เปิดเคล็ดลับ! AI ตัวไหน “เด็ดจริง” ที่นักขายต้องมี ติดตัวไว้ เพิ่มยอด 200%! (บอกหมด ไม่มีกั๊ก)

ณ ปัจจุบันนี้ถ้าใครใช้ AI ไม่เป็นก็คงไม่ต้องบอกนะครับว่าคุณกำลัง ‘ตกยุค’ โดยสมบูรณ์ นอกจากยอดขายจะไม่คืบหน้าแล้ว บรรดาคู่แข่งก็จะไล่บดขยี้คุณทิ้งแบบไม่เห็นฝุ่น เรื่องของเรื่องคือ ณ ตอนนี้ยังไม่มีใครเขียนเรื่องเกี่ยวกับ AI ที่มาประยุกต์ใช้กับงานขายได้แบบ ‘ทันที’ เพราะหลายๆ คนยังยึดติดว่า AI คุยกับคนไม่ได้ ไร้ความรู้สึก คนกับคนมีความสัมพันธ์และความรู้สึกมากกว่า แต่ผมขอบอกเลยว่าคุณกำลังคิดผิดถนัด ผมขอเลือกเครื่องมือที่ผมเอามาใช้แล้วยอดขายโตขึ้น ‘200%’ แถมยังลดเวลาการทำงานแบบโคตรๆ รู้อย่างนี้แล้วต้องลองใช้แบบผมเลย ที่นี่ครับ

1. AI Assistant อัจฉริยะที่ถามอะไรก็ตอบได้ เช่น ChatGPT, Gemini, Copilot

ผมขอถามพวกคุณนะครับว่าคุณเคยใช้ AI เอามาช่วยขายได้อย่างเต็มประสิทธิภาพหรือไม่ ถ้าคิดว่าไม่ นี่คือสิ่งที่คุณต้องลองให้มันช่วยงานคุณเดี๋ยวนี้เลยครับ

– สร้างสคริปท์ Cold-Call หรือเขียนอีเมลขั้นเทพ: วิธีคือให้คุณลองป้อนสคริปต์ว่าคุณต้องการโทรหาใคร จุดเด่นของโซลูชั่นคืออะไร พร้อมกับจุดประสงค์ว่าจะขอเปิดการขายหรือทำนัด รับรองว่าสคริปต์เนียนมากๆ แถมเปลี่ยนแค่ชื่อ เพศ และบริษัท หรือการเขียนอีเมลที่คุณไม่ต้องกังวลว่าจะเขียนภาษาอะไร แปลไทยเป็นไทย ไทยเป็นอังกฤษ เรียกได้ว่าโคตรเทพครับ

– แก้ปัญหาด้านการขายที่คุณกำลังไปไม่เป็น: ผมขอบอกเลยว่าแทบไม่ต้องถามเซลล์ร้อยล้านเลยก็ว่าได้ครับ สำหรับข้อโต้แย้งยากๆ หรือการจัดการสถานการณ์การขายที่คุณคิดไม่ตก รับรองได้เลยว่ามีคำตอบดีๆ แน่นอน ไม่เชื่อลอง input ไปว่า “วิธีรับมือลูกค้าติดคู่แข่ง ไม่เปิดใจให้เราซักที” หรือ “ลูกค้าบอกว่าเราแพงกว่าแบบไม่มีเหตุผล” ถามได้ตอบได้ยิ่งกว่าอับดุลครับ

– ทำการบ้านเกี่ยวกับลูกค้าและคู่แข่ง: ลองป้อนข้อมูลเกี่ยวกับลูกค้าที่เรากำลังเข้าพบหรือธุรกิจของคู่แข่งแล้วให้เอไอวิเคราะห์ภาพรวม คุณจะลดเวลาในการไปค้นกูเกิ้ลเป็นอย่างมาก แถมสรุปหลายๆ อย่างมาให้แล้ว

– วิเคราะห์เอกสาร pdf พวก credential ต่างๆ ได้อย่างเฉียบขาด: ลองเอาสไลด์บริษัทคุณไปให้เอไอวิเคราะห์เกี่ยวกับจุดขาย หรือหัวใจของโซลูชั่นได้แบบสั้นๆ กระชับๆ รับรองว่าคุณจะนำเสนอหรือเล่าให้ลูกค้าฟังและเข้าใจง่ายโคตรๆ

2. AI Presentation Maker ช่วยทำสไลด์เพียงแค่ป้อนคำสำคัญๆ เข้าไป เช่น Gamma

อีกหนึ่งการทำงานที่โคตรยุ่งยากสำหรับชาวเราก็คือบางแห่งต้องมานั่งทำสไลด์นำเสนอที่โคตรเหนื่อยและเปลืองเวลา แต่ยุคนี้มี AI ที่ทำสไลด์ได้เรียบร้อยแล้ว ซึ่งผมลองใช้ Gamma จากการให้ Gemini คิดไอเดียทำสไลด์ให้แล้วเอาไปวางลงใน Gamma ความมหัศจรรย์เลยบังเกิด

สร้างสไลด์จาก Text/Prompt: แค่ป้อนข้อมูลหรือแนวคิดหลัก AI ก็จะสร้างสไลด์พร้อมเนื้อหา รูปภาพ และการจัดวางที่ดูเป็นมืออาชีพให้คุณ

ปรับแต่งง่าย: AI ช่วยให้การปรับแต่งเลย์เอาต์ สี และฟอนต์เป็นเรื่องง่าย ทำให้คุณโฟกัสที่เนื้อหาได้เต็มที่ ประหยัดเวลามากๆ ซึ่งต่อให้ไม่เป้ะแบบ 100% แต่ก็ช่วยงานของเราไปได้มาก

3. AI Meeting Assistant สรุปการประชุมออนไลน์ เช่น Google Sana

เรื่องของเรื่องคือจู่ๆ กูเกิ้ล แนะนำ AI Assistant ให้ผมลองใช้ฟรีชื่อ Sana ซึ่งเวลาเราเป็นผู้จัดประชุมออนไลน์กับลูกค้า มันจะเข้ามาเองคล้ายๆ บอทและความเทพก็คือมันจะฟังเรากับลูกค้าทุกคนแล้วถอดใจความสำคัญๆ สรุปการประชุมได้ เอาไปทำ Minute of Meeting ได้ง่ายๆ เพียงแค่ปลายนิ้ว

ถอดเสียงและสรุปการประชุม: AI จะถอดเสียงการโทรหรือประชุมเป็นข้อความ และสรุปประเด็นสำคัญ ข้อตกลง และ Next Step

วิเคราะห์บทสนทนา: AI จะวิเคราะห์ว่าคำพูดหรือประโยคใดที่ลูกค้าตอบสนองดี อะไรคือ Pain Points ที่ถูกพูดถึงบ่อยๆ หรือข้อโต้แย้งที่เกิดขึ้นบ่อยที่สุด

– สรุปเป็นอีเมล์และระบุหัวข้อเป็น Bullet: ความดีงามคือ AI จัดเรียงข้อมูลให้อีกแบบเลขาฯ มืออาชีพ ทำให้คุณนำสรุปไปเขียนอีเมลส่งหาลูกค้าต่อได้เลย

4. AI CRM เช่น Hubspot AI, Salesforce Einstein

ส่วนตัวผมเคยใช้แต่ Hubspot AI เพียงแค่นั้น แต่ก็ทราบดีว่าของ Salesforce ซึ่งเป็น CRM เบอร์หนึ่งของโลกก็สามารถทำได้เช่นกัน จะดีมั้ยถ้า CRM เมื่อก่อนต้องมานั่งดึงข้อมูลทำ Insight Data แต่เดี๋ยวนี้แค่ถาม AI ก็รู้แล้วครับว่าดีลของคุณตอนนี้เป็นอย่างไร

จัดลำดับความสำคัญของ Lead: AI จะวิเคราะห์ข้อมูล Lead (พฤติกรรมการเข้าชมเว็บไซต์ ประวัติการตอบสนอง ข้อมูลบริษัท) เพื่อบอกว่า Lead รายใดมีโอกาสปิดการขายสูงที่สุด และควรให้ความสำคัญก่อน

ทำ Sales Forecast แบบไม่ต้องนั่งหาข้อมูลเอง: ลองป้อนไปง่ายๆ ว่า “ดีลที่จะปิดสิ้นเดือนนี้” AI จะดึงข้อมูลมาให้ดูภายในพริบตา หรือถามเรื่องการซื้อขายในอดีตเมื่อเทียบกับตอนปัจจุบันว่าแตกต่างกันอย่างไรได้แบบโคตรง่าย

ให้คำแนะนำว่าแต่ละไปป์ไลน์ (ดีล) จะปิดการขายหรือ Next Step อย่างไร: อารมณ์เดียวกับการถาม ChatGPT ว่าไปป์ไลน์นี้จะทำยังไงต่อดี เพียงแต่ CRM เจ๋งกว่านั้นคือมันรู้ข้อมูลคร่าวๆ กับสถานะการขายที่เราบันทึก ทำให้ AI มอบคำแนะนำหลายๆ อย่างเพื่อให้เกิด Next Step ได้ เช่น เจ้านี้ควรสาธิต เจ้านี้ควรเจอ C-Level เป็นต้น เรียกได้ว่าช่วยแนะนำได้ดีพอๆ กับหัวหน้าเซลล์เลย

นี่คือ AI ที่ผมเอามาใช้กับงานขายจริงซึ่งผมเชื่อว่าในอนาคตอันใกล้จะมีเครื่องมือที่เจ๋งๆ กว่านี้แน่นอน แต่ที่เอามาให้อ่านคือของจริงในระดับปฎิบัติการ ที่สำคัญคือยัง “ฟรี” อยู่ครับ ใครมีอะไรเจ๋งๆ มากกว่านี้ก็แนะนำกันมาได้นะครับ

Leave your vote

Comments

0 comments

Similar Posts