ้นเชิงครับเหมือนกับชีวิตของผม เชื่อผม ผมลองมาหมดแล้ว

Leave your vote

Comments

0 comments

Similar Posts

ใส่ความเห็น